รบกวนผู้รู้ สมเด็จครับ - webpra

หัวข้อ: รบกวนผู้รู้ สมเด็จครับ

กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

รบกวนผู้รู้ สมเด็จครับ
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ฉัตรพัฒน์1968
ตั้ง: 84 ตอบ: 122
คะแนน: 0
รายละเอียด

รบกวนทุกท่านครับ พระสมเด็จองค์นี้เป็นยังงัยบ้างครับ แท้ เก๊ รับทราบทุกคำเสนอแนะครับ

รบกวนผู้รู้ สมเด็จครับ รบกวนผู้รู้ สมเด็จครับ
โพสต์เมื่อ พฤ. - 13 ส.ค. 2558 - 12:52.21
ความคิดเห็นที่ 1:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
manosrisawat
ตั้ง: 78 ตอบ: 140
คะแนน: 5
ร้านค้า:
รายละเอียด

ขอแสดงความคิดเห็น(ปัญญา)  ตามภาพที่เพื่อนสมาชิกนำมา  เป็นพิมพ์ประธาน(พิมพ์ใหญ่) วัดระฆังโฆสิตาราม  พิมพ์ของหลวงวิจารณ์เจียรนัย  ช่างหลวงสมัยปลายรัชกาลที่ ๔ และต้นรัชกาลที่ ๕  ตามภาพพระองค์นี้หากนำมาเปรียบกับพระ  องค์ครูเอื้อ(ภาพประกอบ)  ก็จะพบเสน่ห์ของพระสมเด็จฯองค์นี้  อยู่ที่เกศ  จะต้องคดนิดและเอนไปทางซ้ายขององค์พระ  เพื่อต้องการแยกพระไม่แท้ออกจากพระแท้ครับ  ขอขอบคุณภาพ

โพสต์เมื่อ พฤ. - 13 ส.ค. 2558 - 15:28.30
ความคิดเห็นที่ 2:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
onepeer
ตั้ง: 59 ตอบ: 1696
คะแนน: 306
ร้านค้า:
รายละเอียด

ดูจากภาพที่ส่งมา  ก็ชัดพอสมควร  พระองค์นี้พิมพ์ทรงอาจจะทำได้ใกล้เคียงของแท้  แต่ความเก่าของเนื้อหายังห่างมากและมวลสารที่เห็นในภาพถ้าเป็นพระของวัดระฆังเกือบทุกองค์มวลสารในเนื้อพระทีปรากฏออกมาตามผิวและตามขอบขององค์พระจะเห็นได้เด่นชัดเจน  แต่องค์นี้ตามภาษาของนักพระเครื่อง (เซียน) จะบอกว่า  เนื้อมันจืดไปครับ  คราบไคลความเก่าของพระอายุกว่า 150ปี  จะต้องมีให้เห็นยกเว้น  พระที่ล้างผิวจนเสียสภาพไป  ซึ่งถ้าเป็นพระลักษณะนี้ จะดูยากมาก  พระที่ว่าแท้  อาจจะมีการตีความว่าเก๊ทันที  เพราะเป็นพระที่พิสูจน์ยาก  บรรดาเซียนสมเด็จถ้าเห็นพระที่ล้างมาเขาจะเลิกดูทันที

 

ในการดูพระเครื่องสมเด็จ  เมื่อเห็นพิมพ์อย่างเดียวจะทึกทักว่าเป็นพระแท้เลยไม่ได้หรอกครับ  จะต้องส่องดูก่อนให้เห็นชัดแจ้ง  ยิ่งดูจากรูปภาพพระที่พิมพ์ถูกต้อง  เขาตีความแท้ของพระองค์นั้นไว้ที่ 40 % เท่านั้นเอง  ถ้าเห็นองค์จริง  พิมพ์ใช่ ให้แค่ 50% อีกครึ่งหนึ่งดูตอนส่องเอาว่าเนื้อหาคราบไคลใช่หรือไม่  พระเก๊รุ่นหลังๆ ฝีมือดีๆมีเยอะไป  เรื่องพิมพ์ไม่ต้องพูดถึง เป๊ะ หมด  เพราะคนทำปลอมก็ดูเป็น  เนื้อหามีครบทุกอย่าง  ตำราดูพระสมเด็จเขียนกันมาเป็นร้อยๆเล่มละมั้ง   แต่ที่ทำไม่ได้ก็คือความเก่า  ถ้าของปลอมทำความเก่าได้เหมือนของแท้  ราคาพระแท้คงไม่สูงขนาดเป็นสิบๆล้านบาทไทยหรอกครับ

 

พระจะแท้หรือไม่  ไม่ใช่เอาตำรามาวางเปรียบเทียบรูปแล้วตีขลุมว่าใช่  แบบนี้มีเท่าไรก็หมดครับ  การจะดูพระสมเด็จหรือพระอื่นๆทั่วๆไป  ต้องเห็นจากของจริง(เท่านั้น)ก่อนครับ  และก็ไม่ใช่แค่องค์ สององค์  ระดับเซียนสนามที่เก่งพระสมเด็จ  ผ่านมาไม่ต่ำ 100 องค์  ทั้งนั้น ครับ  และเขาก็พกกล้องส่องอันเดียวเท่านั้น  ดูได้ทั่วราชอาณาจักร    ไม่ต้องขนตำรามาเปรียบเทียบให้เมื่อยมือหรอกครับ 

โพสต์เมื่อ พฤ. - 13 ส.ค. 2558 - 23:59.05
ความคิดเห็นที่ 3:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ฉัตรพัฒน์1968
ตั้ง: 84 ตอบ: 122
คะแนน: 0
รายละเอียด

ขอขอบพระคุณทั้งสองท่านเป็นอย่างสูงครับ

รบกวนอีกครั้ง พระองค์นี้พิมพ์ทรงแบบนี้

มีวัดอื่นจัดสร้างบ้างไหมครับ หรือมีเฉพราะ

วัดระฆังของเจ้าประคุณสมเด็จเท่านั้น

ขอขอบคุณครับ

โพสต์เมื่อ ส. - 15 ส.ค. 2558 - 18:13.01
ความคิดเห็นที่ 4:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
onepeer
ตั้ง: 59 ตอบ: 1696
คะแนน: 306
ร้านค้า:
รายละเอียด

ไม่มีวัดไหนที่สร้างพระออกมาชนิดพิมพ์ใกล้เคียงแบบนี้หรอกครับ   นอกจากของเทียมและของแท้เท่านั้น    ของเทียมชนิดพิมพ์ที่ใกล้เคียงที่สุด  ก็คือเจตนาของผู้สร้าง  ต้องการที่จะนำไปหลอกขายให้แก่ผู้ที่ไม่สันทัดในพระสมเด็จเท่านั้น  จึงพยายามทำออกมาให้ดูดี  ในฝีมือจัดๆ  ขนาดคนที่ดูเป็น (เซียน) ถ้าไม่ระวัง หรือโลภเพราะผิดราคา  (ใช้เด็กถือมาขาย)ยังโดนเลยครับ  จะเล่นหา ก็ระวังกันหน่อย  เงินแท้ๆ ไปแลกกับเศษผงที่ไร้คุณค่า  ไร้พุทธานุภาพ  มันไม่คุ้มกัน ครับผม

โพสต์เมื่อ อา. - 16 ส.ค. 2558 - 14:43.42
ความคิดเห็นที่ 5:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
manosrisawat
ตั้ง: 78 ตอบ: 140
คะแนน: 5
ร้านค้า:
รายละเอียด

ขออนุญาตตอบคำถามต่อของเจ้าของกระทู้นี้ครับ  คำถามที่ถามว่า  พระพิมพ์นี้(องค์นี้)  ว่ามีผ้ใดสร้างในยุคหลังที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตฯท่านได้มรณภาพในปี ๒๔๑๕  คำตอบ  ไม่มี(ระหว่าง ปี๒๔๑๖ ถึง ปี ๒๔๓๖)  เหตุผลเพราะ  ท่านอาจารย์ต่างๆที่ทันในยุคของท่านสมเด็จโตฯ  ส่วนใหญ่ก็มีอายุมากๆแล้วทั้งนั้น  และที่สำคัญท่านฯต่างๆเคารพรักและนับถือ  ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตฯมากด้วยเช่นกัน  รวมทั้งพอที่จะเข้าใจได้ว่าความต้องการของผู้คนในยุคนั้นยังไม่ได้มากนัก   สำหรับเหตุการณ์ที่เริ่มทำให้ผู้คนในยุคนั้นเกิดการเสาะแสวงหาคือ  มีการเกิดโรคระบาดที่เรียกกล่าวกันต่อมาว่า  “ปีระกาห่าใหญ่  ปี พ.ศ.๒๔๑๖”  ทางวัดฯโดยท่านพระครูโพธิ์  ได้นำพระสมเด็จฯมาแช่ฯทำน้ำมนต์พระพุทธมนต์  แล้วนำไปใช้ปะพรมผู้คนที่ล้มป่วยรวมถึงผู้ที่ไม่ได้ล้มป่วยแต่ศรัทธาฯ  ที่ทราบข่าวก็ได้เดินทางมาให้รดน้ำปะพรมด้วย  ทั้งนี้ท่านฯนำไปรดศพในป่าช้าฯด้วย  โดยกล่าวกันว่ามีคนตายมากมายมาก  ท่านพระครูโพธิ์ท่านได้นำไปหลอดลงในปากของศพทีละคน  และคอยเฝ้าสังเกตดูอาการ(ปากทวารเปิดคือตาย  ปากทวารปิดคือยังไม่ตาย)  ก็เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้ที่อยู่พบเห็นในเหตุการณ์  ศพบางคนต่างรู้สึกตัว  จากนั้นท่านพระครูโพธิ์ท่านก็จะนำน้ำพระพุทธมนต์ไปผสมกับข้าวแล้วนำไปทำเป็นข้าวต้มมาหลอดต่อ  จนคนที่ฝื้นกลับคืนสติมามีอาการดีขึ้นและหายเป็นปกติได้   เรื่องนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนต่างๆที่ทราบข่าว  เริ่มเสาะแสวงหาพระสมเด็จฯกัน  ตั้งแต่นั้นมา  ส่วนในช่วงเวลาดังกล่าวเข้าใจได้ว่าพระสมเด็จของเจ้าประคุณสมเด็จโตฯ  ท่านยังพอมีสมดุลย์กับความต้องการ  (ตามความคิดของผมวิเคราะห์ว่า  น่าจะเป็นเพราะ  พระที่ท่านฯได้สร้างไว้มากพอนัก  หากแต่วิธีการซึ่งการได้มานั้น  ก็จะแตกต่างกันไป  ตั้งแต่เช่าหากัน  โดยเฉพาะพระที่อยู่ในการครอบครองของ  คุณยายขำหรือแม่ขำ (บุตรสาวของขุนศรีวราวุธ”ตาแดง”กับคุณยายทองหลอด)   อีกทั้งยังมีการลักลอบขโมย(ตกพระ)แล้วนำมาให้เช่าบูชาต่อกัน  ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาสัก  ๒๐ ปีได้   หลังจากนั้นในปีเดียวกันนี้คือ  ปี พ.ศ.๒๔๓๖  มีเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสนำเรือรบมาปิดปากอ่าวไทย  ทำให้ผู้คนต่างต้องการที่พึ่งทางใจกันมาก  ซึ่งส่วนใหญ่ได้พบเจอกับตนเองถึงพระพุทธคุณ  พระธรรมคุณ  พระสังฆคุณ  ที่มีต่อองค์สมเด็จโตท่านฯ  หรือได้รับการกล่าวขาน(บอกต่อกัน)  ว่าจะช่วยคุ้มครองให้รอดปลอดภัยได้  เริ่มเป็นเหตุทำให้ความต้องการพระสมเด็จฯสูงขึ้นมากอย่างมิต้องสงสัย  สัจจธรรมโลก  มีบวกก็ย่อมมีลบ  มีดีย่อมมีเลว  รวมทั้งยังส่งผลเสียทำให้มีการลักลอบขโมยพระ(ตกพระ)กันมากขึ้น  เริ่มสร้างความเสียหายให้แก่พระเจดีย์วัดบางขุนพรหม(วัดใหม่อมฤตรส)  ซึ่งรู้กันว่ามีการสร้างพระบรรจุกรุไว้(ปี ๒๔๐๗ ถึง ปี ๒๔๑๕)  และในปีเดียวกันนี้ ทางวัดฯก็ได้เปิดให้มีการตกพระกัน  แรกๆก็ได้พระกันหลังๆก็เริ่มเลิกรากันไป  สืบเรื่อยจนถึงปี ๒๔๕๒  ทางวัดฯจึงได้ทำการปิดกรุ   จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลาระหว่างปี ๒๔๓๖ ถึงปี ๒๔๕๒  นั้นความต้องการพระสมเด็จของเจ้าประคุณสมเด็จโตฯ  น่าจะไม่มากนัก  จากปัจจัยคือความสงบสุขและราคาที่มีต่อองค์พระสมเด็จเริ่มขยับตัวสูงขึ้นมากนั่นเอง  และจากปี ๒๔๕๒ ถึงปี ๒๔๙๕  ช่วงเวลานี้ประมาณ ๔๓ ปี(อาจเป็นยุคฯทองของใครบางคนหรือกลุ่มคนหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ประสงค์ดีจากเหตุผลของราคาพระสมเด็จฯขยับตัวสูงขึ้นมากแล้ว)  ขยายความคำว่า  คนดี มีลักษณะอย่างไรบ้าง  คิด  พูดดี  และทำดี  บุคคลเหล่านั้นอยู่ตรงข้ามกับคนดี   จากปัจจัยนี้เองทำให้พวกพ่อค้าหัวใสในยุคนั้นน่าที่จะเริ่มคิดการหรือทำการไปบ้างไม่มากก็น้อย  ยุคไม่สร้างสรรค์ก็เริ่มทำลายทุกสิ่งรวมทั้งองค์พระเจดีย์ที่บรรจุพระ  เมื่อมีความเสียหายมากก็ต้องมีการบูรณะซ่อมแซมพระเจดีย์  ปี ๒๔๙๕  จึงมีกลุ่มคนหรือคณะฯ  เข้าดำเนินการเปิดกรุเพื่อนำพระที่บรรจุ  ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก  ปัจจัยที่ได้นำมาบูรณะพระเจดีย์  จากนั้นมาเปิดกรุอีกครั้งในปี ๒๕๐๐  ครั้งนี้พระสมเด็จฯองค์สวยๆมีราคา  ๕,๐๐๐ บาท.และที่ต่ำสุดมีราคา ๔๐๐ บาท.  เหลือพระดีๆสวยๆแค่ไม่ถึง ๒๙๕๐ องค์ที่เหลือแต่หักหรือไม่ก็จับตัวกันเป็นก้อน   พระดีๆสวยๆจำหน่ายกันแค่วันเดียวหมด  ถึงตอนนี้  ความต้องการสูงกว่ามาก  คนไม่ดี  ก็คิดทำการไม่ดีกันใหญ่โดยไม่กลัวบาปกรรมครับ

 

ขออนุญาตสรุปคร่าวต่อความคิดเห็นอันอาจเป็นประโยชน์บ้างดังนี้

 

ปี พ.ศ. ๒๔๑๖  ถึง ปี พ.ศ. ๒๔๕๒  ไม่มีท่านอาจารย์หรือพระเกจิในยุคนั้นกล้าสร้างหรือปลุกเสกพระในแบบพิมพ์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต  พรหมรังสี

ปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ถึง ปี พ.ศ. ๒๔๙๕   ไม่มีท่านอาจารย์หรือพระเกจิในยุคนั้นกล้าสร้างหรือปลุกเสกพระในแบบพิมพ์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต  พรหมรังสี 

                                          ที่อาจมีบ้างแต่ยังน้อย  ก็ไม่ใช่พระอาจารย์หรือพระเกจิสร้าง  ด้วยที่ว่า  ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตฯท่านได้กล่าวไว้  หากจะมีผู้ใดนำแบบพระสมเด็จไป

                                          จัดพิมพ์  แล้วใช้ชื่อใหม่ก็ไม่ว่า เพราะพระของท่านทุกพิมพ์มีชื่อหมดแล้ว(ท่านเจ้าประคุณสมเด็จใตฯท่านรู้เห็นกาลไกลในภายภาคหน้า) 

ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ถึง ปี พ.ศ. ๒๕๐๐   เริ่มมีท่านอาจารย์หรือพระเกจิสร้างแต่ก็ไม่เรียกพิมพ์แบบพระสมเด็จ  ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต  พรหมรังสี

                                          และในส่วนที่มีมากขึ้นในแบบพิมพ์ของพระไม่แท้  เพราะเหตุความต้องการสูงกว่าปริมาณ(ราคาสูงก็ไม่กลัวอยากได้)

หลังปี พ.ศ. ๒๕๐๐                    เริ่มมีท่านอาจารย์หรือพระเกจิสร้างแต่ก็ไม่เรียกพิมพ์แบบพระสมเด็จ  ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต  พรหมรังสี

                                          ซึ่งมีมากขึ้นๆ  จนไม่รู้  ยากมากเกินปัญญาจะรู้

 

ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์เพื่อความสุข  ข้อมูลที่ผิดพลาดต้องขออภัย  ขอขอบคุณท่านเพื่อนสมาชิกทุกท่านรวมถึงท่านเจ้าของกระทู้นี้ด้วย

ขอบพระคุณ

โพสต์เมื่อ อา. - 16 ส.ค. 2558 - 16:42.32
ความคิดเห็นที่ 6:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
ฉัตรพัฒน์1968
ตั้ง: 84 ตอบ: 122
คะแนน: 0
รายละเอียด

ขอขอบคุณทุกท่านครับ

ทั้งเข้าชมและแนะนำครับ

สรุป พระองค์นี้ไม่แท้ครับ จะพยายามต่อไป

โพสต์เมื่อ จ. - 31 ส.ค. 2558 - 22:55.41
Top