พระเกจิแห่งภาคตะวันออก - webpra

หัวข้อ: พระเกจิแห่งภาคตะวันออก

กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

พระเกจิแห่งภาคตะวันออก
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ranchu23
ranchu23 (16) (-3) 101.109.169.250
ตั้ง: 3 ตอบ: 3
คะแนน: 0
รายละเอียด

http://www.komchadluek.net/detail/20130204/150938/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99!.html

 

โพสต์เมื่อ อ. - 05 ก.พ. 2556 - 13:36.33
ความคิดเห็นที่ 1:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ranchu23
ranchu23 (16) (-3) 101.109.169.250
ตั้ง: 3 ตอบ: 3
คะแนน: 0
รายละเอียด

พระกริ่งหลวงปู่บัวราคาหลักล้าน!

พระกริ่งหลวงปู่บัวราคาหลักล้าน! : พระองค์ครู โดยไตรเทพ ไกรงู

 

              พระกริ่ง เป็นพระเครื่องที่คนในวงการพระเครื่องเชื่อมากันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ "เซียนพระกริ่ง" ยังเชื่อกันอย่างแน่วแน่ว่า สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ทุกโรค โดยเฉพาะโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ และรักษาด้วยยาไม่ได้
              โดยมีคติความเชื่อว่า ยามใดที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจงอธิษฐานขออำนาจพุทธคุณในพระกริ่ง แล้วนำพระแช่น้ำ จากนั้นก็เอามาดื่ม บ้างก็นำมาอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคล โรคภัย ไข้เจ็บป่วยอยู่นั้น ก็จะหายโดยอัศจรรย์
              ประวัติการสร้าง "พระกริ่ง" มีมาแต่โบราณ ประวัติพระกริ่ง เริ่มขึ้นที่ในประเทศทิเบต และจีน จึงเรียกติดปากว่า พระกริ่งทิเบต และพระกริ่งหนองแส พระกริ่งเป็น พระพุทธเจ้าปางมาช่วยโปรดสัตว์โลก หรือเรียกกันว่า "พระไภสัชคุรุ" เป็น พระพุทธเจ้าปางหนึ่งของลัทธิมหายาน ซึ่งหมายความว่า ทรงเป็นครูในด้านเภสัช คือ การรักษาพยาบาล ต่อมาได้แพร่หลายมาก นิยมสร้างในเขมร เรียกว่า พระกริ่งอุบาเก็ง หรือพระกริ่งพนมบาเก็ง และพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์                        สำหรับพระกริ่งที่มีชื่อเสียงทรงคุณวิเศษหลายประการมีผู้นิยมนับถือกันมากยิ่งในปัจจุบันนี้ยิ่งหายาก ต้องยกให้พระกริ่งวัดสุทัศนฯ เพราะสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงสร้างไว้จำนวนไม่มาก
              การจัดสร้างพระกริ่งในอดีตนั้น สร้างออกมาเพื่อใช้จริงๆ และโดยเฉพาะสายวัดสุทัศนฯ สร้างออกมาอยู่ในหลักสิบองค์ต่อครั้งเท่านั้นที่สำคัญ คือ การแสวงหาแร่ธาตุที่มีคุณต่างๆ นั้น ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย ตามตำราการสร้างพระกริ่งเนื้อนวโลหะ สายวัดสุทัศนฯ ประกอบไปด้วย                            ๑.ชินน้ำหนัก ๑ บาท (๑ บาท = ๑๕.๒ กรัม) ๒.จ้าวน้ำเงิน น้ำหนัก ๒ บาท (แร่ชนิดหนึ่ง สีเขียวปนน้ำเงิน) ๓.เหล็กละลายตัว น้ำหนัก ๓ บาท ๔.บริสุทธิ์ทองแดงบริสุทธิ์ น้ำหนัก ๔ บาท ๕.ปรอท น้ำหนัก ๕ บาท ๖.สังกะสี น้ำหนัก ๖ บาท ๗.ทองแดง น้ำหนัก ๗ บาท ๘.เงิน น้ำหนัก ๘ บาท และ ๙.ทองคำ น้ำหนัก ๙ บาท มาหล่อหลอมให้กินกันดีแล้ว นำมาตีเป็นแผ่น แล้วจารยันต์ ๑๐๘ กับ นะ ปถมัง ๑๔ นะ ครั้นได้ฤกษ์ยามดีก็จะทำพิธีลงยันต์ในพระอุโบสถต่อไป จากนั้นก็นำกลับมาหล่อตามฤกษ์อีกครั้ง
              อย่างไรก็ตามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรามักเข้าใจว่า พระกริ่งที่ขึ้นชื่อว่าราคาแพงนั้น ต้องเป็นพระกริ่งที่สร้างโดย สมเด็จพระสังฆราช (แพ) และฝีมือการแต่งของ อ.นิรันตร์ แดงวิจิตร หรือ อ.หนู แต่ความจริงแล้วยังมีพระกริ่งอีกหลายวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีราคาแพง โดยเฉพาะพระกริ่งที่พระครูสังฆกิจบูรพา หรือหลวงปู่บัว ถามโก เจ้าอาวาสวัดศรีบูรพาราม หรือวัดเกาะตะเคียน หมู่ ๑ ต.วังกะแจะ อ.เมือง จ.ตราดจัดสร้างไว้เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๒               นายณรงค์ศักดิ์ พวงกุหลาบ หรือ “บอย บีเอฟซี ๙๙” เจ้าของธุรกิจเกี่ยวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ ผู้สะสมเหรียญและพระเครื่องหลวงปู่บัว บอกว่าพระกริ่งหลวงปู่เนื้อทองคำ ราคาอยู่ในล้านต้นๆ มีการจัดสร้าง ๓๙ องค์ ส่วนพระชัยวัฒน์เนื้อทองคำอยู่ที่ราคาหลักแสนต้นๆ มีการจัดสร้าง ๓๙ องค์ เป็นองค์ที่ ๓๙ส่วนเนื้อนวโลหะมีการจัดกว่า ๒,๐๐๐ องค์ ซึงมีหลายแบบ เช่น ก้นทองคำ ก้นเงิน ก้นทองแดง และก้นอุดผง โดยเฉลี่ยแล้วจะไม่ต่ำกว่า ๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนก้นทองคำอยู่ในหลักแสนกว่าบาท
              ส่วนเหรียญรุ่น ๑ ออกในงานฝังลูกนิมิต เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔ มีการสร้างออกมา ๒ เนื้อ คือ เนื้อทองคำสร้างไม่ไม่เกิน ๑๐ เหรียญ ใครอยากได้เนื้อนี้ต้องขอในยุคนั้นต้องขออนุญาตเอง ส่วนเนื้อทองแดงนั้นสร้างประมาณ ๒๐,๐๐๐ เหรียญ เนื้อทองแดงมี ๒ บล็อก คือ บล็อกธรรมดา กับ บล็อกแก้มขีดหรือคอขีด ทางคณะกรรมการวัดจำนำออกจำหน่ายในราคาดเหรียญละ ๑๐ บาท ซึ่งกว่าจะหมดใช้เวลาอยู่หลายปี เมื่อเวลาผ่านไปเหรียญรุ่นนี้เริ่มแสดงประสบการณ์ ทั้งด้านแคล้วคลาด ค้าขาย รวมทั้งเมตตาโชคลาภเป็นเลิศ ราคาเหรียญก็เริ่มขยับขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ เมื่อ  ๒-๓ ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้อยู่ในหลักร้อยเท่านั้น ปัจจุบันอยู่ที่หลักหมื่น

โพสต์เมื่อ อ. - 05 ก.พ. 2556 - 13:37.44
ความคิดเห็นที่ 2:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ranchu23
ranchu23 (16) (-3) 101.109.169.250
ตั้ง: 3 ตอบ: 3
คะแนน: 0
รายละเอียด

http://www.komchadluek.net/detail/20130204/150937/ร่วมบุญบูรณะโบสถ์วัดวิเวกวราราม.html

โพสต์เมื่อ อ. - 05 ก.พ. 2556 - 13:38.41
ความคิดเห็นที่ 3:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ranchu23
ranchu23 (16) (-3) 101.109.169.250
ตั้ง: 3 ตอบ: 3
คะแนน: 0
รายละเอียด

ร่วมบุญบูรณะโบสถ์วัดวิเวกวราราม

ร่วมบุญบูรณะโบสถ์วัดวิเวกวราราม

 

              วัดวิเวกวราราม หรือวัดหนองโพรง ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด เป็นวัดที่เรียกตามชื่อหมู่บ้านหนองโพรง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๓ ต่อมา เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ พระธรรมโกศาจารย์ เจ้าคณะภาค ได้มาเยี่ยมวัดต่างๆ ได้มาถึงที่วัดหนองโพรง พักร้อนอยู่ที่นี่เห็นมีความร่มเย็น สงบร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมจึงได้ยื่นเรื่องราวขอเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "วัดวิเวกวราราม" และใช้มาจนถึงทุกวันนี้ ได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๑๖ ปัจจุบันมี พระมหามงคล ยติโก (ปธ.๙) เจ้าคณะตำบลห้วยแร้ง รักษาการเจ้าคณะอำเภอบ่อไร่ เป็นเจ้าอาวาส
              อย่างไรก็ตามตั้งแต่พระมหามงคล มารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่องและโครงการหนึ่งที่ท่านรับเป็นประธาน คือ โครงการลานบุญ ลานปัญญา ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พ.ศ.๒๕๕๕ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม คือ ๑.ส่งเสริมให้ผู้สนใจเชิญชวนลูกหลานมาวัดทำบุญ ฟังธรรม สวดมนต์เจริญภาวนา ๒.ให้ประชาชนคนในชุมชนหมู่บ้านได้ระลึกถึงวันสำคัญทางศาสนา วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา ได้ทำกิจกรรมเวียนเทียน ๓.ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ระลึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเริ่มเข้าวัดปฏิบัติธรรมมากขึ้น และ ๔.ให้เด็กและเยาวชนรุ่นหลังนึกถึงประเพณีเก่าๆ เช่น สรงน้ำพระ ขนทรายเเข้าวัด วันลอยกระทง และวันสงกรานต์
              เพื่อหาทุนมาบูรณะอุโบสถ์ และสร้างเสนาสนะพัฒนาวัดวิเวกวราราม ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา ได้จัดสร้างพระชัยวัฒน์ รุ่นมงคล ๙ ทั้งนี้พระครูสังฆกิจบูรพา หรือ "หลวงปู่บัว ถามโก" เจ้าอาวาสวัดศรีบูรพาราม หรือวัดเกาะตะเคียน หมู่ ๑ ต.วังกะแจะ อ.เมือง จ.ตราด ได้ เมตตานั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ณ อุโบสถ์วัดวิเวกวราราม ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด ในวันเสาร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นี้
              หลวงปู่บัว ถามโก  เป็นพระเกจิอาจารย์ที่กำลังมาแรงที่สุดท่านหนึ่ง ณ ขณะนี้ ถึงขั้นที่ว่าลูกศิษย์ขนานนามให้เป็น "เทพเจ้าแห่งโชคลาภภาคตะวันออก" ด้วยเหตุที่ว่า เคยมีลูกศิษย์มาเยี่ยมเยียนและนำคำสอนของหลวงพ่อไปตีเป็นเลขเด็ดเสี่ยงโชค ปรากฏว่าถูกหวยรวยกันมาแล้ว พอท่านทราบเข้าก็ได้แต่ยิ้ม และยืนยันไม่ได้สนับสนุนบอกใบ้ให้เลขใครทั้งสิ้น ถือว่าใครที่มีโชคลาภแล้วแต่บุญวาสนาของแต่ละคน
              การจัดสร้างพระชัยวัฒน์ รุ่น มงคล ๙ ในครั้งนี้พระมหามงคล ยติโกร่วมกับพระมหาเรวัต ถาวโร วัดสวนพลู กทม. ได้ประกอบพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ ขึ้นที่โรงหล่อพระสามพราน จ.นครปฐม โดยนำชนวนมวลสาระสำคัญมากมาย อาทิ ทองคำแท่ง, เงินบริสุทธิ์, ตะกรุดหลวงปู่บัว ถามวโร, ตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา,แผ่นตะกรุดเก่าเจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทร์ และแผ่นยันต์จากพระเกจิอาจารย์ต่างๆหลายสิบรูป มาทำการหล่อหลอมเพื่อเป็นเนื้อชนวนหลักที่จะนำมาสร้าง พระชัยวัฒน์ รุ่น มงคล ๙ ในครั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญกับพระมหามงคล ยติโก เจ้าอาวาสวัดวิเวกวราราม ได้ที่ โทร.๐๘-๑๘๖๔-๘๖๗๖, ๐๙-๑๑๙๒-๖๕๕๓ และพระมหาเรวัต ถาวโร ๐๘-๗๑๕๑-๕๙๒๖

คนอ่าน 827 คน
โพสต์เมื่อ อ. - 05 ก.พ. 2556 - 13:39.43
Top