พระปิดตาบูชาครู มหามงคล82 เนื้อทองผสม หลวงปู่เผือก วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ สร้าง 2,599 องค์-สังข์มงคล - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

สังข์มงคล

สำหรับคนรักพระ เรามาแลกเปลี่ยนกัน ด้วยราคามิตรภาพ ไม่เอารวย ขอแค่สุขใจครับ

หมวด พระเกจิภาคอีสานใต้

พระปิดตาบูชาครู มหามงคล82 เนื้อทองผสม หลวงปู่เผือก วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ สร้าง 2,599 องค์

พระปิดตาบูชาครู มหามงคล82 เนื้อทองผสม หลวงปู่เผือก วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ สร้าง 2,599 องค์ - 3

พระปิดตาบูชาครู มหามงคล82 เนื้อทองผสม หลวงปู่เผือก วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ สร้าง 2,599 องค์ - 4

พระปิดตาบูชาครู มหามงคล82 เนื้อทองผสม หลวงปู่เผือก วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ สร้าง 2,599 องค์ - 5

ชื่อร้านค้า	สังข์มงคล - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ป_สังข์มงคล (91)
ชื่อพระเครื่อง	พระปิดตาบูชาครู มหามงคล82 เนื้อทองผสม หลวงปู่เผือก วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ สร้าง 2,599 องค์
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเกจิภาคอีสานใต้
ราคาเช่า	350 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	097-3171532 LINE ID: fasai_yui
อีเมล์ติดต่อ	exd_prem@outlook.co.th
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 17 พ.ย. 2559 - 22:20.10
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 17 พ.ย. 2559 - 22:20.10

รายละเอียด
หลวงปู่เผือก สุภัทโท" หรือ พระครู สุภัทรโพธิคุณ วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าตูมจังหวัดสุรินทร์ พระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคม เจ้าตำรับมหาอุดหยุดกระสุน อายุ 82 ปี ศิษย์หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก จ.เพชรบูรณ์ และหลวงปู่ธรรม รังษี วัดพระพุทธบาท พนมดิน จ.สุรินทร์ นามเดิมท่าน คือ เผือก ศรีสว่าง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. 2476 ที่บ้านโพนดวน หมู่ 6 ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พ.ศ.2495 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 19 ปี จากนั้นในปี พ.ศ.2496 อุปสมบท ที่พัทธสีมา วัดบ้านเปือยป่าน ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ โดยมีพระมหาคำ อโสโก เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการน้อย อนาทโย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการอินทร์ อินทปัญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุภัทโท หลังอุปสมบทออกจาริกแสวงหาความรู้ในด้านต่างๆ ทั้งทางธรรมและวิทยาคมจากพระอาจารย์หลายรูป พรรษาแรกได้จำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยถั่วใต้ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ พ.ศ.2499 จำพรรษาที่วัดคลองอนงค์ พ.ศ.2500 จำพรรษาที่วัดคลองขลุง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในระหว่างนั้นท่านสอบนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ได้ที่สำนักเรียนวัดดอนรังนก จ.ชัยนาท หลังจากนั้น เดินทางไปจำพรรษาที่วัดพลร่มป่าหวาย จ.ลพบุรี ตลอดเวลาที่ได้ศึกษาธรรมในสถานที่ต่างๆ ท่านเรียนภาษาขอม เขมร ตลอดจนอักขระต่างๆ จนมีความชำนาญทั้งวิทยาคม การรักษาโรคจากพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวัดป่า, หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง ซึ่งหลวงปู่ทั้งสามเมตตาสั่งสอนและแนะนำการกำหนดจิต การครองตน ถึงแม้ว่าจะสังกัดนิกายต่างกัน ช่วงปลายปี พ.ศ.2501 ท่านจาริกเข้ามายังวัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่ (แบบยุบหนอ-พองหนอ) กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ จากนั้นออกธุดงค์อีกครั้ง ตั้งแต่ภาคกลาง ขึ้นไปภาคเหนือแล้วลงมาภาคใต้ มีโอกาสได้พบหลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก และได้รับการถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดและวิชายารักษาโรคต่างๆ รวมทั้งเรียนทำตะกรุดเมตตา จากหลวงพ่อเจริญที่ถ้ำเขาอีหลักอีกด้วย พ.ศ.2503 กลับบ้านเกิดมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ โดยการแนะนำของ "หลวงปู่ศรี" หรือ พระครูสิริธรรมคุต เจ้าคณะตำบลหนองบัว และพระครูประภัศร์คณารักษ์ (จันทร์ ปภัสสโร) เจ้าคณะอำเภอท่าตูมในขณะนั้น เมื่อปี พ.ศ.2505 พ.ศ.2507 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยหมากมี่ จนถึงปัจจุบัน ท่านได้สร้างเสนาสนะต่างๆ ขึ้นใหม่มากมาย เช่น โรงเรียนพระปริยัติธรรม ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และอุโบสถเก่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.2514 ลำดับสมณศักดิ์ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ในราชทินนาม พระครูสุภัทรโพธิคุณ พ.ศ.2548 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม และพ.ศ.2556 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าตูม ตลอดระยะเวลาที่จำวัดอยู่ที่นี่ หลวงปู่ก็ยังหาเวลาออกจาริกไปยังที่ต่างๆ หลังออกพรรษาเพื่อฝึกตนและสั่งสอนญาติโยมอยู่เสมอ ในวาระที่หลวงปู่เผือก อายุวัฒนมงคลครบ 82 ปี และกำลังดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมลง ซึ่งยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก จึงดำริจัดสร้างวัตถุมงคล "รุ่นมหามงคล 82" รวม 3 แบบ คือ 1.พระปรก ใบมะขาม (รุ่นแรก) 2.พระปิดตาบูชาครู (รุ่นแรก) สร้างเพื่อระลึกถึง พระครูสิริธรรมคุต หรือ หลวงปู่ศรี อดีตเกจิแห่งวัดจำปาหนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ผู้เป็นอาจารย์ โดยพระปิดตาหรือพระปิดทวารของหลวงปู่ศรี ซึ่งหายากและมีราคาเช่าบูชาสูง 3.ล็อกเกตครึ่งองค์มหามงคล รุ่นแรก ฉากทองซูเปอร์จัมโบ้, ฉากทอง จัมโบ้ และฉากฟ้าเบอร์ 1 ฉากขาวเบอร์ 1

รายละเอียด

หลวงปู่เผือก สุภัทโท" หรือ พระครู สุภัทรโพธิคุณ วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าตูมจังหวัดสุรินทร์ พระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคม เจ้าตำรับมหาอุดหยุดกระสุน อายุ 82 ปี ศิษย์หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก จ.เพชรบูรณ์ และหลวงปู่ธรรม รังษี วัดพระพุทธบาท พนมดิน จ.สุรินทร์

นามเดิมท่าน คือ เผือก ศรีสว่าง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. 2476 ที่บ้านโพนดวน หมู่ 6 ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

พ.ศ.2495 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 19 ปี จากนั้นในปี พ.ศ.2496 อุปสมบท ที่พัทธสีมา วัดบ้านเปือยป่าน ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ โดยมีพระมหาคำ อโสโก เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการน้อย อนาทโย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการอินทร์ อินทปัญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุภัทโท

หลังอุปสมบทออกจาริกแสวงหาความรู้ในด้านต่างๆ ทั้งทางธรรมและวิทยาคมจากพระอาจารย์หลายรูป

พรรษาแรกได้จำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยถั่วใต้ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ พ.ศ.2499 จำพรรษาที่วัดคลองอนงค์ พ.ศ.2500 จำพรรษาที่วัดคลองขลุง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในระหว่างนั้นท่านสอบนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ได้ที่สำนักเรียนวัดดอนรังนก จ.ชัยนาท หลังจากนั้น เดินทางไปจำพรรษาที่วัดพลร่มป่าหวาย จ.ลพบุรี

ตลอดเวลาที่ได้ศึกษาธรรมในสถานที่ต่างๆ ท่านเรียนภาษาขอม เขมร ตลอดจนอักขระต่างๆ จนมีความชำนาญทั้งวิทยาคม การรักษาโรคจากพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวัดป่า, หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง ซึ่งหลวงปู่ทั้งสามเมตตาสั่งสอนและแนะนำการกำหนดจิต การครองตน ถึงแม้ว่าจะสังกัดนิกายต่างกัน

ช่วงปลายปี พ.ศ.2501 ท่านจาริกเข้ามายังวัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่ (แบบยุบหนอ-พองหนอ) กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ

จากนั้นออกธุดงค์อีกครั้ง ตั้งแต่ภาคกลาง ขึ้นไปภาคเหนือแล้วลงมาภาคใต้ มีโอกาสได้พบหลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก และได้รับการถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดและวิชายารักษาโรคต่างๆ รวมทั้งเรียนทำตะกรุดเมตตา จากหลวงพ่อเจริญที่ถ้ำเขาอีหลักอีกด้วย

พ.ศ.2503 กลับบ้านเกิดมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัยหมากมี่ โดยการแนะนำของ "หลวงปู่ศรี" หรือ พระครูสิริธรรมคุต เจ้าคณะตำบลหนองบัว และพระครูประภัศร์คณารักษ์ (จันทร์ ปภัสสโร) เจ้าคณะอำเภอท่าตูมในขณะนั้น เมื่อปี พ.ศ.2505

พ.ศ.2507 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยหมากมี่ จนถึงปัจจุบัน

ท่านได้สร้างเสนาสนะต่างๆ ขึ้นใหม่มากมาย เช่น โรงเรียนพระปริยัติธรรม ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และอุโบสถเก่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.2514

ลำดับสมณศักดิ์ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ในราชทินนาม พระครูสุภัทรโพธิคุณ พ.ศ.2548 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม และพ.ศ.2556 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอท่าตูม

ตลอดระยะเวลาที่จำวัดอยู่ที่นี่ หลวงปู่ก็ยังหาเวลาออกจาริกไปยังที่ต่างๆ หลังออกพรรษาเพื่อฝึกตนและสั่งสอนญาติโยมอยู่เสมอ

ในวาระที่หลวงปู่เผือก อายุวัฒนมงคลครบ 82 ปี และกำลังดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมลง ซึ่งยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก

จึงดำริจัดสร้างวัตถุมงคล "รุ่นมหามงคล 82" รวม 3 แบบ คือ 1.พระปรก ใบมะขาม (รุ่นแรก) 2.พระปิดตาบูชาครู (รุ่นแรก) สร้างเพื่อระลึกถึง พระครูสิริธรรมคุต หรือ หลวงปู่ศรี อดีตเกจิแห่งวัดจำปาหนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ผู้เป็นอาจารย์ โดยพระปิดตาหรือพระปิดทวารของหลวงปู่ศรี ซึ่งหายากและมีราคาเช่าบูชาสูง 3.ล็อกเกตครึ่งองค์มหามงคล รุ่นแรก ฉากทองซูเปอร์จัมโบ้, ฉากทอง จัมโบ้ และฉากฟ้าเบอร์ 1 ฉากขาวเบอร์ 1