ประมูล หมวด:พระเกจิภาคอีสานเหนือ
"จ่าสันต์" แดงเคาะเดียว/เหรียญพระสุธรรมคณาจารย์(เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต หนองคาย
ชื่อพระเครื่อง | "จ่าสันต์" แดงเคาะเดียว/เหรียญพระสุธรรมคณาจารย์(เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต หนองคาย |
---|---|
รายละเอียด | ท่านก็อุปสมบทเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ. 2475 ณ อุโบสถวัดบ้านหงษ์ทอง มีท่านพระครูวาปีดิฐวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์พรหม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดโพธิ์ชัย บ้านหม้อ โดยท่านอาจารญ์วัดโพธิ์ สอนให้ท่านภาวนาอนุสติ 10 ท่านก็ได้ท่องเอา แล้วบริกรรมไปเรื่อยๆ ตั้งแต่พุทธานุสติ ธรรมานุสติ ไปจนถึงอุปสมานุสติแล้วจึงตั้งใหม่ ในต่อมา บิดามารดาท่านได้นพหนังสือของ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม มาถวายให้ท่าน ท่านอ่านแล้วรู้สึก สนใจในเรื่องกายานุปัสสนา ซึ่งในหนังสือได้แนะนำให้พิจารณากายแยกย่อยไปเป็นส่วนต่างๆ ให้สติได้รู้ว่า ร่างกายนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นของตนสักอย่างเดียว เมื่อท่านพิจารณาได้ดังนี้จึงมีดำริจะออกไปอยู่ในป่า ในตลอดสายธรรมยุติ ท่านได้เรียนศึกษาวิชาความรู้เพิ่มเติมกับพระคณาจารย์ตาง ๆ โดยในพรรษาที่ท่านบวชโดยจะยกตัวอย่างพรรษาที่ท่านได้ธุดงควัตร [2] พรรษาแรกหลวงปู่ได้พบกับท่านอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต ท่านอาจารย์บุญมาได้พาท่านไปบวชเป็นธรรมยุติที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ในพรรษาแรก ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสาระวารี จ.อุดรธานี หลังจากออกพรรษา ท่านก็วิเวกไปอยู่ที่จังหวัดเลย พรรษาที่ 2 ท่านจึงได้กลับลงมาจำพรรษาที่วัดอรัญวาสี จ.หนองคาย ท่านได้คิดตัดสินใจว่า ในพรรษานี้ จะไม่นอนกลางวัน จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมากขึ้น พรรษาที่ 6 ท่านได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และ พระอาจารย์เนียม ท่านได้เดินธุดงค์ไปกับพระอาจารย์ทั้ง 2 รูป และพระสงฆ์อีก 6 รูป หลังจากท่านได้พบกับพระอาจารย์มั่น ท่านก็มีความเลื่อมใสมาก ท่านจึงตัดสินใจอยู่ภาคเหนือต่อก่อน พรรษาที่ 7 - 12 ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ โดยในขณะนั้น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาว ได้วิเวก แต่หลวงปู่ขาวท่านไม่สบาย แต่หลวงปู่ชอบก็ชวนท่านขึ้นไป ในภายหลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับประเทศไทย ท่านก็ได้มาจำพรรษาอยู่ที่ สำนักสงฆ์ ตามเขาและถ้ำ อีกครั้งหนึ่ง ท่านจึงได้ตั้งสติทำสมาธิโดยต่อมาหลวงปู่ชอบ เห็นนิมิตของเสือ หลวงปู่เหรียญก็เห็นรอยเท้าเสือ จึงได้แผ่เมตตาให้เสือขณะออกบิณฑบาตอยู่ หลังจากนั้น เสือก็ไม่มีมารบกวนอีกเลย]][1] พรรษาที่ 16 และท่านก็ได้เดินธุดงควัตรไปยังประเทศลาว ท่านก็เห็นนิมิตในอนาคตของประเทศว่า ประเทศลาวในอนาคตข้างหน้า จะหาความสงบได้ยาก[2] ท่านจึงเดินทางกลับประเทศไทย และหลังจากเดินทางกลับประเทศไทย ท่านก็ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดสำนักสงฆ์ ต.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 2 พรรษา จากนั้นพอออกพรรษา ท่านก็เดินเที่ยวไปที่จังหวัดพังงา รั้นเมื่อใกล้จะเข้าพรรษาก็ได้มีผู้นิมนต์ให้จำพรรษาที่เมืองพังงา ขณะที่ท่านได้ไปบำเพ็ญอยู่ที่ถ้ำหลักเมือง หน้าถ้ำมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งอยู่ มีการขอบัตร ขอเบอร์ ทรงเจ้า ฆ่าสัตว์สังเวยทุกปี ท่านได้อยู่บำเพ็ญสมณกิจที่สำนักสงฆ์นั้นมาจนขออนุญาตสร้างวัดได้สำเร็จ ตั้งชื่อว่า วัดประชาสันติ อยู่วัดนี้ได้ 6 ปี จึงย้ายมาอยู่วัดสันติวราราม อีก 2 ปี จึงย้ายกลับไปอยู่วัดอรัญญบรรพต ตั้งแต่ปี 2502 - 2548 จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา ท่านไม่กับมาเกิดอีกแล้วครับ ท่านนิพพานแล้ว |
ราคาเปิดประมูล | 10 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 30 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | จ. - 17 ต.ค. 2554 - 14:09.10 |
วันปิดประมูล | อ. - 18 ต.ค. 2554 - 14:31.20 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
20 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | จ. - 17 ต.ค. 2554 - 14:31.20 | |
30 บาท | จ. - 17 ต.ค. 2554 - 21:44.01 |
กำลังโหลด...