ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ปราชญ์แห่งวัดราชผาฯ...เหรียญสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผาติการาม 2529
ชื่อพระเครื่อง | ปราชญ์แห่งวัดราชผาฯ...เหรียญสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผาติการาม 2529 |
---|---|
รายละเอียด | สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธัมมสารมหาเถร) เป็นพระนักเทศน์นักเผยแผ่ธรรม ที่ธำรงวัตรปฏิบัติตามแบบพระสงฆ์สายคณะธรรมยุตแท้ๆ เป็นพระนักปฏิบัติสายหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เป็นสมณะผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างแก่คณะสงฆ์และสาธุชน ด้วยการเน้นหลักธรรมคำสั่งสอนและการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำสมาธิ มิให้ตกอยู่ในความฟุ้งเฟ้อ ลุ่มหลงต่อวัตถุและลาภยศ อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า วิน ทีปานุเคราะห์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2449 ณ บ้านนาพญา อ.ขันเงิน จ.หลังสวน (ปัจจุบัน คือ อ.หลังสวน จ.ชุมพร) สำเร็จ การศึกษาชั้นประถมปีที่ 3 จากโรงเรียนประชาบาล วัดนาบุญ ก่อนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดโตนด เรียนอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ต้องลาออก เพราะมารดาประสงค์จะให้บรรพชาเป็นสามเณร พ.ศ.2566 เข้าพิธีบรรพชาที่วัดโตนด โดยมีพระธรรมารามคณีสุปรีชา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลัง ครองผ้ากาสาวพัสตร์มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง พ.ศ.2467 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2470 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค และสอบได้นักธรรมชั้นโท ได้ที่สำนักเรียนวัดราชาธิวาส กรุงเทพฯ กระทั่ง อายุครบ 22 ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดราชาธิวาส กรุงเทพฯ โดยมีพระธรรมารามคณีสุปรีชา เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระธรรมโกศาจารย์ วัดราชาธิวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากนั้นก็มุ่งมั่นศึกษาพระ ปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดราชาธิวาส กรุงเทพฯ ท่านได้สร้างคุณูปการแก่วงการ คณะสงฆ์นานัปการ ได้รับตำแหน่งด้านปกครอง อาทิ พ.ศ.2486 เป็นกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต พ.ศ.2493 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2494-2536 เป็นเจ้าคณะอำเภอดุสิต ปทุมวัน พระโขนง บางเขน บางกะปิ (ธรรมยุต) พ.ศ.2503 เป็นแม่กองธรรมสนามหลวงและเป็นเจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม พ.ศ.2508 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2484 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระอริยเมธี ในรัชกาลที่ 8 พ.ศ.2490 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชเมธี พ.ศ.2496 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพโมลี พ.ศ.2500 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมปาโมกข์ พ.ศ.2509 เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ พระพรหมมุนี พ.ศ.2512 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปแรก ในรัชกาลที่ 9 สถิต ณ วัดราชผาติการาม ย้อน หลังกลับไป เมื่อครั้งเจ้าประคุณสมเด็จฯ ไปอยู่วัดราชผาติการามใหม่ๆ ท่านให้สร้างกุฏิไม้หลังเล็กๆ กว้างยาวพอปูที่นอนและเหลือที่นั่งอ่านหนังสือ ฉันหมาก ฉันน้ำชา น้ำอ้อย น้ำส้มคั้น เป็นครั้งคราว ไม่นิยมฉันจุกจิก เจ้าประคุณสมเด็จถือว่า งานหลักในชีวิต คือ การเตรียมเทศน์ วันพระ การอ่านและการขบคิดธรรมะในพระไตรปิฎก คือ งานหมายเลข 1 ติดตามด้วยหนังสืองานศพที่ผู้รู้หลายท่านถือว่ามีค่าที่สุดในเมืองไทย ติดตามด้วยหนังสือพิมพ์ที่ผู้ใหญ่นิยมอ่านพอเป็นเครื่องกระสายการเทศน์ ท่านเจ้าประคุณจึงครุ่นคิดอยู่กับธรรมะเสมอ นิยม แสดงธรรมตามหลักพระธรรมกถึก ที่ทรงแสดงไว้ในนวโกวาท คือ 1.แสดงธรรมโดยลำดับ ไม่ตัดลัดให้ขาดความ 2.อ้างเหตุผลแนะนำให้ผู้ฟังเข้าใจ 3.ตั้งจิตเมตตาให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟัง 4.ไม่แสดงธรรมเพราะเห็นแก่ลาภ 5.ไม่แสดงธรรมกระทบตนและผู้อื่น คือ ไม่ยกตนข่มผู้อื่น มี การนำพระบาลีมาวิเคราะห์พระพุทธคุณแต่ละบท 5 ข้อบ้าง 7 ข้อบ้าง 10 ข้อบ้าง ทั้งนี้ เพราะถือว่าเมตตากรุณาคือฐานสำคัญของการประกาศพระศาสนา นอกจากนี้ ยังมีผลงานด้านการแต่งหนังสือต่างๆ เป็นจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็เคยทรงสดับพระธรรมเทศนาจากท่านเจ้าประคุณตามกาลที่เหมาะสม ดัง ที่ทรงมีพระราชปรารภในหนังสือพระมหาชนก ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ว่าทรงสดับพระธรรมเทศนาจากท่านเจ้าประคุณเรื่องพระมหา ชนก จนทำให้พระองค์สนพระราชหฤทัย ทรงค้นเรื่องดังกล่าวจากพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่มที่ 9 ภาคที่ 2 และทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้นเรื่อง โดยทรงดัดแปลงเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น นอกจากนี้ ท่านเจ้าประคุณยังได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในวัดราชผาติการาม คือ ให้ตีระฆังเล็กเวลาตี 4 ให้พระเณรตื่นขึ้นนั่งกัมมัฏฐาน ในวันพระ เวลาบ่ายจะลงอบรมและนำอุบาสก อุบาสิกานั่งกัมมัฏฐาน หลังจากทำวัตรค่ำประจำวัน ขึ้นกุฎีแล้วจุดธูปเทียน นั่งสงบอยู่หน้าพระประธาน 15-20 นาทีทุกวัน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ มีพระเถระชื่อดังเป็นกัลยาณมิตรมากมาย ท่านเหล่านั้นพักและแวะเวียนอยู่เสมอ อาทิ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงพ่อนิกรครุนาถ ชุมพร, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น ท่าน นิยมพูดถึงเจ้าคุณพระธรรมวโรดม วัดราชาธิวาส ซึ่งเป็นพระอาจารย์และยึดถือเป็นแบบอย่างสืบมา ว่า ท่านเจ้าคุณอาจารย์เป็นพระที่ละเอียดอ่อนในระเบียบวินัย เป็นต้นว่า การจัดกระถางธูป เชิงเทียน แจกันหน้าพระ เป็นระเบียบเรียบร้อยปฏิบัติเคร่งครัดในพระวินัยขั้นละเอียด กวดขันว่าพระไม่ควรจับต้องวัตถุอนามาส ไม่ควรจับต้องเครื่องปรุงอาหาร ศาสตรา อาวุธ เครื่องแต่งกายของคฤหัสถ์สตรี เครื่องดนตรี พระไม่ควรดมดอกไม้ตามวินัยชั้นสูง เมื่อพระธรรมวโรดม รับหน้าที่เป็นเจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราช และภูเก็ต เจ้าพระคุณสมเด็จ รับหน้าที่เป็นเลขานุการ การปฏิบัติตามระเบียบวินัยเหล่านี้ สืบสายมาแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร ท่านเจ้าประคุณก็พลอยได้รับต้นแบบที่ดี และปฏิบัติตามเข้าถึงต้นแบบ สมเด็จ พระมหาวีรวงศ์ มีบุคลิกสง่าแกมอ่อนน้อม รูปร่างสูงใหญ่กว่าพระเณรทั่วไป มีน้ำเสียงนุ่มไพเราะ เป็นต้นแบบการสวดสรภัญญะเป็นอย่างดี และมักต้องรับหน้าที่ขัดตำนานในพระราชพิธีต่างๆ เพราะได้ฝึกฝนในเรื่องนี้จนเป็นต้นแบบได้ พระเถระต่างกล่าวชมว่า น้ำเสียงไพเราะทำนองเหมาะสม เมื่อย่างเข้าสู่วัยชรา อาพาธเนื่องจากอาการเส้นโลหิตดำที่ขาซ้ายตีบตัน เป็นเหตุให้ขาด้านซ้ายบวม ได้เข้าพักรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นครั้งคราว และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์มาโดยตลอด ครั้งสุดท้าย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2536 และได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ ในวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2536 เวลา 00.10 น. สิริอายุ 87 พรรษา 65 แม้จะละสังขารจากไปนานกว่า 13 ปี แต่ยังเป็นที่ระลึกถึงของศิษยานุศิษย์และชาวพุทธทั่วไป ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสดครับ |
ราคาเปิดประมูล | 260 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 270 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | พฤ. - 07 ม.ค. 2559 - 17:10.26 |
วันปิดประมูล | อา. - 17 ม.ค. 2559 - 09:34.41 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
270 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | ส. - 16 ม.ค. 2559 - 09:34.41 |
กำลังโหลด...