ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
เหรียญหลวงพ่อปี้ปี 2529 เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง เดิม แท้จากวัด
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญหลวงพ่อปี้ปี 2529 เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง เดิม แท้จากวัด |
---|---|
รายละเอียด | พระครูสุวิชานวรวุฒิ นามเดิมคือ ปี้ ชูสุข (คำว่า "ปี้" หมายถึง เงินตราสมัยโบราณ) เกิดเมื่อวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2455 ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ณ ตำบลลานหอย อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน ต่างบิดา 2 คน คือ 1. พระครูสุวิชานวรวุฒิ (ปี้ ชูสุข) ใช้นามสกุลเดิมฝ่ายมารดา 2. นายเขียด ชูสุข (ถึงแก่กรรม) 3. นายน้ำค้าง ห่วงตุ่น (ถึงแก่กรรม) 4. นายธรรม ห่วงตุ่น 5. นายไหม ห่วงตุ่น 6. นายทอน ห่วงตุ่น ต่างบิดา (ถึงแก่กรรม) 7. นายประทิน ห่วงตุ่น ต่างบิดา ชีวิต และการศึกษาในวัยเด็ก เมื่อเด็กชายปี้ มีอายุได้ประมาณ 12 ปี บิดา มารดาได้นำฝากให้เรียนหนังสือกับพระอธิการหน่าย น้อยผล เจ้าอาวาสวัดเชิงคีรี ตำบลลานหอย อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย เด็กชายปี้ ชูสุข ได้เริ่มเรียนหนังสือมูลบทบรรพกิจเบื้องต้น ทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอมกับพระอธิการหน่าย เรียนด้วยความขยันหมั่นเพียร ประกอบกับเด็กชายปี้ เป็นเด็กที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อยให้ความเคารพยำเกรงต่อพระภิกษุ สามเณร และอาจารย์ทั่วๆ ไป จึงทำให้พระภิกษุ สามเณร และอาจารย์ในวัดเมตตาสงสารให้การแนะนำสั่งสอนเป็นอย่างดี จนเด็กชายปี้ ชูสุข มีความสามารถอ่านเขียนหนังสือไทยและหนังสือขอมได้เป็นอย่างดี เป็นที่พอใจของบิดามารดาและครู อาจารย์มาก ต่อมาเมื่ออายุได้ 16 ปี ก็มีความจำเป็นต้องไปช่วยแม่ทำไร่ ทำนาเลี้ยงน้อง เพราะฐานะทางครอบครัวของเด็กชายปี้ ยากจนมาก มีที่ไร่ที่นาก็ไม่เพียงพอที่จะทำกิน และบิดาก็มาเสียชีวิตลง ด้วยความสงสารแม่และน้องอีกหลายคน เด็กชายปี้ จึงต้องดิ้นรนหารายได้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว ด้วยเหตุว่าเป็นบุตรคนโต โดยการไปรับจ้างชาวบ้านเลี้ยงควายและทำนา ได้ค่าจ้างเป็นข้าวเปลือกปีละ 50 ถัง ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคตลอดปี หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เด็กชายปี้ ก็ยังต้องไปรับจ้างขับเกวียน ลากไม้ ได้ค่าจ้างเดือนละ 3 บาท ซึ่งเคยเล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังว่า เมื่อถึงกำหนดแล้วไปขอเบิกเงินจากนายจ้าง นายจ้างก็จ่ายให้ไม่ครบ บางเดือนจ่ายให้ครั้งละ 2 สตางค์ 3 สตางค์ แต่ก็ต้องอดทนต่อความยากลำบากอย่างแสนสาหัสกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท แต่ละสตางค์ แต่ก็ต้องกัดฟันสู้ทน เพื่อแม่ และเพื่อน้อง พระครูสุวิชานวรวุฒิ เคยเล่าให้พระภิกษุ สามเณร ฟังถึงความยากลำบากในวัยเด็กของเด็กชายปี้ ชูสุข ว่า "มันถึงที่สุดแค่นั้นเอง เพราะถ้ามันเกินกว่านี้ไป ชีวิตก็ทนไม่ได้ ต้องตายแน่ๆ"เด็กชายปี้ เป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณาต่อคนและสัตว์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ เคยไปพบคนฆ่าสัตว์ คือเก้ง-กวาง ก็เกิดเมตตาสงสารจับใจ จนไม่สามารถรับประทานเนื้อสัตว์เหล่านั้นได้ เด็กชายปี้ ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเพศฆราวาส ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบากจนอายุได้ 20 ปี ก็เกิดศรัทธามีความปรารถนาจะบรรพชาอุปสมบทเป็นพุทธบุตรในพระพุทธศาสนา การศึกษาทางพระพุทธศาสนา เมื่ออายุครบ 20 ปี มีความเลื่อมใสศรัทธาที่บวชในพระพุทธศาสนา แต่ยังไม่สามารถจะบวชได้เพราะความยากจน ไม่มีเงินจะซื้อผ้าไตร แม่จึงต้องพาไปหา นายโจทย์ เข็มคง กำนันตำบลลานหอยในขณะนั้น โดยได้ขอร้องนายโจทย์ ให้ช่วยเป็นเจ้าภาพจัดการให้ได้บวชในพระพุทธศาสนา นายโจทย์ ก็รับเป็นเจ้าภาพจัดการบวชให้สมความปรารถนายังความปลื้มปิติให้กับ นายปี้ และมารดาเป็นอย่างยิ่ง แม่ของนายปี้ มีเงินไปร่วมในการบวชลูกชายเพียง ๒๕ สตางค์เท่านั้นเอง ได้บวชเป็นพระภิกษุสมความปรารถนา เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2465 ณ พัทธสีมา วัดสังฆารามตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย โดยมีพระครูวินัยสาร (พระราชประสิทธิคุณ) เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย เป็นพระอุปัชฌาย์พระอธิการน้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า ทินโน เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเชิงคีรี ตำบลลานหอย อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย การศึกษาพระปริยัติธรรม ได้ศึกษานักธรรมชั้นตรีด้วยตนเองแล้วไปสมัครสอบสนามหลวง แต่สอบไม่ได้ เนื่องจากไม่สู้จะมีหนังสือเรียนและขาดครูสอน แต่ก็พยายามศึกษาด้วยตนเองมาโดยตลอด สอบนักธรรมชั้นตรีได้เมื่อปี พ.ศ. 2475 และได้เรียนวิปัสนากรรมฐาน และการธุดงค์กับพระอุปัชฌาย์ของท่านที่วัดราชธานี จนมีความเข้าใจในเรื่องการเดินธุดงค์ เป็นอย่างดี และมีศรัทธาเลื่อมใสตั้งใจออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆ เพื่อปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ท่านได้ออกจาริกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ หลายจังหวัด คือ เมืองร่างกุ้ง ประเทศพม่า ปาดังเบซา ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ปรากฏว่า ท่านได้ออกเดินธุดงค์อยู่หลายปี ท่านเป็นพระที่มีความเพียรสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและมีความมานะอดทนเป็นเลิศรูปหนึ่ง ท่านได้อบรมพระภิกษุสามเณร และอุบาสก อุบาสิกาที่ไปกราบนมัสการท่านในเทศกาลต่างๆ เช่นในวันตรุษสงกรานต์ วันเข้าพรรษา วันออกพรรษาเป็นต้น การอบรมของท่านส่วนใหญ่จะเป็นไปในแบบ "สนทนาธรรม"และ"ปริศนาธรรม"ท่านมีปริศนาธรรมมาก ได้แนะนำให้ประชาชนงดเว้นจากการทุจริต กลับมาประพฤติตนเป็นสุจริตชนได้เป็นจำนวนมาก คนที่มีปัญหาเดือดร้อนมักไปนมัสการท่าน เล่าถึงปัญหาความเดือดร้อนให้ท่านฟัง ถ้าช่วยได้ท่านก็จะช่วยทันที พร้อมกับให้คติธรรมแนะนำสั่งสอนให้ทำแต่ความดีต่อไปว่า ผลของการทำความดีจะต้องตอบสนองอย่างไม่ต้องสงสัย ท่านเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนได้เป็นอย่างดี มรณภาพ หลวงพ่อปี้ ทินโน ได้เกิดอาพาธ จนต้องนำส่งโรงพยาบาล ประกอบกับชราภาพ ท่านจึงมรณภาพด้วยโรคไตไม่ทำงาน และหัวใจวาย เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2517 ณ โรงพยาบาลสุโขทัย ด้วยอาการสงบ สิริอายุ 71 ปี 2 เดือน 26 วัน |
ราคาเปิดประมูล | 280 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 300 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
วันเปิดประมูล | พ. - 16 มี.ค. 2559 - 11:10.24 |
วันปิดประมูล | อา. - 20 มี.ค. 2559 - 21:17.36 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...