ประมูล หมวด:พระเกจิภาคตะวันตก
2เหรียญอายุ 92 ปีหลวงปู่หนู ปัญญาโสโต วัดไผ่สามเกาะ บ้านโป่ง ราชบุรี ปี2555 มีโค๊ต น
ชื่อพระเครื่อง | 2เหรียญอายุ 92 ปีหลวงปู่หนู ปัญญาโสโต วัดไผ่สามเกาะ บ้านโป่ง ราชบุรี ปี2555 มีโค๊ต น |
---|---|
รายละเอียด | 2เหรียญอายุ 92 ปีหลวงปู่หนู ปัญญาโสโต วัดไผ่สามเกาะ บ้านโป่ง ราชบุรี ปี2555 มีโค๊ต น เป็นพระเกจิอาจารย์มีเวทย์มนต์เข้มขลัง สมาธิจิตแก่กล้า ถือมักน้อยสันโดษ มีปฏิปทาน่าเสื่อมใส บริสุทธิ์ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นศิษย์ผู้สืบทอดไสยเวทย์พุทธาคมจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม และหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม สืบสายวิชาหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี จากพระอาจารย์อู๋ วัดใหม่สำรอง สืบสายวิชาหลวงพ่อแทน ธรรมโชติ วัดธรรมเสน จากหลวงพ่อกล่อม วัดขนอม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลวงปู่หนู ปัญฺญาโสโต มีเมตตาบารมี เอื้อเฟื้อต่อผู้มากราบนมัสการท่านอย่างเสมอเหมือนไม่เลือกที่รักมักที่ชั่ง เป็นพระสุปฏิปันโณอีกรูปหนึ่งที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ชาติภูมิ หลวงปู่หนู ปัญฺญาโสโต มีนามเดิมว่า “หนู กันขำ” ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายนพ.ศ.2462 เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 8 คนด้วยกัน คือ 1.นางยุ้ย 2.หลวงปู่หนู 3.นายพัด 4.นางหมุ่ย 5.นายคุย 6.นางบาง 7.นายเสงี่ยม 8.นายวาล เป็นบุตรของโยมพ่อนวน โยมแม่ตุ่น กันขำ ณ บ้านไผ่สามเกาะ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จบการศึกษาชั้น ป.4 ที่โรงเรียนเขาขลุง อาชีพทำนา อุปสมบท เมื่ออายุ 22 ปี ณ พัทธสีมา วัดสระตะโก ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2484 โดยมีพระครูเม เมธาธิการ (หลวงพ่อหวาน) เจ้าคณะตำบลหนองปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบุญนาค สักการโว วัดลำพยอม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ม่วง วัดไผ่สามเกาะ เป็นพระอนุสาวณาจารย์ หลวงปู่หนู ได้รับฉายาว่า ปญฺญาโสโต อุปสมบทแล้วได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดไผ่สามเกาะ ได้ศึกษาเรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ได้รับพัดยศสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นเอก ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่สามเกาะในปีพ.ศ.2490 สืบต่อจากพระอาจารย์ม่วง จักหมื่นภูผา อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่สามเกาะ ตลอดมาจนจวบถึงปัจจุบันนี้และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ในปีพ.ศ.2512 ศึกษาไสยเวทย์พุทธาคม หลวงปู่หนู ปัญฺญาโสโต เป็นศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม ในปีพ.ศ.2486 หลวงปู่หนู ได้เดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาพุทธาคมจากหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อแช่มได้เมตตาสอนสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานให้เป็นอันดับแรก และได้สอนพระคาถากำบัง วิชามหาอุด และคงกระพันชาตรีให้อยู่เป็นเวลา 1 ปีและในพรรษาที่7 ตรงกับปีพ.ศ.2492 ได้เดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้เข้าฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอศึกษาเรียนไสยเวทย์พุทธาคม หลวงพ่อเงิน ได้รับเป็นศิษย์ได้ให้หลวงปู่หนู มาขึ้นครูที่วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเงิน ได้สอนวิชาสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานให้เช่นกัน และได้สอนคาถาอาคมต่าง ๆ ให้เช่น คาถาเสกหุ่น หนุนธาตุ คาถามหาอุด และการทำกสิณต่าง ๆ เช่น กสิณน้ำ กสิณลม กสิณไฟ และปัฐวีธาตุ จนสามารถบรรลุกสิณ10 และหลวงปู่หนู ได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อเต๋ คงทอง ที่วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ซึ่งหลวงพ่อเต๋ คงทอง ท่านก็ได้เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องเช่นกัน ได้เข้าขอศึกษาและปรึกษารับการแนะนำในการใช้วิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งเป็นศิษย์ผู้พี่และเป็นทั้งพระอาจารย์ หลวงปู่หนู ปัญฺญาโสโต ได้เดินทางไปมาหาสู่ทั้ง 3 พระอาจารย์อยู่อย่างต่อเนื่องตลอดมาจนมาในปีพ.ศ.2490 หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง ได้ละสังขารลง สำหรับหลวงพ่อเงินและหลวงพ่อเต๋ หลวงปู่หนู ได้เดินทางไปหาอย่างต่อเนื่องตลอดมาและได้เรียนวิชาไสยเวทย์ต่าง ๆ จากหมอไสยศาสตร์ ชื่อโยมเปลื่อง จักหมื่นภูผา เรียนวิชาทำตะกรุด วิชาขับคูณไสย เมตตามหานิยม ได้เรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อกล่อม วัดขนอม ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งหลวงพ่อกล่อม ท่านเป็นศิษย์สืบสายวิชามาจากหลวงพ่อแทน ธรรมโชติ วัดธรรมเสน ต่อจากนั้นได้เรียนวิชาคาถาอาคม อักขระเลขยันต์จากพระอาจารย์อู๋ วัดใหม่สำรอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อาจารย์อู๋ องค์นี้ท่านเป็นศิษย์ผู้สืบสายวิชาสายหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เหรียญติดอันดับ 1 ใน 5 ในทำเนียบเบญจภาคีเหรียญยอดนิยมของเมืองไทย หลวงปู่หนู ได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชาไสยเวทย์พุทธาคม จากท่านพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาไสยเวทย์พุทธาคมเข้มขลังและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งสิ้น ฉะนั้น หลวงปู่หนู จึงเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญและแตกฉานในไสยเวทย์มนต์คาถา จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือ ธุดงค์วัตร ในปีพ.ศ.2491 พรรษาที่8 หลวงปู่หนู ได้บอกกล่าวกราบลา พระอุปัชฌาย์หลวงพ่อหวาน ออกธุดงค์วัตรสู่ความวิเวก ได้เดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร่เสียส่วนใหญ่ เริ่มต้นเดินสู่ อ.จอมบึง น้ำพุ ยางหัก หินสี โป่งกระทิง สวนผึ้งแล้วลัดเลาะมายังด่านทัพตะโก ด่านมะขามเตี้ย ผ่าน จ.กาญจนบุรี อ. ศรีสวัสดิ์ อ.ทองผาภูมิ ขากลับสู่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ผ่านเข้า อ.เลาขวัญ อ.พนมทวน อ.ท่าม่วงและมุ่งกลับสู่วัดไผ่สามเกาะ ใช้เวลาออกธุดงค์เป็นเวลา 5 เดือน ตลอดระยะเวลาเดินทางด้วยเท้ายามค่ำคืนส่วนใหญ่จะอยู่ปักกลดจำวัดอยู่ชายเขา และตามถ้ำข้างลำธารน้ำไหลต่าง ๆ หลวงปู่เล่าว่าได้ประสบการณ์ถึงสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์ในยามค่ำคืนในถ้ำต่าง ๆ หลายแห่ง เช่น ถ้ำเขาคันหอก ถ้ำเขาองค์จุ ถ้ำมังคลา ส่วนใหญ่จะได้ยินเสียงหวีดร้องจากวิญญาณต่าง ๆ เสียงม้าร้อง เสียงเสือคำราม เสียงนกที่ร้องดังมาก ดังสะท้านป่า เสียงดังจง..จง..จง.. มีแสงประกายแลบ ๆ เหมือนฟ้าแลบในป่าเขาเป็นประกายปฏิกิริยาของแร่ต่าง ๆ ในยามค่ำคืน ในหุบเขาเขต อ. ศรีสวัสดิ์ หลวงปู่จะทำสมาธินั่งอยู่ในกลดที่ปักอยู่ในถ้ำและตามชายเขาเสียส่วนใหญ่ ที่ถ้ำเขาองค์จุในยามค่ำคืน ๆ หนึ่ง ได้เห็นวิญญาณหัวขาด วิญญาณวัวหัวขาดและวิญญาณม้าหัวขาด มีงูใหญ่เลื่อยมาคดตัวอยู่ข้างกลดหลวงปู่และมีบรรดาสัมภเวสีมาขอส่วนบุญ หลวงปู่ได้อธิษฐานจิตแผ่เมตตาไปให้ แล้วสิ่งที่เห็นก็ได้หายไปตามป่าเขามีบ้านผู้คนอยู่น้อยมากมีหลายครั้งที่หลวงปู่ออกบิณบาตร ไม่ได้อาหารเลยพอกลับมายังที่พักสักครู่ก็จะมีคนนำอาหารมาถวายบางครั้งมา 2 คน 3 คนบ้าง บางวันจะก็มาเป็น 10 ก็เป็นที่ประหลาดใจตอนที่หลวงปู่ออกบิณบาตรไปไกลมาก ก็ไม่เห็นมีชาวบ้านและบ้านผู้คนอาศัยอยู่แม้สักหลัง โยมทั้งหลายนี้ที่มาทำบุญกันมาจากที่ไหนกันแน่หนอ หลวงปู่จึงได้ถามกลับไปว่า “โยมที่มานี้บ้านอยู่ที่ใด อยู่ไกลหรือไม่” ก็ได้รับคำตอบว่า ”ก็อยู่ระแวงนี้แหละหลวงปู่” หลังจากหลวงปู่ได้ฉันท์อาหารเช้าแล้วได้สวดเมตตาให้พรแล้ว ผู้คนเหล่านั้นก็ได้กราบลาหลวงปู่เดินออกจากถ้ำไป หลวงปู่ได้ลุกจากที่ทันทีและเดินตามหลังไปดูที่ปากถ้ำ ปรากฏว่าผู้คนเล่านั้นได้หายไปหมดแล้ว จากเรื่องราวหลวงปู่ได้ประสบมานั้น เราชาวพุทธน่าจะสันนิฐานได้ว่า เรื่องเล่านี้ได้เคยเกิดมาแล้วตั้งแต่ในยุคโบราณกาล เพราะบรรดาทวยเทพยดาเทพารักษ์หรือนางไม้ทั้งหลาย ได้เห็นพระผู้ทรงศีลหรือพระอริยสงฆ์ออกบิณบาตรโปรดสัตว์ ต่างก็มาร่วมทำบุญถวายอาหารแก่หลวงปู่เพื่อเสริมสร้างกุศลผลบุญ วัตถุมงคล หลวงปู่หนู ปัญฺญาโสโต ได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกในปีพ.ศ.2515 เป็นเหรียญรูปไข่ เนื้อทองแดงรมดำ จำนวน 10,000 เหรียญ และเนื้อทองแดงกะไหล่ไฟ จำนวน 5,000 เหรียญสร้างออกให้บูชาในงานปิดทองผูกภัทธศรีมา (ฝังลูกนิมิต)ในปีพ.ศ.2515 โดยเหรียญรูปไข่ เนื้อทองแดงรมดำ ได้รับความนิยมมากกว่าเนื้อทองแดงกะไหล่ไฟ ทางวัดจึงได้เก็บเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดงรมดำจำนวน 3,000 เหรียญ โดยได้บรรจุไว้ใต้อุโบสถ และสำหรับเนื้อทองแดงกะไหล่ไฟต่อมาได้หมดไปแล้วเช่นกัน ปัจจุบันเหรียญทองแดงรมดำได้รับค่านิยมเล่นหาในตลาดพระอำเภอบ้านโป่ง สภาพสวย ๆ เล่นหากันราคา 2,500 บาทสำหรับเหรียญรูปไข่ เนื้อทองแดงกะไหล่ไฟ เล่นหากันราคาประมาณ 1,200-1,500 บาท เหรียญรุ่นแรกปีพ.ศ.2515 นี้ทั้ง 2 เนื้อเป็นเหรียญรุ่นเดียวกันออกพร้อมกัน หลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกเดียวครั้งเดียวกันเป็นเหรียญรูปไข่ขนาดความกว้าง 2.1 ซม. ส่วนสูง 3 ซม. ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ มีอักษรคำว่าพระครูหนู ปัญฺญาโสโต ถัดขึ้นไปเป็นอักขระเลขยันต์ 3 ตัว ด้านบนเป็นตัวอักษรคำว่า วัดไผ่สามเกาะ อ.บ้านโป่ง ส่วนด้านหลังของเหรียญเป็นยันต์นะละลวย รายล้อมด้วยคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ใต้ยันต์มีชื่อ จ.ราชบุรี ๒๕๑๕ เหรียญรุ่นแรกนี้มีประสบการณ์คุ้มครองผู้บูชามาแล้วมากมาย อภินิหารประสบการณ์เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๕ นายนิเวศ กล่อนคง อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่6 บ้านมาบแค ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้บูชาเหรียญรุ่นแรกปีพ.ศ.2515 เลี่ยมทองห้อยคอบูชาอยู่บนสร้อยทอง ได้ไปเที่ยวงานที่วัดหนองกลางดง ขากลับได้มีคนร้ายดักจี้เอารถและสร้อยทองของนายนิเวศ แต่นายนิเวศได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีไม่ยอมหยุด โดนคนร้ายยิงถูกกลางหลัง 2 นัดแต่ไม่เข้ารถมอเตอร์ไซค์ได้เสียหลักล้มลง คนร้ายได้ตามเข้ามายิงซ้ำอีกหลายนัดก็ยิงไม่เข้า นายนิเวศลุกขึ้นต่อสู้จนคนร้ายเห็นท่าจะสู้ไม่ได้จึงได้วิ่งหนีไป อภินิหารประสบการณ์เรื่องอุบัติเหตุ นายทัศ เกตุกมล ชาวบ้านเขาขลุง ได้ขับรถไปทำธุระที่จอมบึง รถยางแตกเสียหลักไหลไปประสานงากับรถสิบล้อบรรทุกลูกลังจนรถปิกอัพของนายทัศ พังยับเยินใช้งานไม่ได้แต่ตัวของนายทัศ ได้กระเดนออกจากรถไปตกลงข้างทางไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ภายหลังได้ทราบว่า นายทัศ นั้นได้ห้อยคอบูชาเหรียญรุ่นแรกปีพ.ศ.2515 ของหลวงปู่หนูในคอเพียงเหรียญเดียว นายสมจิต โมคสิต เป็นชาวหนองพังตุ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มากราบนมัสการหลวงปู่หนู ได้ถามหาจะขอบูชาเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่หนู แล้วได้กรุณาเล่าให้ทราบว่าเมื่อปีพ.ศ.2515 เค้าได้มาในงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดไผ่สามเกาะ ได้มาบูชาเหรียญทองแดงกะไหล่ไฟ ไป 2 เหรียญ ให้ภรรยาเค้าใช้ 1 เหรียญเค้าเองได้บูชาติดตัวอยู่ 1 เหรียญ นายสมจิต ทำอาชีพขับรถส่งผักจากชาวสวนไปส่งในเมืองอยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งเมื่อเดือนกันยายนปีพ.ศ.2521 ได้เกิดอุบัติเหตุรถของเค้าถูกชนจนพลิกหงายลงผักหล่นกระจัดกระจายเต็มถนน ส่วนตัวของนายสมจิต ถูกประตูรถหนีบร่างจนสลบไป ผู้คนเห็นเหตุการณ์ต่างก็วิ่งเข้าดูและช่วยงัดตัวของนายสมจิตออกมา พอฟื้นขึ้นปรากฏว่าผิวหนังของนายสมจิต มีรอยช้ำเขียวถึง 8 แห่งแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีบาดแผลแม้แต่น้อย ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตรวจเช็คร่างกายแล้วผลปรากฏว่าแพทย์ให้กลับบ้านได้เลย เหตุการณ์ครั้งนี้ นายสมจิตรอดพ้นจากอันตรายได้ด้วยพุทธคุณอันศักดิ์ศักดิ์ของเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่หนูช่วยชีวิตไว้อย่างแน่นอน ความเลื่อมใสยึดมั่นในหลวงปู่หนู ได้มีชายวัยอายุประมาณ 50 ปี เป็นคนอำเภอท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้มากราบนมัสการหลวงปู่หนูหลายครั้งและนับถือหลวงปู่หนูมาก ได้เคยขอตะคตคาดเอวหลวงปู่ไปบูชาแล้วฐานะก็ดีขึ้นจนเป็นคนรวยมีทรัพย์สินที่ดินมาก ด้วยความศรัทธาแม้แต่รองเท้าเก่า ๆ ของหลวงปู่ยังขอหลวงปู่ไปบูชา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่เขาเลื่อมใสจริง ๆ ของแต่ละบุคคล หาใช่เป็นเรื่องงมงายไม่ สำหรับตะกรุดโทน หลวงปู่สุดยอดมหาอุดและคงกระพัน ทหารพลร่มค่ายพระราม6 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทหารจังหวัดเพชรบูรณ์และชาวพุทธ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาบูชาไปจากหลวงปู่จำนวนมาก หลายท่านมาบูชาหลายครั้งได้เล่าให้ฟังว่า เรื่องมหาอุดอยู่ยงคงกระพันชาตรี แน่นอนเชื่อถือได้ ตามรูปครับ -ทุกรายการของผมราคารวมค่าจัดส่งเรียบร้อยแล้วครับ ไม่มีเพิ่มค่าจัดส่งครับ -เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่ง หากโอนเงินแล้วช่วยแจ้งให้ทราบด้วยครับ ขอบคุณครับ |
ราคาเปิดประมูล | 179 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 199 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | ส. - 23 ม.ค. 2559 - 19:40.53 |
วันปิดประมูล | อ. - 02 ก.พ. 2559 - 20:40.46 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...