หัวข้อ: บ่นกันสนุกครับ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
บ่นกันสนุกครับ
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์:
1
รายละเอียด
สวัสดีครับ...ผมรามิล ช่างบ่นเหมือนเดิมครับ....ต้องขอบอกว่าช่วงนี้หายไปนานเหลือเกิน...เพราะหาเรื่องบ่นสนุก ๆ เกี่ยวกับพระเครื่องยากอยู่....ก็อย่างว่าหล่ะครับ...ช่วงนี้เดินเล่นอยู่นราธิวาสตลอด...หาเวลาไปนั่งส่องพระยากพอดู....พอกลับมาก็มาช่วยแฟนขายของ....เหนื่อยจนแทบไม่อยากส่องกันเลย....แต่เอาเถอะครับ...วันนี้มาฟังผมบ่นกันนะ....
เรื่องแรก....พี่ ๆ เพื่อนเคยมีประสบการณ์สอบถามเรื่องราคาเช่าพระกันบ้างไหมครับ ครั้งนึงสมัยก่อน เคยมีคนเอาพระขุนแผนบ้านกร่าง ซึ่งไม่สวยมากแต่แท้มาสอบถามราคากับผม...ช่วงนั้นถ้าพิมพ์นี้สภาพสวยราคาอยู่ราว ๆ หมื่นนึง เราก็บอกไปด้วยความเกรงใจว่าน่าจะราว ๆ เจ็ดแปดพัน....เท่านั้นหล่ะครับท่าน...บ้านแทบแตก...คนที่ได้ยินแบบนั้นเกิดอาการวิงเวียนจะเป็นลมขึ้นมาทันที...สอบถามไปได้ความว่าเอามาประมาณ หมื่นเจ็ดพัน.....โอ้วววววว......คนเอามาปล่อยช่างเชือดจริง ๆ นี่ยังดีนะที่ถามแค่นั้นถ้าถามว่าถ้าร้อนเงินจะเอาไปปล่อยได้เท่าไร....ผมคงตอบได้แบบไม่คิดว่าถ้ารีบน่าจะได้ประมาณห้าพัน ถ้าไม่รีบมากก็เจ็ดแปดพันนั่นหล่ะ....เพราะฉะนั้นเวลาเจอพระแท้มีราคาผมขอบอกว่าตรวจสอบราคากันนิดนะครับ....สมัยนี้ในเว็ปดูราคาง่ายอยู่ครับ.....โดยส่วนตัวเมื่อผมพอทราบราคาแล้วผมมักจะดรอปราคาลงมาถึงครึ่งนึงก่อนเจรจาต่อรอง......แต่ถ้าราคาที่เจ้าของตั้งไว้มันสูงกว่าราคาเฉลี่ยมากนักถ้าไม่คิดจะเอาเก็บไว้เป็นองค์ครู ผมขอแนะนำให้วางเถอะครับ...
เรื่องต่อไป...พี่ ๆ เพื่อน ๆ เคยได้ยินเรื่องค่ายทหารกำจัดสุนัขไหมครับ.....เรื่องนี้ผมขออนุญาตใส่ความรู้สึกลงไปหน่อยนะครับ....ผมและแฟนเป็นคนที่เลี้ยงสัตว์ทั้งสุนัขและแมว....ที่ค่ายอื่นผมไม่ทราบ...แต่ที่ผมประจำอยู่คือสนามบิน....เอาง่าย ๆ แค่ว่าเครื่องบินบินชนนกหรือนกมาบินชนเครื่องบิน ก็เกิดความเสียหายได้แล้ว....แล้วลองคิดดูว่าถ้าเครื่องบินกำลังจะลงแล้วชนกับสุนัขที่วิ่งผ่านมา...สภาพคงดูไม่จืดแน่...เพราะฉะนั้นการกำจัดสุนัขจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ คำถามคือ...จะจัดการอย่างไง.....ถ้าผมจำไม่ผิดนโยบายของสนามบินปัตตานี ปีนี้จะพยายามจับสุนัขแล้วนำไปปล่อยวัด....ซึ่งทำได้ในระดับนึง....ส่วนที่สนามบินนราธิวาสอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือเลยไม่ทราบว่าทำอย่างไง....ถ้าถามว่าสุนัขพวกนี้ไม่มีที่ไปหรือคำตอบแบบคราว ๆ ได้ครับว่าถ้าอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดใต้ สุนัขมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างจำกัดครับ เพราะ มุสลิมมีข้อจำกัดเรื่องการสัมผัสสุนัข ขนาดแค่โดนน้ำลายสุนัขต้องล้างด้วยน้ำดินหนึ่งครั้ง และตามด้วยน้ำสะอาดอีกหกถึงเจ็ดครั้ง ด้วยเหตุผลนี้สุนัขจึงไม่ที่ทางไป...ต้องเข้าไปอยู่ตามชุมชนพุทธหรือตามค่ายทหาร....พออยู่ไปนาน ๆ ก็ออกลูกออกหลานเยอะแยะไปหมด......ท้ายสุดของส่วนนี้......ถ้าใครมีความคิดเอาสุนัขไปปล่อยอย่าเอาไปสนามบินเลยนะครับ.....เพราะถ้าเจอนโยบายกำจัดสุนัขแบบเด็ดขาดขึ้นมามันก็ไม่ต่างอะไรกับส่งมันไปตายหรอกครับ
บ่นเรื่องสุดท้าย...ผมเคยได้ยินผู้กล้าหลาย ๆ คนเคยบอกว่า ถ้าใต้ไม่สงบจะไม่กลับ....ผมเคยสงสัยว่าเพราะอะไรเขาถึงตั้งคำมั่นกันแบบนั้น....วันแรกที่ผมมาที่นี่ผมกับน้องอีกคนช่วยกันขับรถส่วนตัวกันมา...ผ่านเส้นที่มีการวางระเบิดบ่อยเส้นนึง...ขอบอกเลยว่าระเบิดมันไม่น่ากังวลเท่า......แพะข้างทางที่มันไม่ยอมหลบนี่หล่ะ....ที่นี่แพะเยอะมาก...แถมไม่ยอมหลบรถด้วย....จะชนก็ไม่ได้....เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่ารังแกประชาชนอีก....ถ้านั่นยังไม่ฮาพอ....ขับรถตอนกลางคืนถ้าไม่ระวัง...อาจจะเจอฝูงวัวนอนอยู่กลางถนนได้...สำหรับผมแล้ว...สามจังหวัดใต้ให้ความรู้สึกเหมือนตอนมาประจำที่สุราษฎร์ธานีเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วจริง ๆ ยิ่งได้มาอยู่ได้มาสัมผัสถึงได้เขาใจว่าทำไมคนที่มาถึงอยากให้สงบนัก....เพราะทุกครั้งที่ท้อ...พอได้มาเห็นรอยยิ้มของชาวบ้านกำลังใจมันก็มา....สำหรับผมแล้วถ้าไม่มีคำสั่งให้อยู่ต่อ เดือนตุลาคมนี้ก็คงจะได้กลับเสียที......ความจริงอยากพูดมากกว่านี้นะครับ....ต้องขออภัยทุกท่านที่บ่นได้แค่นี้จริง ๆ
ท้ายสุดนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้แวะไปวัดช้างไห้มา...ได้บูชาหลวงปู่ทวดมาเป็นรางวัลสำหรับทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ...รายละเอียดจะแจ้งมาภายหลังนะครับ......อย่างไรเสียก็ขออนุญาต เว็บมาสเตอร์..และพี่ ๆ เพื่อน ๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 1:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์:
0