หัวข้อ: มียาขนานไหนกินแล้วเลิกเล่นพระได้ครับ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
ขออนุญาตครับ เนื่องจากผมเริ่มสนใจพระเครื่องมาตั้งแต่ปี 2548 ขณะนั้นอยู่ กทม. ช่วงเรียนจบใหม่เพิ่งทำงานได้ปีสองปีหมดเงินหมดทองไปก็เยอะ เช่าเก๊มาก็เป็นกระตั๊กๆ รวมๆแล้วก็พบความจนไม่เปลี่ยนแปลง เคยเลิกเล่นพระมาได้ช่วงหนึ่งเมื่อมาอยู่ต่างจังหวัดว่าจะไม่หวลคืนไปอีก แต่แล้วชีวิตมันก็หวลกลับไปอีกความรู้เพิ่มพูลก็จริง แต่ความสิ้นเปลืองและความหมกมุ่นกลับมาอีกแล้ว ท่านผู้รู้กรุณาช่วยแนะนำผมด้วยเถอะผมจะเลิกเล่นพระได้อย่างไร จักเป็นพระคุณยิ่ง
เปลี่ยนคำแล้วดูดีไปเลยครับ เล่น(=ศึกษา)ต่อให้ตกผลึกไปเลยครับ กว่าจะได้มาตรงนี้คงหมดไปเยอะ ที่หมกมุ่น(=ขยันและมีฉันทะ)แสดงว่าชอบจริง ท่านที่ชอบศาสตร์อย่างอื่นก็หมดไปเยอะเช่นกันเช่นลงทนกับหุ้น กว่าจะพอมีดีกรีก็มีบาดแผลกันมามากมาย เรื่องพระเครื่องสั่งสมความรู้ไว้ช่วยคนที่ยังไม่รู้อีกมากครับ ทุกวันนี้ท่านที่ดูพระไม่เป็นคือไม่เป็นจริงๆนะครับ ขนาดเอาภาพพระแท้กับไม่แท้เทียบตำหนิให้ดูกันจะๆยังไม่เข้าใจเลยครับ แล้วท่านเหล่านี้มีเงินในมือแล้วใจร้อนกันอีกต่างหากไปโดนกันมาเยอะ
สำหรับวันนี้พอใจกับการเรียนรู้พระเครื่อง ที่สำคัญคือเรียนรู้วิชาสุดท้ายคือพระสมเด็จ เราพอดูได้เข้าใจเนื้อและแบบพิมพ์ต่างๆ และได้สัมผัสองค์จริงมาตรฐานสากล ที่สุดคือการได้ครอบครองพระตระกูลสมเด็จแม้เพียงชิ้นส่วนแกะใหม่ก็เพียงพอแล้วเรามาไกลแล้ว เพราะเริ่มสนใจพระเครื่องครั้งแรกจุดหมายเพียงต้องการดูพระให้เป็นเท่านั้น
ขอบอกเลยครับว่ายากครับ...ขนาดผมยังอดไม่ได้เลยครับ...ยิ่งถ้าได้ไปเห็นไปนั่งส่องแล้วยิ่งชอบครับ..ถึงแม้ว่าจะเอาของเก๋กลับบ้านก็ตาม...แต่ถ้ายังส่องพระดูพระแล้วสบายใจอย่าเลิกเลยครับ...ดูให้สุขใจดีกว่าครับ...ส่วนจะเอาเก๋กลับบ้านอีกเปล่านั้นอยู่ที่การศึกษาครับ...ถ้าไม่มั่นใจวางได้ครับ..คงไม่มีใครหรือแผงไหนมาต่อว่าหรอกครับ...หรือถ้ารักผจญภัยจะไปเหมาตามบ้านก็ได้ครับ...อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีเพื่อนไว้คุยสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องที่ตัวเองชอบเหมือนกันครับ ...