รูปถ่ายหลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี-อัปสรา อมิวเลท - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

อัปสรา อมิวเลท

พระฯแท้ในราคาไม่แรง

ขายตามราคาที่ลงไว้ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ราคาที่รับได้
ผ่านเลยครับท่าน จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ

*** พระฯมาใหม่จะลงไว้ช่วงหน้าต้นๆ
*** ค้นหาพระฯเฉพาะ เข้าดูตามหมวดหรือพิมพ์ชื่อที่ช่องค้นหา

ซื่อตรง คุณภาพ รับประกัน

หมวด พระเกจิภาคตะวันออก

รูปถ่ายหลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

รูปถ่ายหลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี - 3

ชื่อร้านค้า	อัปสรา อมิวเลท - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	taipan (759)
ชื่อพระเครื่อง	รูปถ่ายหลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเกจิภาคตะวันออก
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	tociii2003@yahoo.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 19 ต.ค. 2560 - 21:40.37
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 15 ต.ค. 2564 - 20:35.18

รายละเอียด
+ เลี่ยมเดิมจากวัด (9.10.60.2) ++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก www.tnews.co.th ซึ่งอ้างจาก http://forums.ittiyano.com ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย " หลวงพ่อกล้วย หรือ พระครูญาณวรกิจ แห่งวัดหมูดุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๔๕๑ และมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๔พฤษภาคม ๒๕๓๔อายุ ๘๓ปี ๒ เดือน พรรษา ๖๓ ท่านเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์สังข์เฒ่า วัดเก๋งจีน ร่วมสำนักเดียวกันกับหลวงปู่ทิมของเรานั่นเอง ท่านเป็นพระที่เคร่งในพระวินัยมาก วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุด ในอดีตท่านได้รับการยอมรับเเละได้รับเชิญร่วมการปลุกเสกวัตถุมงคลจากวัดสุทัศน์เเทบทุกครั้ง วิชาที่ขึ้นชื่อก็คือสามารถควบคุมกสิณ ดิน น้ำ ลม ไฟ วัตถุมงคลของท่านตั้งเเต่ยุคต้นจนถึงยุคปลาย ล้วนเป็นที่ต้องการของนักสะสมมากมาย เเม้เเต่รูปถ่ายท่าน ชาวบ้าน อ.สอยดาว ยังเล่าให้ฟังว่า อาก้ายังไม่ได้กินเลย... ปี ๒๕๒๑ เจ้าของรีสอร์ทที่เจ้าหลาวกับยามลูกน้องอีกคน ทนโดนยกเค้าของในรีสอร์ทไม่ไหวเลยวางเเผนที่จะจับขโมยให้ได้ ราว ๒ ทุ่มกว่า ๆ ขโมยมันก็ย่องมาขโมยของมีค่าอีก ยามจึงส่งเสียงให้หยุดพร้อมกับเล็งปืนลูกซองใส่ พร้อมเจ้าของรีสอร์ทก็ใช้ปืนอีกกระบอกหนึ่ง ขโมยมันกระโดดปีนหลังคาเเล้วกระโดดข้ามกำแพง เจ้าของรีสอร์ทเลยลั่นไกไป ๒ ครั้ง เเชะทั้ง ๒ครั้ง ยามวิ่งตามออกไป ห่างกันเเค่ไม่กี่เมตร ยามกดลูกซองอีก ๓ครั้ง แชะทุกครั้ง จนขโมยวิ่งหนีหายไปในความมืด หลังจากนั้นก็สืบว่าขโมยเป็นใครและมีอะไรดี ก็รู้ว่าเเขวนเหรียญยืนหลวงพ่อกล้วย หลังจากนั้นจึงไปตามตัวที่บ้าน วางเเผนอุ้มด้วยความโกรธเเค้น กระชากสร้อยเส้นนี้ออกและสับไกลูกซองกระบอกเดิม ผลปรากฏว่าตายทั้งคู่ ส่วนยามก็เก็บเหรียญยืนนี้ติดตัวไว้เเล้วหนีไปอยู่ที่ปทุมธานี จนญาติของขโมยคิดที่จะเเก้เเค้น ตามไปยิงยามคนนี้ที่ปทุมธานี แต่ปืนก็ยิงไม่ออกเหมือนกัน ยามคนนี้ก็มาขอขมาต่อญาติของขโมยและขอบวชที่วัดหมูดุด แต่หลวงพ่อพ่อท่านไม่ให้บวช เรื่องนี้ดังมากในแถบท่าใหม่ ซึ่งสมัยนั้น ต.คลองขุด ยังไม่เจริญนัก การคมนาคมไม่สะดวกเลย สัตว์ป่าเยอะมาก ปัจจุบันสังขารของท่านนอนอย่างสงบอยู่ในโลงแก้ว โดยไม่เน่าเปื่อย... "

รายละเอียด

+ เลี่ยมเดิมจากวัด
(9.10.60.2)

++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก www.tnews.co.th ซึ่งอ้างจาก http://forums.ittiyano.com
ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
" หลวงพ่อกล้วย หรือ พระครูญาณวรกิจ แห่งวัดหมูดุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๔๕๑ และมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๔พฤษภาคม ๒๕๓๔อายุ ๘๓ปี ๒ เดือน พรรษา ๖๓ ท่านเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์สังข์เฒ่า วัดเก๋งจีน ร่วมสำนักเดียวกันกับหลวงปู่ทิมของเรานั่นเอง ท่านเป็นพระที่เคร่งในพระวินัยมาก วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุด ในอดีตท่านได้รับการยอมรับเเละได้รับเชิญร่วมการปลุกเสกวัตถุมงคลจากวัดสุทัศน์เเทบทุกครั้ง วิชาที่ขึ้นชื่อก็คือสามารถควบคุมกสิณ ดิน น้ำ ลม ไฟ วัตถุมงคลของท่านตั้งเเต่ยุคต้นจนถึงยุคปลาย ล้วนเป็นที่ต้องการของนักสะสมมากมาย เเม้เเต่รูปถ่ายท่าน ชาวบ้าน อ.สอยดาว ยังเล่าให้ฟังว่า อาก้ายังไม่ได้กินเลย...
ปี ๒๕๒๑ เจ้าของรีสอร์ทที่เจ้าหลาวกับยามลูกน้องอีกคน ทนโดนยกเค้าของในรีสอร์ทไม่ไหวเลยวางเเผนที่จะจับขโมยให้ได้ ราว ๒ ทุ่มกว่า ๆ ขโมยมันก็ย่องมาขโมยของมีค่าอีก ยามจึงส่งเสียงให้หยุดพร้อมกับเล็งปืนลูกซองใส่ พร้อมเจ้าของรีสอร์ทก็ใช้ปืนอีกกระบอกหนึ่ง ขโมยมันกระโดดปีนหลังคาเเล้วกระโดดข้ามกำแพง เจ้าของรีสอร์ทเลยลั่นไกไป ๒ ครั้ง เเชะทั้ง ๒ครั้ง ยามวิ่งตามออกไป ห่างกันเเค่ไม่กี่เมตร ยามกดลูกซองอีก ๓ครั้ง แชะทุกครั้ง จนขโมยวิ่งหนีหายไปในความมืด หลังจากนั้นก็สืบว่าขโมยเป็นใครและมีอะไรดี ก็รู้ว่าเเขวนเหรียญยืนหลวงพ่อกล้วย หลังจากนั้นจึงไปตามตัวที่บ้าน วางเเผนอุ้มด้วยความโกรธเเค้น กระชากสร้อยเส้นนี้ออกและสับไกลูกซองกระบอกเดิม ผลปรากฏว่าตายทั้งคู่ ส่วนยามก็เก็บเหรียญยืนนี้ติดตัวไว้เเล้วหนีไปอยู่ที่ปทุมธานี จนญาติของขโมยคิดที่จะเเก้เเค้น ตามไปยิงยามคนนี้ที่ปทุมธานี แต่ปืนก็ยิงไม่ออกเหมือนกัน ยามคนนี้ก็มาขอขมาต่อญาติของขโมยและขอบวชที่วัดหมูดุด แต่หลวงพ่อพ่อท่านไม่ให้บวช เรื่องนี้ดังมากในแถบท่าใหม่ ซึ่งสมัยนั้น ต.คลองขุด ยังไม่เจริญนัก การคมนาคมไม่สะดวกเลย สัตว์ป่าเยอะมาก

ปัจจุบันสังขารของท่านนอนอย่างสงบอยู่ในโลงแก้ว โดยไม่เน่าเปื่อย... "