ประมูล หมวด:พระกริ่ง พระชัยวัฒน์
พระชัย เจ้าคุณผล วัดหนังบางขุนเทียน องค์นี้เป็นพระชัยปั๊ม ดูง่ายเก่าจริง มีอุดชันโรงใต้ฐานมาแล้วจ้า
| ชื่อพระเครื่อง | พระชัย เจ้าคุณผล วัดหนังบางขุนเทียน องค์นี้เป็นพระชัยปั๊ม ดูง่ายเก่าจริง มีอุดชันโรงใต้ฐานมาแล้วจ้า |
|---|---|
| รายละเอียด | พระสุนทรศีลสมาจารย์ หรือ หลวงพ่อผล วัดหนัง บางขุนเทียน ธนบุรี บางคนก็เรียกท่านว่า เจ้าคุณผล เป็นศิษย์สายตรง ถือว่าท่านเป็นทายาทสืบทอดพุทธาคมของ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ฉายาของหลวงพ่อผลก็บ่งบอกถึงคุณธรรมของหลวงพ่อผล ที่เป็นผู้ดำรงศีลวัตรอันบริสุทธิ์ เจ้าคุณผล ( ผล คุตฺตจิตฺโต) เกิดวันจันทร์ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๔๓๗ อุปสมบทที่วัดหนัง วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๔๕๘ โดยมีพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม สุวณฺณสโร ) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อนิ่ม วัดโคกขาม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดแจ้ง วัดหนัง เป็นพระอนุศาสนาจารย์ เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนาธุระอยู่ที่วัดหนังมาโดยตลอด หลวงพ่อผลมีความสนใจในด้านการทำสมาธิจิตและวิปัสสนากรรมฐาน จนกระทั่งท่านมีความสามารถสอนให้แก่ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ หลวงพ่อผลได้รับแต่งตั้งเป็น พระใบฎีกา ฐานานุกรมของหลวงปู่เอี่ยม ท่านเป็นศิษย์และช่วยงานภายในวัดหนังอย่างมาก หลังจากหลวงปู่เอี่ยมมรณภาพลงใน พ.ศ.๒๔๖๙ พระวิเชียรกวี (ฉัตร) เจ้าอาวาสท่านต่อมา ได้แต่งตั้ง หลวงพ่อผล ให้เป็น พระปลัดฐานานุกรม ใน พ.ศ.๒๔๗๐ และใน พ.ศ.๒๔๗๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร และเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนัง ใน พ.ศ.๒๔๙๔ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก และ พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นพระราชาคณะ ที่พระสุนทรศีลสมาจารย์ ใน พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนัง เจ้าคุณผล เป็นพระที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ท่านไม่ใช่พระเกจิที่เน้นด้านเสกเป่าวัตถุมงคล แต่ท่านเป็นพระปฏิบัติที่มุ่งความหลุดพ้นรูปหนึ่ง ในสมัยที่หลวงพ่อผลสุขภาพแข็งแรงท่านจะออกเดินธุดงควัตรทุกปี หลวงพ่อผลหยุดเดินธุดงควัตรเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๖ เพราะท่านเจ้าอาวาสวิเชียรกวี ขอร้องให้ท่านคอยช่วยกิจการในวัด ในด้านวิชาอาคม หลวงพ่อผลท่านก็เป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้เสมือนตัวแทนของหลวงปู่เอี่ยม ชื่อเสียงของหลวงพ่อผลโด่งดังพอสมควร ในงานพุทธาภิเษกที่สำคัญมักจะมีชื่อของหลวงพ่อผล วัดหนัง ซึ่งสหธรรมิกที่เป็นรุ่นเดียวกับหลวงพ่อผล วัดหนัง ได้แก่ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพีล เป็นต้น งานพุทธาภิเษกสำคัญที่มีชื่อหลวงพ่อผล เช่น งานยี่สิบห้าศตวรรษ งานวัดประสาทบุญญาวาส เป็นต้น หลวงพ่อผลมรณภาพวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ สิริอายุรวม ๗๔ ปี หลวงพ่อผลท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิด ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน นอกจากเหรียญรุ่นแรก พระปิดตาเนื้อชิน และเนื้อผง นางสามเหลี่ยมพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก ทั้งเนื้อชินและผง หมากทุย ผ้ายันต์ ตะกรุด แล้ว สิ่งที่นักสะสมนิยมเป็นอย่างยิ่งเห็นจะได้แก่พระชัยวัฒน์ ก้นอุดชันโรง โดยเฉพาะพระชัยฯ รุ่นแรก ๆของท่าน ที่เป็นการหล่อแบบโบราณขึ้นหุ่นเทียน ด้วยกรรมวิธีเดียวกันกับอาจารย์ของท่าน ได้แก่ เจ้าคุณเฒ่า หรือ หลวงป่เอี่ยม วัดหนัง แม้ประวัติการแยกแยะรุ่นพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุณผล ข้อมูลไม่ตรงกันนัก บ้างก็ว่ามีด้วยกัน 7 รุ่น ในที่นี้ขอใช้ข้อมูลอ้างอิงของ เวปพระใดอทคอมว่า มีทั้งสิ้น 5 รุ่น และ 3 รุ่นแรกเป็นพระหล่อ อีกสองรุ่น ที่สร้างหลังจากนั้น เป็นพระปั๊ม องค์ที่นำมาให้ชมกันนี้เป็นพระปั๊ม รุ่น4 จัดสร้างในปี พ.ศ.2504 (อ้างอิงตามข้อมูลในทำเนียบรุ่นของเวปพระ) ใต้ฐานมีเจาะรูอุดด้วยชันโรง "ชันโรงใต้ดิน" เป็นหนึ่งในบรรดาวัตถุมงคลอาถรรพ์ทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นจากสัตว์ตามตำราคณาจารย์แต่โบราณ ความจริงชันโรงเป็นชื่อของแมลงชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูลผึ้ง มีขนาดลำตัวเล็กกว่า และไม่มีเหล็กในในตัวเอง นิสัยเป็นมิตรไม่ดุร้าย มีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกับผึ้ง เช่น มีนางพญา มีชันโรงงาน และมีชันโรงตัวผู้ สามารถผลิตน้ำหวาน และขยายเผ่าพันธุ์ในลักษณะเช่นเดียวกันกับผึ้ง ในสมัยโบราณเราสามารถพบตัวชันโรงได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทางภาคเหนือจะเรียกว่า "แมลงขี้ตังนี" หรือ "แมลงขี้ตึง" แปลว่าแมลงที่ผลิตหรือเก็บน้ำยางได้ ทางภาคอีสานเรียก "แมลงขี้สูด" นิยมนำไปอุดแคน หรือถ่วงเครื่องดนตรีประเภทระนาด โปงลาง ทำให้เกิดเสียงไพเราะ ส่วนภาคใต้เรียกตัว "อุง" ถ้าตัวเท่าแมลงหวี่เรียกอุงแมงโลม เพราะชอมมาตอมไต่ผู้คนเวลาเดินป่า ถ้าตัวใหญ่เรียกอุงหมี นอกจากนี้ บางพื้นที่ยังรู้จักกันในชื่อ "ตัวชำมะโรง" อีกด้วย "ชันโรง" ที่นำมาใช้ประกอบจัดสร้างวัตถุมงคลหรือวัตถุอาถรรพ์นั้น จะเป็นยางไม้เหนียวข้นคล้ายกับชันที่ยาเรือ ตัวชันโรงจะเก็บยางจากไม้ใหญ่ต่างๆ นำมาผสมกับมูลแล้วอุดรูร่องรอยสร้างขึ้นเป็นรัง เราจะสามารถพบเห็นรังของชันโรงได้ตามโคนต้นไม้ใหญ่ๆ ตามโพรงของกิ่งไม้ และบริเวณใต้ดิน การทำชันโรงประกอบขึ้นเป็นวัตถุมงคลนั้นถือว่าเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณ ผู้ทำจะต้องทรงวิทยาคุณแก่กล้า และรู้จักวิธีการ "หา" ชันโรง ที่นิยมใช้กันมาแต่โบร่ำโบราณจะเป็นชันโรงใต้พื้นดิน โดยจะต้องเริ่มสังเกตโพรงบนพื้นดินที่ยื่นขึ้นมาเป็นรูปกรวย ซึ่งตรงกลางจะกลวง กรวยดินนี้จะกระจัดกระจายอยู่ในละแวกเดียวกันหลายกรวย ซึ่งก็คือทางเข้าออกของตัวชันโรงที่อยู่ใต้ดิน ให้สังเกตบริเวณใกล้ๆ กันนั้นมักจะมีจอมปลวกขึ้นอยู่ด้วย เมื่อพบแล้วต้องทำพิธีกรรมตามตำรา แล้วขุดลงไป บางทีต้องขุดลึกถึง 1-2 เมตร จึงจะได้ชันโรงตามที่ต้องการ ส่วนชันโรงอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำวัตถุอาถรรพ์ ก็คือ ชันโรงที่พบในโพรงไม้ที่ยืนตายซาก โบราณท่านว่าดีนักแล เมื่อครั้งหลวงปู่เอี่ยมครองวัดโคนอน ท่านได้ทอลองเทพระชัยวัฒน์ขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นพระชัยวัฒน์แบบรูปลอยองค์ นิยมเรียกกันว่า "พระชัยวัฒน์ วัดโคนอน" จึงมีอัตตลักษณ์เฉพาะ โดยมีองค์พระประทับนั่ง ปางขัดสมาธิเพชร อยู่เหนือสุดเฉพาะด้านฐานสูง และฐานบนสุดเฉพาะด้านหน้าเป็นบัว 5 ดอก ตรงกลางฐานโดยรอบวาดเว้าเข้าด้านในเล็กน้อยและมีเอกลักษณ์ตรงที่มือถือบาตรน้ำมนต์ รอบพระศอคล้องประคำ ที่สำคัญก็คือ ใต้ฐานคว้านกลวงมาแต่หุ่นเดิม เล่ากันว่า ท่านจารอักขระนะปถมังพินทุในกระดาษสาบรรจุเอาไว้แล้ว อุดทับด้วยชันโรงใต้ดินอีกชั้นหนึ่งภายนอกสุด เป็นเคล็ดไม่ให้ติดไฟ ตามกรรมวิธีโบราณ ที่ใช้ชันโรงเพื่อเป็นตัวอุดในการสร้างวััตถุมงคลประเภทต่างๆ ตามความเชื่อที่ว่า ชันโรงเป็นของ "ทนสิทธิ์" เป็นวัสดุอาถรรพ์ ที่หากนำมาวางขวางดินปืน เมื่อจุดไฟ แม้ดินปืนจะติดไฟลามลุกไป แต่เมื่อมาถึงบริเวณที่มีชันโรงใต้ดิน จะดับวูบลงทันที สันนิษฐานว่าท่านต้องการผลทางอยู่ปืน ตั้งจิตโน้มเอากสิณน้ำเป็นอารมณ์ นัยว่าเพื่อให้ดินปืนชื้นจะได้ไม่ระเบิด อีกทั้งยังใช้ชันโรงนี้เองเป็นวัสดุช่วยอุดป้องกันไม่ให้วัตถุที่ลงอาคม เช่น เม็ดกริ่ง กระดาษสาเขียนยันต์ ผงใบลาน พระคาถา ที่คณาจารย์ทำพิธีและบรรจุไว้ในพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ตลอดจนวัตถุมงคลอื่นๆ หลุดออกไปจากวัตถุมงคล เท่าที่ทราบ พระชัยวัฒน์ที่ใช้ชันโรงใต้ดินบรรจุใต้ฐาน มีสร้างเพียงสำนักเดียวเท่านั้นคือสำนักวัดหนัง บางขุนเทียน พระดูง่ายไร้กังวลทั้งพิมพ์และเนื้อหา ชาวบางขุนเทียนเชื่อกันว่า พระของท่านเจ้าคุณผลเด่นดัง ทางเมตตามหานิยม และแคล้วคลาดคงกระพัน ไม่น้อยหน้าองค์อาจารย์ของท่าน ก็คือเจ้าคุณเฒ่าเลยแม้แต่น้อย Jorawis รับประกันความแท้ที่เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดิม ด้วยรางวัลโบว์เขียว จากงานศูนย์กีฬาแห่งชาติ ภาคตะวันออก ที่พัทยา ที่จัด เมื่อวันที่21 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เองจ้า สนใจติดต่อสอบถามกันได้จ้า นอกจากพระองค์นี้ อาจมีรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่เลยจ้า http://www.web-pra.com/Shop/jorawis |
| ราคาเปิดประมูล | 700 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 3,800 บาท (ถึงราคาประมูลด่วน) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | ศ. - 24 เม.ย. 2558 - 22:24.29 |
| วันปิดประมูล |
พฤ. - 07 พ.ค. 2558 - 08:40.15 
|
| ผู้ตั้งประมูล | |
| แชร์หน้านี้ |
| ราคาปัจจุบัน | 3,800 บาท (ถึงราคาประมูลด่วน) |
|---|---|
| ราคาประมูลด่วน | 3,800 บาท |
| เพิ่มครั้งละ | 100 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
| กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...
