ประมูล หมวด:พระกรุ เนื้อชิน
พระปางห้มสมุทรเนื้อชิน กรุเก่า พิมพ์ทรงสวยงาม
ชื่อพระเครื่อง | พระปางห้มสมุทรเนื้อชิน กรุเก่า พิมพ์ทรงสวยงาม |
---|---|
รายละเอียด | พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนาน ดังนี้ เมื่อพระบรมศาสดาโปรดพระยสะแล้ว ต่อมาก็แสดงธรรม โปรด วิมละ สุพาหุ ปุณณชิ และควัมปติ เสฏฐีบุตร รวม ๔ คน กับมาณพอีก ๕o คน ซึ่งล้วนเป็นเพื่อนของพระยสะให้สำเร็จแล้วประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา รวมเป็นอริยสงฆ์สาวก ๖o องค์ด้วยกัน เมื่อพระบรมศาสดาทรงเห็นว่า บัดนี้ควรจะประกาศศาสนาได้แล้ว จึงตรัสเรียกสาวกทั้ง ๖o องค์มาแล้ว ทรงรับสั่งว่า "ภิกษุทั้งหลาย เราได้พ้นแล้วจากบ่วงทั้งหลาย ทั้งที่เป็นของทิพย์และของมนุษย์ แม้พวกเราทั้งหลาย ก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งหลายเช่นกัน พวกเธอจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ชนทั้งหลายเพื่ออนุเคราะห์แก่ประชุมชนเพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ แต่อย่ารวมกันไปทางเดียวตั้งแต่สองรูปจงแยกกันไปแสดงธรรมประกาศพรหมจรรย์ สัตว์ทั้งหลายที่มีธุลีในนัยน์ตาน้อยมีอยู่ สัตว์พวกนี้ย่อมเสื่อมจากคุณที่ควรได้ เพราะโทษที่ไม่ได้ฟังธรรมเมื่อได้ฟังธรรมแล้ว สัตว์ผู้รู้ทั่วถึงธรรมจักมีเป็นแน่ ภิกษุทั้งหลาย แม้เราเองก็จักไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรมเช่นเดียวกัน" ครั้งทรงส่งสาวก ๖o องค์ ไปประกาศพระศาสนาแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคมครั้งถึงไร้ฝ้าย ทรงพบภัทรวัคคีกุมาร ๓o คน ได้ทรงแสดงธรรมโปรดกุมารทั้ง ๓o คนนั้น ให้บรรลุธรรมเบื้องสูงแล้ว ประเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้เป็นภิกษุในพระศาสนาแล้ว ทรงให้ออกไปประกาศพระศาสนาทั้ง ๓o องค์ เช่นเดียวกับพระสาวกทั้ง ๖o นั้น แล้วพระองค์ก็เสด็จต่อไปยังอุรุเวลาเสนานิคม เสด็จเข้าไปประทับอาศัยอยู่ในสำนักของอุรุเวลากัสสป หัวหน้าชฎิล ๕oo ผู้เป็นที่เคารพนับถือของมหาชนในมคธรัฐเป็นอันมาก ต่อมาก็ทรงทำปาฏิหาริย์นานัปการ เริ่มตั้งแต่ทรมารพญานาคในโรงไฟอันเป็นที่นับถือของชฎิลเหล่านั้นให้มีฤทธิ์แล้ว ประทับอยู่ที่โรงไฟนั้นโดยผาสุกวิหาร ให้ชฎิลทั้งหลายมีความเคารพนับถือในอานุภาพของพระองค์แล้ว ทรงทำปาฏิหาริย์อื่นๆอีก ในครั้งสุดท้ายทรงทำปาฏิหาริย์ห้ามน้ำ ซึ่งไหลบ่าจากทิศต่างๆ ท่วมสำนักท่านอุรุเวลากัสสปมิให้น้ำเข้ามาในที่พระองค์ประทับ พระองค์เสด็จจงกรมภายในวงล้อมของน้ำที่ท่วมท้นเป็นกำแพงรอบด้าน ครั้งนั้น ชฎิลทั้งหลายพากันพายเรือมาดู ต่างเห็นเป็นอัศจรรย์ในที่สุดก็สิ้นพยศทั้งหมดยอมเป็นศิษย์ตั้งอยู่ในโอวาท ถึงกับลอยบริขารของชฎิลลงทิ้งเสียในแม่น้ำแล้ว ขออุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธจริยาที่ทรงทำปาฏิหาริย์ห้ามน้ำครั้งนี้ ได้เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนที่นิยมในอิทธิปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าถือเป็นมงคลอันสูงเป็นคุณอัศจรรย์ยิ่งเป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ เรียกว่า "ปางห้ามสมุทร" แต่พุทธศาสนิกชนที่หนักในอนุสาสนีปาฏิหาริย์ นิยมในคุณธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาสั่งสอนเห็นเป็นอัศจรรย์ยิ่งกว่า แม้จะได้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นไว้ ก็ได้ปรารภถึงเหตุไม่ แต่ได้ปรารภเหตุอื่น จะขอยกมาสาธกดังต่อไปนี้ :- ในพระนครกบิลพัศดุ์ อันเป็นแว่นแคว้นที่ประทับอยู่ของเจ้าศากยะ ซึ่งพระญาติข้างฝ่ายพระพุทธบิดากับพระนครเทวทหะ อันเป็นแว่นแคว้นที่ประทับอยู่ของเจ้าโกลิยะ ซึ่งพระญาติข้างฝ่ายพระมารดาทั้งสองพระนครนี้ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโรหินี ชาวนาของเมืองทั้งสองนี้อาศัยน้ำในแม่น้ำโรหินีทำนาร่วมกันมาโดยปกติสุข สมัยหนึ่งฝนน้อย น้ำในแม่น้ำก็น้อยชาวนาทั้งหมดต้องกั้นทำนบทดน้ำในแม่น้ำนี้ขึ้นทำนา แม้ดังนั้นแล้วน้ำก็พาเพียงพอไม่ เป็นเหตุให้มีการแย่งน้ำทำนากันขึ้น ชั้นแรกก็เป็นการวิวาทกันเฉพาะเพียงบุคคลต่อบุคคล แต่เมื่อไม่มีการระงับด้วยสันติวิธี การวิวาทก็ลุกลามมากขึ้น จนถึงคุมสมัครพรรคพวกเข้าประหารกัน และด่าว่ากระทบถึงชาติโคตร และลามปามไปถึงราชวงค์ในที่สุด กษัตริย์ผู้เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้าทั้งสองพระนคร ก็กรีฑาทัพออกประชิดกันยังแม่น้ำโรหินีเพื่อสัมประหารกัน โดยหลงเชื่อคำเพ็ดทูลของอำมาตย์ที่กำลังเคียดแค้นกัน มิได้ทันทรงวินิจฉัยให้ถ่องแท้ว่า เมื่อเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นเกิดขึ้นแล้วควรจะทรงระงับเสียด้วยสันติวิธี อันชอบด้วยพระราโชบายที่รักษาสันติสุขของประเทศ พระบรมศาสดาทรงทราบ ก็ทรงพระมหากรุณาเสด็จไปห้ามสงครามแย่งน้ำระหว่างพระญาติทั้งสอง โดยทรงแสดงโทษคือความพินาศย่อยยับของมนุษย์ โดยไม่พอที่จะพากันล้มตายทำลายเกียรติของกษัตริย์เพราะเหตุแย่งน้ำเข้านาเล็กน้อย ครั้นพระญาติทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจคืนดีกันแล้วก็เสด็จพระพุทธดำเนินกลับ พระพุทธจริยาที่ทรงแสดงตอนนี้ เป็นมงคล แสดงอานุภาพของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงพุทธศาสนิกชนผู้หนักในธรรม เล็งเห็นเป็นคุณอัศจรรย์ยิ่งแห่งอนุสาสนีปาฏิหาริย์ จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้น เรียกว่า "ปางห้ามสมุทร" บ้าง เรียกว่า "ปางห้ามญาติ" บ้างดังนั้น ปางห้ามสมุทรและปางห้ามญาติจึงเป็นปางเดียวกัน แต่มีบางท่านกล่าวค้านว่า ปางห้ามญาติยกมือเดียว ปางห้ามสมุทรยก ๒ และแล้วก็ถูกบางท่านกล่าวค้านว่าไม่ถูก ปางห้ามสมุทรยกมือเดียว ปางห้ามญาติยก ๒ มือ คือห้ามทั้งสองฝ่าย ต้องยก ๒ มือ ถ้ายกมือเดียว ก็ห้ามฝ่ายเดียว ไม่เป็นธรรม ฝ่ายที่ไม่ถูกห้ามก็จะได้ใจ แต่ฝ่ายถูกห้ามจะเสียใจจะไม่เชื่อถือ แล้วสงครามก็จะไม่สงบ ตามเหตุผลเรื่องหลังนี้แยบคายดีกว่า ถ้าเรียกพระพุทธรูปปางนี้รวมกันเป็นชื่อเดียวว่า "ปางห้ามพระญาติแย่งน้ำในสมุทร" เรื่องก็น่าจะยุติ ด้วยสมเหตุสมผล ควรแก่การเชื่อถือ ตามนัยนี้นอกจากผู้เชื่อถือจะไม่ถูกวิจัยว่าเชื่องมงายแล้ว ยังเป็นเกียรติอันสูงแก่พระบรมศาสดาที่ทรงพระมหากรุณาควรแก่การเทอดทูนของชาวโลกอีกด้วย |
ราคาเปิดประมูล | 900 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 9,000 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 900 บาท |
วันเปิดประมูล | จ. - 02 พ.ย. 2558 - 14:00.26 |
วันปิดประมูล | พ. - 18 พ.ย. 2558 - 20:16.28 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 9,000 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
ราคาประมูลด่วน | 9,900 บาท |
เพิ่มครั้งละ | 900 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
1,800 บาท | ส. - 31 ต.ค. 2558 - 11:29.15 | |
2,700 บาท | พ. - 11 พ.ย. 2558 - 21:16.24 | |
3,600 บาท | พ. - 11 พ.ย. 2558 - 21:17.11 | |
4,500 บาท | พ. - 11 พ.ย. 2558 - 21:17.41 | |
5,400 บาท | อ. - 17 พ.ย. 2558 - 20:15.32 | |
6,300 บาท | อ. - 17 พ.ย. 2558 - 20:15.45 | |
7,200 บาท | อ. - 17 พ.ย. 2558 - 20:16.03 | |
8,100 บาท | อ. - 17 พ.ย. 2558 - 20:16.16 | |
9,000 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | อ. - 17 พ.ย. 2558 - 20:16.28 |
กำลังโหลด...