พระสมเด็จพระศรีอาริย์ฯ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง - webpra

ประมูล หมวด:พระสมเด็จทั่วไป

พระสมเด็จพระศรีอาริย์ฯ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

พระสมเด็จพระศรีอาริย์ฯ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง พระสมเด็จพระศรีอาริย์ฯ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระสมเด็จพระศรีอาริย์ฯ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง
รายละเอียดพระสมเด็จพระศรีอาริย์ฯ หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ มหาโพธิสัตว์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง
ประวัติของหลวงปู่ ไม่มีใครรู้รายละเอียดและเปิดเผยได้ เพราะขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่ให้สัมภาษณ์ ห้ามถ่ายรูป และลงเรื่องราวต่างๆ ของท่านในนิตยสารใดๆ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม

นักรบธรรมได้รายละเอียดจากอาจารย์ว่า ท่านคือพระเถระโพธิสัตว์เจ้าองค์หนึ่ง ท่านลงมาทำงานด้านศาสนาและเชื่อมแผ่นดินสองฝั่งโขงให้คนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก่อนที่จะพ้นคำสาบแช่งของนายศรีโคตรท่านได้ให้ความช่วยเหลือและประสานงานให้ชายคนหนึ่งกับกลุ่มชาวพระยานาคในโลกบาดาลแถวลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีหลวงปู่ศรีสุทโธเป็นหัวหน้า เพื่อฟื้นฟูศาสนาและศิลธรรมในดินแดนล้านช้างหลังจากการเข้าครอบงำของลัทธิสังคมนิยมในปีพ.ศ.2518 เป็นต้นมา จนกระทั่งเมื่อพ.ศ.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเปิดสมานมิตรภาพไทย-ลาวเป็นปฐมฤกษ์ บ่งบอกถึงเวลาอันสมควรที่จะต้องลงมือปฏิบัติงานตามหน้าที่แต่ละคน ซึ่งรู้กันเองโดยไม่ต้องมีใครคอยบอก

นอกจากจะทำให้รัฐบาลสังคมนิยมของ ส.ป.ป.ลาว ยอมรับในพิธีกรรมทางด้านศาสนา เช่นการตักบาตร การบวช ประเพณีงานบุญในฤดูการต่างๆ แล้วท่านยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้กลุ่มลัทธิอนุตรธรรม เข้าไปเผยแผ่ลัทธิคำสอนที่บิดเบือนในแผ่นดินของลาวได้และขณะเดียวกันก็ยังช่วยเหลือนักโทษสงคราม MIA หรือกลุ่มนักบินอเมริกันในสมัยสงครามเวียดนามที่ถูกขังในถ้ำแห่งหนึ่งแถบแขวงเชียงขวาง ให้ออกมาและกลับคืนสู่มาตุภูมิได้ 2 คนในปี พ.ศ.2539 อีกด้วย จากที่มีจำนวนมากถึง 650 คน ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่ยังมีชีวิตอยู่

ก่อนที่หลวงปู่เราจะมรณะภาพนั้น ท่านได้สละวิชาทั้งหมด ทิ้งฤทธิ์เดชทั้งหมด
มีลูกศิษย์ที่เป็นมาร เมื่อไม่ได้วิชาจึงทำของใส่หลวงปู่
ครั้งแรกหลวงปู่รอดได้เพราะเพื่อนพระที่เป็นผู้ถอดกายพันปีเหมือนกัน อยู่ที่วัดบ้านเหล่าใหญ่
คือหลวงปู่อ้อยวัดภูน้อยเทพนิมิต อ.กุฉินารายณ์ กาฬสิน
หลวงปู่ทองทิพย์ทราบด้วยฌาน จึงให้ลูกศิษย์ไปนิมนต์มาพบ

เมื่อมาพบแล้วด้วยหลวงปู่อ้อยมียาลักษณะเหมือนเขากวางปะการังไปเหน็บในเอวของ
หลวงปู่ทองทิพย์ ของที่ทำมาครั้งแรกจึงออก หลวงปู่อ้อยนิมนต์ให้หลวงปู่ทองทิพย์กลับ
มาใช้ฤทธิ์เหมือนเดิม แต่หลวงปู่ทองทิพย์ไม่รับนิมนต์

ครั้งสุดท้ายหลวงปู่ทองทิพย์ มีลูกศิษย์พระคนเดิม คนที่อยู่หนองคายนั่นแหละเอาไอติมให้ฉัน หลวงปู่ทองทิพย์
เองก็รู้ว่าไอ้นี่ใส่ของให้กูกินอีกแล้ว แต่ก็ฉันด้วยความปลงในกรรมเวรนี้
พอฉันเสร็จ ท่านก็เรียกลูกศิษย์คือหลวงพี่สอน หรือผมเรียกว่าหลงปู่เหมอ มารับไปอยู่ที่วัดบ้าน
นาบั่ว อ.เรณูนคร จ.นครพนม ก่อนมาท่านบอก

"สอน..ไปหาเรือมา..พ่อจะนอนในเรือ."

หลวงปู่เหมอจึงนั่งคิดว่าเอ..แล้วเราจะไปหาเรือมาจากไหน มาให้พ่อเรานอนกันหนอ..
จึงไปติดต่อซื้อเรือมาจาก อ.ธาตุพนม ซึ่งอยู่ไกลออกไปประมาณ 7-8 กิโลเมตร จะขอซื้อ
ลำหนึ่ง 10,000 บาท แต่ชาวประมงไม่ขาย ยังไงก็ไม่ขาย
หลวงปู่เหมอจึงกลับมาที่วัด จุดธูปบอกหลวงปู่ทองทิพย์ว่าคงไม่ได้เรือเพราะเขาไม่ขาย และโทรบอกหลวงปู่ทองทิพย์ตอบเที่ยง หลวงปู่ทองทิพย์หัวเราะแล้วบอก..

"พรุ่งนี้มันก็เอามาให้เอง..."

รุ่งเช้าอีกวันเป็นวันที่หลวงปู่ทองทิพย์จะมาวัดแล้ว หลวงปู่เหมอยิ่งร้อนใจ..ประมาณเที่ยงๆ
ชาวประมงค์นั้นได้ขี่รถมาบอกให้หลวงปู่เหมอไปเอาเรือเลย ให้ฟรีๆ หลวงปู่เหมอแปลกใจมาก
จึงถามว่าทำไม?

ชาวประมงบอกว่าผูกเรือล่ามโซ่เอาใว้ แต่หลุด เรือแล่นทวนน้ำโดยไม่มีคนนั่งเลย..
แล่นทวนน้ำมาจาก อ.ธาตุพนมทวนน้ำโขงขึ้นมาจนถึงสามแยกหน้าทางเข้า อ.เรณูนคร
เป็นระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร ขณะนี้ลอยอยู่กลางน้ำโขงไม่กล้าเข้าไปเอา..
หลวงปู่จึงจ้างรถไปจุดธูปบอกกล่าว เรือนั้นก็หันหัวเข้ามาหาฝั่งเอง
พอมาถึงวัด พอดีกับหลวงปู่ทองทิพย์มาวัดพอดี เรือกลับไม่ยอมลงจากรถ เอาคนลาก 6-7 คน
ก็ไม่ขยับ จึงเดินไปบอกหลวงปู่ทองทิพย์ที่รถตู้ หลวงปู่จึงให้จุดธูปบอกอีก คราวนี้พอดึงเรือ
เรือนั้นก็ไหลลงจากรถ แล้วไถลยาวมาประมาณ 20 เมตรมาจอดตรงกลางศาลาเลย เป็นที่น่า
อัศจรรย์กับลูกศิษย์ที่มาช่วยกันยกมาก

เนื่องด้วยหลวงปู่ทองทิพย์ไม่เดินเหยียบดิน หลวงปู่เหมอจึงอุ้มท่านลงมานอนใว้ที่เรือ
หลวงปู่ทองทิพย์ท่านรู้วาระตัวเอง จึงบอกเป็นนัยๆว่า ถ้าหลวงปู่เหยียบพื้นดินตรงไหน ตรงนั้นจะ
มีของวิเศษแปลกๆ ออกมามาก บ่อเงิน บ่อทองของหลวงปู่ก็จะไหลมารวมกันตรงนั้น

หลวงปู่เหมอก็ไม่ขอซักทีจะวันที่ 7 วันสุดท้าย หลวงปู่เหมอนึกได้ว่าท่านเคยบอกใว้ว่าแม้แต่
อุจจาระของท่านก็จะกลายเป็นทองคำ หลวงปู่เหมอจึงนิมนต์หลวงปู่ทองทิพย์ว่าขออุจจาระ
เพราะหลวงปู่ทองทิพย์ท่านไม่ถ่ายมานานแล้วประมาณ 4 เดือนไม่รูท่านอยู่ได้ยังไง จึงอยากขอดู

หลวงปู่ทองทิพย์ท่านจึงให้ไปเอาถังเหลือง สังขทานมาถ่ายให้ ปรากฎว่าถ่ายได้เกินครึ่ง ของถัง
สังขทาน แต่ไม่เหม็นเลย ย้ำไม่มีกลิ่นเหม็นเลย พอถ่ายเสร็จหลวงปู่เหมอจึงประคองท่านลงมาจากเรือมาทำความสะอาด หลวงปู่ทองทิพย์จึงเหยียบดิน ณ.ที่ตรงนั้น หลวงปู่เหมอจึงพูดยิ้มๆ
ว่า พ่อหลงกลผมแล้ว พ่อเหยียบดินของผม หลวงปู่ทองทิพย์ก็หัวเราะ..

วันที่ 8 ท่านกลับวัดที่ หนองคายจึงมรณะภาพไปด้วยความสงบ
ที่วัดหลวงปู่ทองทิพย์มีอะไรแปลกๆเยอะ เช่นสมัยก่อนมีพระรูปหนึ่งมาที่วัดชื่อหลวงพ่อไท ท่านเป็นพระรูปร่างผอมๆหลวงพ่อไทนี้ท่านเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระวาจาสิทธิ์ บอกหวยแม่น ท่านสร้างวัดมามากมายเช่นกัน วัดป่าลาดทอง ที่หลวงพ่อทองแดงอยู่ปัจจุบันนี้ หลวงพ่อไทท่านก็สร้างวัดนี้มาก่อนแล้วก็ยกให้หลวงพ่อทองแดงดูแลต่อ หลวงพ่อไท ท่านสร้างวัดโดยการบอกหวยญาตฺโยมอย่างเดียว ปัจจุบันนี้คนในคณะของเราหลายคนก็พลอยได้อานิสงส์จากความศักดิ์สิทธิ์ของท่านด้วย เวลาที่หลวงพ่อไท ท่านฉันอาหารนั้น ท่านให้เอาอาหารมาวาง แล้วท่านก็นั่งมองๆดู ไม่เห็นท่านตักอะไรสักช้อนนึง สักพักท่านก็บอกว่าให้ยกกลับได้ท่านอื่มแล้ว ก็อัศจรรย์ไปอีกแบบนึง มาในระยะหลังหลวงปู่ทองทิพย์ท่านบอกว่าหลวงพ่อไทตายแล้ว ต่อมาต้นปีนี้หลวงพ่อไท ท่านก็มาที่วัดป่าสีดาฯ แต่มาในร่างใหม่ ชื่อใหม่ แล้วเมื่อไม่นานมานี้ท่านก็บอกเราว่า ท่านคือหลวงพ่อไท ก็เลยถึงบางอ้อว่า โลกอุดร เขาเป็นกันอย่างนี้เอง เดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นร่างโน้น ร่างนี้ ชื่อนั้น ชื่อนี้ แต่ภายในก็คือพระสงฆ์องค์เดิมแหละ เอาไว้โอกาสดีๆจะถามท่านเรื่องการเปลี่ยนร่าง ว่าท่านปฏิบัติหรืออธิษฐานอย่างไร จึงทำจากแก่เป็นหนุ่ม จากหนุ่มเป็นแก่ได้

เรื่องหลวงปู่ไท นี้เล่าสู่กันฟังอย่างเดียวนะครับ ห้ามถามว่าท่านอยู่ที่ไหน หากใครปฏิบัติมาในสายโลกอุดร เมื่อถึงเวลาท่านก็คงจะโปรดเองแหละครับ ท่านอุตส่าห์ลงทุนเปลี่ยนร่างเปลี่ยนชื่อ เราจะไปเปิดเผยเรื่องท่านก็ไม่สมควร เดี๋ยวท่านเปลี่ยนร่างเปลี่ยนชื่อใหม่อีกรอบ ทีนี้ก็จะหาตัวท่านไม่เจอ เราก็อดทำบุญกุศลกับเนื้อนาบุญดีๆ
สำหรับหลวงปู่ทองทิพย์นั้นครูบาอาจารย์หลายท่านต่างก็รับรองเป็นเสียงเดียวกันว่า ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความสำคัญที่สุดรูปหนึ่ง แม้แต่พระครูโลกอุดรผู้เป็นครูธรรมที่ลี้ลับ ก็แวะเวียนมาคารวะหลวงปู่ทองทิพย์อยู่เสมอ

และบรรดาพระสงฆ์ที่เราแวะเวียนไปมาหาสู่ อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อราม หลวงพ่อทองแดง หลวงปู่ทองฤทธิ์(หลวงปู่เณรคำกลาง) ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์พระครูโลกอุดรและเป็นศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ทั้งนั้น

ก็ให้รอดูวันที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านกลับมาใหม่ก็แล้วกัน แล้วจะเข้าใจว่าพระสงฆ์ผู้ที่มีคุณสมบัติสวมแหวนทั้งสิบนิ้วนั้น แท้จริงแล้วท่านเป็นใคร มีความเกี่ยวพันธ์กับพระจักรพรรดิ์ อย่างไร บันทึกที่พุทธคยาเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพระศรีฯ หลังปี 2,500 นั้นใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นสำนักดังทุกที่ในเมืองไทยจะดับลงทันที
หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเล่าเรื่องของรามเกียรติ์ เหมือนยังกับท่านเป็นตัวละครในรามเกียรติ์เอง คนก็เลยคาดว่าท่านต้องเป็นหนึ่งในตัวละครรามเกียรติ์นั่นน่ะ แล้วท่านสร้างวัดท่านก็ยังใช้วัดป่าสีดารามลักษณ์รัตนโคตร เพิ่งมรณภาพไปได้เดือนกว่านี่เอง ใครถวายแหวนท่านใส่หมดล่ะ สิบนิ้วนี้ล้นมือเลย นิ้วละหลาย ๆ วง ใส่ประเภทที่เรียกว่าลักษณะสงเคราะห์โยมเขา ให้มันได้บุญ เสียดายว่าท่านรีบมรณภาพเสียก่อน ไม่งั้นจะต้องมีตัวอยากดังมันไปหาเรื่องจนได้ แล้วก็คอยกรุณาสงสารมันจะลงอเวจีหรือเปล่า
ราคาเปิดประมูล330 บาท
ราคาปัจจุบัน350 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูลศ. - 30 ส.ค. 2556 - 10:59.42
วันปิดประมูล ส. - 14 ก.ย. 2556 - 20:10.17 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 350 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ20 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
messi (1395) (-2) 49.48.59.80
350 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) ศ. - 13 ก.ย. 2556 - 20:10.17
กำลังโหลด...
Top