ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
// ที่สุดแห่งเหรียญมหาอุตม์// เหรียญนารายณ์สิบกรมหาปราบ วัดยานนาวา
ชื่อพระเครื่อง | // ที่สุดแห่งเหรียญมหาอุตม์// เหรียญนารายณ์สิบกรมหาปราบ วัดยานนาวา |
---|---|
รายละเอียด | ในศาสนาพราหมณ์กล่าวถึงมหาเทพผู้มีเดชานุภาพมากอยู่สามองค์ หนึ่งคือ พระพรหม ซึ่งถือกันว่าเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งให้เกิดขึ้น สองคือ พระนารายณ์ มหาเทพผู้ทรงฤทธิ์มีหน้าที่ในการรักษาสิ่งซึ่งถูกสร้างขึ้นมาแล้วนั้นให้คงอยู่ ปราบปรามสิ่งที่ชั่วร้าย ผู้ประพฤติผิดทำนองคลองธรรม สามคือ พระศิวะ มหาเทพผู้มีหน้าที่ในการทำลายล้าง ก่อนจะเตรียมการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ หมุนเวียนเป็นวัฏจักรมิรู้จบสิ้น หากจะกล่าวว่ามหาเทพทั้งสามเป็นตัวแทนของหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาก็ไม่ผิด คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ... เกิดขึ้น ดับไป เกิด ดับ เกิดดับ อยู่เช่นนี้ชั่วกัลปาวสาน นี้คือกฎธรรมชาติ เมื่อพระพรหมรังสรรค์สิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นมาแล้วย่อมต้องมีผู้ดูแลรักษา แก้ไขป้องปรามสิ่งที่ผิดให้ถูกต้องตามหลักธรรม กำจัดสิ่งชั่วร้ายและคนพาลทั้งปวง ซึ่งหน้าที่นี้ก็เป็นของพระนารายณ์ ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อโลกสวรรค์หรือโลกมนุษย์ถูกคนชั่วระราน พระนารายณ์หรือพระวิษณุก็จะอวตารไปบังเกิดใหม่ในรูปต่าง ๆ ตามควรแก่ฐานะสำหรับการกำราบคนพาลเหล่านั้น พระนารายณ์จึงได้ชื่อว่าเป็น "ตำรวจสวรรค์" สำหรับเทพดาและมนุษย์ทั้งปวง พระนารายณ์จึงเป็นสัญลักษณ์ของความถูกต้อง ความดีงาม การรักษาธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้คงอยู่นาน ๆ และกำจัดอธรรมให้หมดไป สำหรับชาวพุทธ พระนารายณ์อาจมิได้เป็นสรณะอันเกษมสูงสุดไปกว่าพระรัตนไตร ... ... แต่ในสายตาของครูบาอาจารย์เจ้าผู้วิเศษ พระนารายณ์คือตัวแทนแห่งธรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น หากจะมองท่านด้วยธรรม... ... แต่ในสายตาของผู้เรืองวิทยาคุณ พระนารายณ์คือตัวแทนแห่งขลังที่อาจบันดาลสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้... เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งนั่นแล ด้วยเข้าใจถ่องแท้แล้วเช่นนี้ พระมหาวีรธรรม ธัมมวีโร แห่ง วัดยานนาวา สาธร กรุงเทพ จึงมีดำริให้รังสรรค์เหรียญมหามงคลขึ้นเพื่อแจกเป็นที่ระลึกในพิธีเททองหล่อ “พระเศรษฐีนวโกฏิ” องค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก ๙๙.๙๙ นิ้ว ณ มณฑลพิธีวัดยานนาวา และนั่นก็เป็นที่มาของ “เหรียญนารายณ์สิบกร มหาปราบ” รูปลักษณ์ ด้านหน้า เป็นเทวรูปของพระนารายณ์ในท่วงท่า “มหาอำนาจ” กรหนึ่งยกขึ้นประทานพรให้แก่ผู้เลื่อมใส กรหนึ่งเหยียดยื่นลงต้อนรับผู้ที่มาบูชา พระกรทั้งหกถือเทพศัสตรามหาอาวุธตามเทวลักษณะครบถ้วน ประกอบด้วย ตรี คทา จักร สังข์ บัณเฑาะว์ และ คันศร สองกรที่เหลือชี้ขึ้นข้างบนบ่งบอกนัยยะถึงการสอนให้ทำแต่ความดีทั้งกายและใจเพื่อก้าวไปสู่สุคติโลกสวรรค์เมื่อสิ้นภพมนุษย์ พระคาถารอบองค์นารายณ์นับแต่คันศรคือ “สัตถาธนุง อากัฑฒิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ” นี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ชื่อว่า พระเจ้าห้ามอาวุธ กล่าวคือเมื่อครั้งพระเจ้าอชาตศัตรูใช้นายขมังธนูไปลอบสังหารพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงกล่าวพระคาถานี้ขึ้นนายขมังธนูก็เงื้อง่าค้างอยู่เช่นนั้นไม่อาจแผลงศรออกไปได้ โบราณาจารย์จึงนิยมนำมาปลุกเสกวัตถุมงคลจนมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ห้ามเสียซึ่งศัสตราวุธทั้งปวง ที่พระหัตถ์ซ้ายซึ่งยื่นลงมานั้นมีคาถาว่า “ชยมังคลัง” คืออำนวยพรให้ผู้บูชามีแต่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะอันเป็นมหามงคล กล่าวโดยธรรมคือชนะเสียซึ่งความชั่วและกิเลสทั้งปวง ขวามือขององค์นารายณ์เป็นยันต์ตรีกำกับด้วยอักขระที่ให้คุณทางแคล้วคลาด กันภัยเป็นเลิศ คือ “มะอะอุ ผุดผัดผิด” และเฑาะว์มหาพรหม ซ้ายมือเป็นยันต์ตรีกำกับด้วยอักขระที่ให้คุณทางคงกระพันชาตรี ป้องกันเขี้ยวงา และสัตว์มีพิษทั้งปวง คือ “มะอะอุ อิสวาสุ” และอุณาโลมห้าชั้น ข้างพระบาทขวาประทับด้วย “นะปัดตลอด” ส่งผลทางแคล้วคลาด ปัดตลอดรอดจากภัยอันตรายทั้งหลาย ทำการใดก็สำเร็จลุล่วงตลอด เดินทางไปที่ใดก็ถึงที่หมายปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง ข้างพระบาทซ้ายประทับด้วย “นะสมิงคำราม” ให้ผลทางแคล้วคลาด และมหาอุดหยุดศัสตราวุธ ชิดกับขอบเหรียญเป็นยันต์ “พระอรหันต์อุดปืน” ของหลวงพ่อหน่าย อินทสีโล วัดบ้านแจ้ง ทรงอิทธิคุณในทางมหาอุดยิงมิออก เหนือเศียรพระนารายณ์เป็นยันต์ “เฑาะว์มหาอุด” ของหลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน วัดกลางบางแก้ว เดินอักขระตามขอบเหรียญว่า “พุทธังอุทธัง ธัมมังอุทธัง สังฆังอุทธัง นะมะพะทะ” “อะสิสัตติ ธนูเจวะ สัพเพ เต อาวุธานิจะ ภัคคะภัคคาวิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ” “อะนิทัสสะนะอัปปะฎิฆา” บทแรกเป็นคาถาห้ามธาตุของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า บทที่สองเป็นคาถาห้ามอาวุธที่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ใช้ลง “ตะกรุดคู่ชีวิต” ที่โด่งดังเป็นเอกลักษณ์ พระคาถาและยันต์บทนี้มีอานุภาพมากมายนัก ขนาดที่ว่าเมื่อจารลงตะกรุดแล้วตำราระบุไม่ต้องเสก ให้ทดลองยิงได้เลย และบทสุดท้ายเป็นคาถาห้ามปืน หากฝืนยิงลูกปืนก็ขัดกระบอก “คา” ลำกล้องอยู่นั่นเอง ด้านหลัง เป็นรูปอาวุธ ๕ ประการ คือ ... ๑. สายฟ้าของพระอินทร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเมื่อฟาดลงที่ใดที่นั่นก็แหลกยับไม่มีใดต้านทานได้ ๒. คทาของท้าวเวสสุวัณ เป็นกระบองที่มีฤทธิ์มาก แม้ตีลงที่ยอดเขาพระสุเมรุเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ภูเขาทั้งลูกจมลงมิดแผ่นดิน ๓. นัยน์ตาของพญายม เมื่อมองไปที่ใดก็แลเห็นความตายที่นั้น เห็นดี เห็นชั่วทุกอย่างด้วยตา ภูตผีปีศาจหวาดระย่อนัยน์ตาพระยมเทพยิ่งนัก ๔. ผ้าแดงของอาฬวกยักษ์ ผ้าแดงที่แรงฤทธิ์นี้โบกเพียงครั้งเดียวก็พัดภูเขาทั้งลูกหายไปยังขอบจักรวาล หากตกลงสู่แผ่นดิน มหาสมุทรแลแม่น้ำทั้งพันสายก็เหือดแห้งในพริบตา ดินจะลุกเป็นเพลิงกาฬไปถึงสวรรค์ชั้นต้นทีเดียว ๕. จักรเพชรพระนารายณ์ มีนามว่า “สุทรรศน์” หากขว้างออกแล้วก็สามารถตัดทุกสิ่งให้ขาดได้ในครั้งเดียวแม้แต่เขาไกรลาสที่ประทับของพระอิศวร เทพศัสตราทั้ง ๕ ประการนี้ทรงฤทธานุภาพเป็นอย่างยิ่ง ต่อกรได้ทั้งภูตผีปีศาจและคุณไสยมนต์ดำ คุณผีคุณคน ลมเพลมพัด เคราะห์เข็ญเวรภัยทั้งหลายทั้งปวง ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเดิม พุทธสโร แห่ง วัดหนองโพธิ์ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงนำมาปลุกเสกบรรจุลงในมีดหมอของท่านจนศักดิ์สิทธิ์ลือลั่นไปทั่วแผ่นดิน ท่านเคยบอกว่าคุณไสยเป็นของแหลมคมที่ถูกส่งมาเพื่อทำลายชีวิตของผู้มีเคราะห์ เมื่อจะตัดมันก็ต้องใช้ของที่มีคมเช่นกันจึงจะตัดขาด ดังนั้น อาวุธทั้ง ๕ อย่างดังกล่าวมาจึงมีอานุภาพพอที่จะต่อต้านได้ และคาถาที่ล้อมรูปอาวุธก็คือ “คาถาอาวุธ ๕ ประการ” ฉบับเต็มสูตรของหลวงพ่อเดิม พุทธสโร ซึ่งได้คัดลอกจากสมุดข่อยที่หลวงพ่อเดิมท่านจดไว้ด้วยลายมือของท่านเอง นำมาบรรจุไว้ในเหรียญอย่างครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่ตัวเดียว เมื่อนำเหรียญเข้าสู่พิธีมังคลาภิเษกโดยพระเถรานุเถระผู้เชี่ยวชาญในสมถและวิปัสสนากรรมฐานแล้ว เชื่อมั่นได้ว่าย่อมมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นประการต่าง ๆ ดังที่ผู้บูชาจะตั้งความปรารถนาให้เป็นไป โดยเฉพาะทางด้านปัดเป่าอุปสรรคความขัดข้อง ทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ป้องกันภูตผีปีศาจ บันดาลโชคลาภเงินทอง การงานความสำเร็จ จึงขออำนวยพรให้ท่านที่ได้รับ “เหรียญนารายณ์สิบกร มหาปราบ” นี้ไปบูชา จงมีแต่ความสุขความเจริญ หมดเคราะห์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย ปราศจากเสนียดจัญไรและอุปัทวันตรายทั้งปวง เจริญด้วยโภคทรัพย์นานาประการ มั่งมีทั้งสมบัติและบริวาร พร้อมด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ในที่ทุกสถานตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ ฯ. หมายเหตุ : พิธีเททองหล่อพระเศรษฐีนวโกฏิ ณ วัดยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพฯ (ใกล้สะพานตากสิน) จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น. จนถึงเวลาเททองคือ ๑๖.๐๐ น. ผู้ไปร่วมงานจะได้รับแจก “เหรียญนารายณ์สิบกร มหาปราบ” เนื้อทองแดงฟรีทุกท่าน (มีจำนวนจำกัด) และในวันงานท่านยังสามารถบูชา “เหรียญฉลุพระเศรษฐีนวโกฏิ เนื้อนวะองค์พระเงิน” ซึ่งมีจำนวนการสร้างเพียง ๑,๐๐๐ เหรียญ เท่านั้น ทำบุญเหรียญละ ๑,๐๐๐ บาท และเช่าบูชาเหรียญนารายณ์สิบกร มหาปราบ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อตะกั่วอวน ได้ทันทีที่ประกอบพิธีมังคลาภิเษกแล้วเสร็จ ที่พิเศษสุดคือ เหรียญนารายณ์สิบกรฯ ขนาดจัมโบ้ชนิดบาตรน้ำมนต์ สำหรับแช่น้ำพระพุทธมนต์ไว้ดื่ม-อาบสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา เพิ่มสง่าราศีให้กับตนเองและคนในครอบครัวได้ทุกวัน บูชาประจำบ้านเรือนเป็นสิริมงคลดีนักแล ซึ่งนอกจากท่านจะได้ร่วมบุญในพิธีเททองพระเศรษฐีนวโกฏิขนาดหน้าตัก ๙๙.๙๙ นิ้วอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังจะได้กราบนมัสการพระเถรานุเถระที่รับนิมนต์เดินทางมานั่งปรกในพิธีมังคลาภิเษกจากหลายวัด โดยไม่ต้องลำบากเดินทางไป อาทิ หลวงปู่เกลี้ยง มนุญโญ วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี หลวงพ่อจ้อย พุทธสโร วัดหนองน้ำเขียว ชลบุรี หลวงพ่อหล่ำ สิริธัมโม วัดสามัคคีธรรม กรุงเทพ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อเพิ่ม อัตตทีโป วัดป้อมแก้ว พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน พระนครศรีอยุธยา หลวงปู่ดี ธัมมธีโร วัดเทพากร กรุงเทพ พระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี พระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ อติสักโข วัดประดู่ สมุทรสงคราม และ หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ วัดบางกุฎีทอง ปทุมธานี เป็นต้น |
ราคาเปิดประมูล | 239 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 249 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | อา. - 23 ต.ค. 2554 - 02:55.59 |
วันปิดประมูล | พ. - 26 ต.ค. 2554 - 02:26.18 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
249 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | อ. - 25 ต.ค. 2554 - 02:26.18 |
กำลังโหลด...