-
พระฯแท้ในราคาไม่แรงขายตามราคาที่ลงไว้ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ราคาที่รับได้
ผ่านเลยครับท่าน จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย -
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ*** พระฯมาใหม่จะลงไว้ช่วงหน้าต้นๆ
*** ค้นหาพระฯเฉพาะ เข้าดูตามหมวดหรือพิมพ์ชื่อที่ช่องค้นหา
หมวด พระเกจิภาคอีสานใต้
เหรียญอายุครบ ๗ รอบ หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาน จ.บุรีรัมย์ พ.ศ.๒๕๔๙
ชื่อร้านค้า | อัปสรา อมิวเลท - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญอายุครบ ๗ รอบ หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาน จ.บุรีรัมย์ พ.ศ.๒๕๔๙ |
อายุพระเครื่อง | 18 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคอีสานใต้ |
ราคาเช่า | 350 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 0897673123 |
อีเมล์ติดต่อ | tociii2003@yahoo.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 25 ก.ย. 2564 - 22:36.00 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 25 ก.ย. 2564 - 22:36.00 |
รายละเอียด | |
---|---|
+ เนื้อทองแดง เก็บดี สวยมาก ขนาดกว้าง 2.6 ซ.ม. สูง 4.7 ซ.ม. หลวงปู่จันทร์แรมท่านมรณภาพอย่างสงบเมื่อ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2552 + ขายตามราคาที่ลงไว้ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ราคาที่รับได้ ผ่านเลยครับท่าน จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย + สภาพตามรูปที่ลงไว้ไม่ถ่ายรูปสด ไม่ถ่ายพระกับบัตร ปชช./บช.ธนาคาร (มีพระฯจำนวนมากรื้อค้นลำบาก) + พร้อมส่ง ปณ.ลงทะเบียน, รายการที่ราคาถึง 500 บาท ส่งด่วน EMS +++ การติดต่อ +++ LINE id : apsara888 (ไม่รับเชคพระ-ขออภัยด้วย) facebook : พระเครื่องร้านอัปสรา อมิวเลท โทร. : 089-7673123 (23.9.64.2)1 ++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก www.itti-patihan.com ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย “ "หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ" หรือพระครูเขมคุณโสภณ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนเป็นอย่างมาก อัตโนประวัติหลวงปู่จันทร์แรม มีนามเดิมว่า จันทร์ ร้อยตะคุ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2465 ที่บ้านปะหลาน ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของนายอ่อนสีและนางแก้ว ร้อยตะคุ ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา พออายุได้ 17 ปี บิดามารดาได้ให้บุตรชายบวชเรียนเป็นสามเณร ณ วัดสระทองนพคุณ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยมีพระครูจันทรศรีธีรคุณ เจ้าคณะอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เป็นพระอุปัชฌาย์ ในช่วงเป็นสามเณร ท่านสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และเอก ตามลำดับ ครั้นพออายุครบ 20 ปี ท่านได้ลาสิกขาเดินทางกลับบ้าน ช่วยงานงานรับจ้างปลูกพืชผักสวนครัว นำไปขายได้เงินเลี้ยงครอบครัว ต่อมาท่านเกิดความเบื่อหน่ายในการครองชีวิตฆราวาสหลายครั้งหลายครา อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดความสลดสังเวชใจ จนกระทั่งถึงกาลเวลาแห่งบารมีธรรม ท่านจึงตัดสินใจเป็นแน่วแน่ว่าจะบวช เมื่อตัดสินใจบวช โยมบิดามารดาได้นำไปฝากเป็นนาคที่วัดกระดึงทอง ซึ่งขณะนั้นมีพระอาจารย์แก้วเป็นผู้ปกครอง ในสมัยนั้น การบวชเป็นพระสายธรรมยุตเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร จะต้องเดินทางไปเป็นแรมคืน เพราะในแถบจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ที่เป็นวัดธรรมยุตมีพัทธสีมา สามารถให้การอุปสมบทได้ มีเพียงวัดเดียวเท่านั้นคือ วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบูรพาราม เมื่อปีพ.ศ.2488 โดยมีพระครูรัตนากรวิสุทธิ์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูคุณสารสัมปัน (หลวงปู่โชติ คุณสัมปันโน) วัดวชิราลงกรณวราราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า เขมสิริ ถึงแม้หลวงปู่จันทร์แรมจะไม่ได้อยู่อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ในฐานะที่เป็นสัทธิวิการิก แต่ท่านก็ยึดถือปฏิปทาของพระอุปัชฌาย์เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ท่านเป็นพระที่พูดน้อย แต่เคร่งครัดในการปฏิบัติ ยึดมั่นในพระธรรมวินัยเป็นหลักตามแบบฉบับของหลวงปู่ดูลย์ สิ่งเหล่านี้ หลวงปู่จันทร์แรมได้ยึดถือเป็นแบบปฏิบัติ ดังปรากฏเป็นคติสอนศิษยานุศิษย์เรื่อยมาจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ครั้นบวชได้ 4 พรรษา วันหนึ่ง หลวงปู่จันทร์แรม ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารย์มั่น โดยพระอาจารย์มั่นได้ให้โอวาทกับหลวงปู่จันทร์แรม ว่า "การภาวนาอย่านอน 3 ทุ่ม 4 ทุ่มจึงนอน นอนตื่นเดียวไม่ให้นอนซ้ำ เมื่อตื่นขึ้นให้ภาวนาต่อ ก่อนภาวนาต้องมีสติ เอาใจใส่ต่องานที่เราทำ อย่าทำแบบลวกๆ กลางวันอย่านอน ให้เดินจงกรมนั่งสมาธิ ให้ไปทำหลังวัดที่เป็นป่ากระบาก นอกจากนั้นให้ไปที่ถ้ำพระบ้านนาใน เป็นถ้ำที่มีเสือเดินผ่าน ด้วยความกลัวจะทำให้จิตเป็นสมาธิเร็ว อย่าขี้เกียจ" โอวาทธรรมที่หลวงปู่จันทร์แรมได้รับจากท่านพระอาจารย์มั่นในครั้งนั้น เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่หลวงปู่จันทร์แรมมีโอกาสได้รับธรรมะโดยตรงจากพระอาจารย์มั่น เป็นที่ปลื้มปีติและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ในเมตตาธรรมของครูบาอาจารย์ ทั้งนี้ หลวงปู่จันทร์แรม เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นอย่างดียิ่ง มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของศิษย์ยานุศิษย์มากมาย ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ พ่อค้า และประชาชนทั่วไปทั่วทุกภาคของประเทศ และต่างประเทศ ในช่วงบั้นปลายชีวิต หลวงปู่จันทร์แรม เริ่มอาพาธด้วยโรคหัวใจ ต้องเข้ารับการรักษาและดูแลจากคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด กระทั่งเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2552 หลวงปู่จันทร์แรม กำลังฉันภัตตาหารเพล เกิดหมดสติล้มฟุบลงกับพื้น คณะศิษย์ที่อยู่บริเวณนั้นต่างช่วยกันรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ ครั้นมาถึงโรงพยาบาลเอกชนฯ คณะแพทย์ช่วยกันปั๊มหัวใจ กระทั่งหลวงปู่จันทร์แรมหัวใจทำงานอีกครั้ง แต่หลวงปู่จันทร์แรมยังไม่รู้สึกตัว จึงได้นำตัวหลวงปู่จันทร์แรม ส่งไปรักษาต่อที่ห้องไอ.ซี.ยู. โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จากนั้น หลวงปู่จันทร์แรม มีสภาพเหมือนคนนอนหลับ ไม่รู้สึกตัว โดยคณะแพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจและให้น้ำเกลือ กระทั่งเวลา 01.20 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2552 หลวงปู่จันทร์แรม ได้มรณภาพลงอย่างสงบ สร้างความโศกสลดให้แก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก “ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments