-
พระฯแท้ในราคาไม่แรงขายตามราคาที่ลงไว้ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ราคาที่รับได้
ผ่านเลยครับท่าน จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย -
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ*** พระฯมาใหม่จะลงไว้ช่วงหน้าต้นๆ
*** ค้นหาพระฯเฉพาะ เข้าดูตามหมวดหรือพิมพ์ชื่อที่ช่องค้นหา
หมวด พระเกจิสายนครปฐม
เหรียญหลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร (เหรียญสร้างเสริมรุ่นแรก) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
ชื่อร้านค้า | อัปสรา อมิวเลท - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญหลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร (เหรียญสร้างเสริมรุ่นแรก) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเกจิสายนครปฐม |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | tociii2003@yahoo.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | จ. - 21 พ.ค. 2561 - 11:10.38 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 03 ม.ค. 2562 - 19:22.15 |
รายละเอียด | |
---|---|
+++ การติดต่อ +++ โทร. : 089-7673123 facebook : เพจ พระเครื่องร้านอัปสรา อมิวเลท e-mail : tociii2003@yahoo.com line id : @bgy1415d (17.3.4) + เป็นเหรียญที่ทางวัดจัดสร้างโดยใช้บล็อคเหรียญรุ่นแรกมาปั๊ม, หลวงพ่อปลุกเสก ++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก www.tnews.co.th ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย " หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม ท่านเป็นบุตรของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กับหม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ ๕ต.ค.๒๔๖๐ ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่าขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ ๒ เดือน เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาถซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ยโดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก๓ พ่อซึ่งเสด็จเตี่ยคือพ่อผู้ให้กำเนิด นายเอมเป็นพ่อเลี้ยงดูพร้อมกับหลวงปู่ศุขเป็นพ่อผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คืออยู่สถาพร ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เมื่อเกิดมาแล้วก็ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต จึงได้มาศึกษาในก.ท.ม.ที่ร.ร.อัสสัมชัญ จนจบมัธยมปลายจากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนจบจึงได้รับราชการทหารบกจวบได้รับยศร้อยเอกและเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง ๒ครั้งคือสงครามอินโดจีนและสงครามมหาบูรพา พอกลับจากศึกสงครามถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอาถูกจองจำพร้อมกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม – หลวงเสรี – หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆในข้อหาอาชญากรสงคราม เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่วัดกัลยาณมิตรฝั่งธนบุรี ท่านตั้งใจบวชเพียง ๑๕ วันแต่พอบวชได้ ๓วันก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีกจึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิงจอมพล ป. พิบูลสงครามได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึกทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย พบนครร้างในนิมิต ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะมาบุกเบิกทุ่งร้างกลางป่าทึบให้มาเป็นวัดวาอารามอันพรั่งพร้อมไปด้วย โบสถ์ วิหาร ศาลา โรงธรรมที่สวยงามนั้น ท่านกล่าวว่า – ขณะที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในก.ท.ม.ท่านได้เกิดนิมิตขึ้นว่าได้เห็นปราสาทร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งการนิมิตเห็นนี้ไม่ได้หลับตาเห็น แต่เป็นแบบลืมตาเห็นภาพขึ้นมา เมืองร้างแห่งที่ท่านพบเห็นในนิมิตนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่มากมายมหาศาล คนเฝ้าสมบัติล้ำค่านี้บอกกับท่านว่า…. ใครจะมาเอาสมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ คนที่จะมาเป็นเจ้าของจะต้องมาสร้างเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเหมือนเดิมเสียก่อน และคนที่จะมาอยู่เมืองนี้ได้จะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาความเจริญขึ้นมาไม่ได้นอกจากพินาศล่มจมเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งเมืองธรรมานครอมรวดีศรีธานินทร์ มหินทรามหาเลิศลบภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์มาก่อน หลังจากหลวงพ่อสำเนียงได้นิมิตเห็นเมืองธรรมานครแล้วท่านเดินทางสู่เมืองร้างแห่งนี้โดยทางรถไฟไปลงสถานีงิ้วราย จากนั้นลงเรือต่อไปตลาดลำพญาต่อเรือไปอีก๓ ช.ม.จึงถึงตลาดลำพญาจากตลาดเดินเท้าอีก๔ ก.ม.โดยประมาณจึงถึงวัดแหลมชะอุย เป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าเหลือแต่ซากปรักหักพัง พอให้รู้ว่าสถานที่นั้นเคยเป็นวัดมาก่อนที่ๆแห่งนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด ทำให้สถานที่นั้นร่มรื่นและเงียบสงัดวังเวงยิ่งนัก จึงมีสัตว์นาๆชนิด เช่นงูเห่า งูจงอางเป็นต้นเพราะปราศจากผู้คนสัญจรไปมา มีแต่บริเวณทุ่งกว้างที่ร้างซึ่งมีเด็กเลี้ยงควายอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น เด็กพวกนั้นปราศจากเสื้อผ้านุ่งห่มเพราะความแห้งแล้งทุรกันดารความยากจนของครอบครัว พ่อแม่เด็กเหล่านั้นหากินทางทุจริตลักลอบหาวัตถุโบราณในบริเวณวัดร้างแห่งนี้เพื่อนำเอาไปขาย เมื่อท่านไปถึงท่านได้เดินเข้าไปดูในโบสถ์ปรากฏว่าถูกปัดกวาดดูสะอาดสะอ้าน คล้ายกับมีคนมาอาศัยอยู่ ท่านจึงตัดสินใจที่จะอยู่ ณ. วัดร้างแห่งนี้ โดยท่านตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านในถิ่นนี้ให้เจริญ ท่านจึงได้ยึดเอาโบสถ์เป็นที่อยู่อาศัย แต่ท่านหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่องสุมของพวกโจรและเสือร้ายปล้นฆ่าชื่อดัง คือ เสือแคล้ว เสือสด เสือเลียง เสือสมหมาย เสือผาด ทั้ง ๕เสือดังกล่าวทางการได้หมายหัวเอาไว้แล้วว่าต้องจับตายลูกเดียว พวกนี้หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาแบ่งปันที่นี่ประจำเพราะเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างจังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี มีอยู่วันหนึ่งเสือร้ายเหล่านั้นปล้นทรัพย์ได้มาก็นัดกันมาแบ่งสมบัติที่โบสถ์ร้างแห่งนี้ เมื่อเสือแคล้วมาแอบเห็นหลวงพ่อสำเนียงอยู่ในวัดก็สบถจะต้องฆ่าพระองค์นี้ให้ได้ เพราะกลัวท่านมารู้เห็นความลับ อีกหรือท่านปลอมมาเป็นพระเพื่อมาสืบจากทางราชการ เสือแคล้วจึงตกลงกับพวกอีก๔ เสือจะต้องฆ่าท่านคืนแรกเสือแคล้วมาคนเดียวก้าวเข้าไปยืนในโบสถ์เห็นเพียงแสงเทียนสลัวๆพอเห็นว่ามีพระนั่งสมาธิอยู่ เมื่อเพ่งเข้าไปหมายจะฆ่าหลวงพ่อปรากฏว่า คุณพระช่วยภาพที่เขามองเห็นไม่ได้มีพระอยู่องค์เดียวเหมือนที่เขาเห็นตอนกลางวันเสียแล้ว เพราะภายในโบสถ์เต็มไปด้วยพระสงฆ์ห่มสีกลักกำลังนั่งสมาธิเต็มไปหมด พระเหล่านั้นต่างนั่งสมาธิอย่างสงบโดยไม่สนใจกับภายนอกโบสถ์เลย เสือแคล้วนึกอยู่ในใจว่าพระมาจากไหนเยอะแยะก็ตอนกลางวันเห็นมีอยู่องค์เดียว ส่วนมือยังกำปืนแน่นอยู่ในลักษณะพร้อมยิงเสมอ ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะไม่ทราบว่าจะทำวิธีไหนที่จะฆ่าพระได้หมด หลังจากนั้นสหายอีก๔ เสือก็ผลัดกันมาทุกคืนโดยผลัดเปลี่ยนกันกับเพื่อนทุกคนในกลุ่ม ผลปรากฏว่าเหตุการณ์เหมือนกันทุกครั้ง ๔วันเต็มๆ ผลสุดท้ายเขาและเพื่อนยอมแพ้ในอภินิหารที่ได้ประสพมาจึงไม่อาจฆ่าท่านได้ ซึ่งคงเป็นเพราะบารมีของท่านซึ่งปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเสมอมานั่นเอง เช้าของวันที่ ๕ พวกเสือร้าย ๕คนได้ปรึกษาหารือกันเข้าไปกราบหลวงพ่อสำเนียงในโบสถ์และเล่าความจริงให้ท่านฟัง พวกเขาแนะนำตัวเองหลวงพ่อจึงถามไปว่า โยมพากันมาทำไมที่นี่ เสือแคล้วและพวกจึงสารภาพว่าต้องการมากราบขอขมาหลวงพ่อ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่พวกเขา หลวงพ่อท่านว่า เวรของผู้จองเวรย่อมไม่ระงับ แต่เวรของผู้ที่ไม่จองเวรย่อมระงับ อาตมาอโหสิให้ แต่กรรมโยมได้กระทำไปนั้นไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน กรรมนั้นย่อมตอบสนองในภายหลังไม่มีใครให้อภัยได้ ดังนั้นขอโยมจงหยุดการกระทำชั่วนั้นๆเสียแล้วให้เริ่มทำความดีต่อไป หมั่นรักษาศีลเพราะศีลจะทำให้ผู้ปฏิบัติให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทั้งในภพปัจจุบันนี้และจะนำสู่สุขคติและนิพพานในภพหน้า เมื่อได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เสือร้ายทั้ง๕ สำนึกผิดและซาบซึ้งในโอวาทของหลวงพ่อสำเนียง พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามจึงได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมได้ปวารณาตัวว่าจะเลิกทำชั่ว แล้วตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อไป นี่แหล่ะคือสัจธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ให้ชาวโลกละความชั่ว ประพฤติแต่ความดีในที่สุดธรรมะย่อมชนะอธรรม สมดังที่พระองค์ตรัสไว้ทุกประการ สาธุ… ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้ ศิษย์มีครู แอพเกจิ – AppGeji เรียบเรียงโดย ศักดิ์ศรี บุญรังศรี " |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments