ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคอีสานใต้

ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์

ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
รายละเอียดวัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ (มรณะภาพแล้วในปี 2547) ท่านคือยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรที่มีสายพระเวทย์สุดเข้มขลังเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีพลังจิตญานขั้นสูง ท่านเป็นพระสายวิปัสนากรรมฐาน ถือธุดงค์เป็นวัตร เป็นหนึ่งในศิษย์สายเขากุเลนซึ่งเป็นสถานที่ ในการเจริญวิปัสสนากรรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคมขั้นสูง ที่เป็นฉบับแท้ดั้งเดิมของเขมรโบราณ อาจารย์องค์แรกของท่านคือ “หลวงปู่เอื้อย และหลวงปู่ดี สุวรรณดี” สองปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกลับ ทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์-ปาฏิหาริย์มากมายเป็นที่เลื่องลือกันมากในประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะหลวงปู่เอื้อยท่านมีเมตตาถ่ายทอดวิชาและเคล็ดลับต่าง ๆ ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น ซึ่งหลวงปู่เอื้อย ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเขมร ในเวลาต่อมาเมื่อหลวงปู่เอื้อยมรณภาพลง หลวงปู่ชื่นจึงออกเดินธุดงค์บุกป่าฝ่าดงดิบในดินแดนเขมรเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์อีกมากมาย ต่อมาท่านได้พบกับหลวงปู่ดี สุวรรณดี บน “เขากุเลน” ซึ่งท่านเป็นพระผู้มากด้วยอภิญญาญาณชั้นสูง และเป็นผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำมหัศจรรย์เหนือโลกโดยแท้ ด้วยบุญญาบารมีของ หลวงปู่ชื่น จึงทำให้หลวงปู่ดีรับท่านเป็นศิษย์ จากนั้นก็พากันออกเดินธุดงค์ไปด้วยกันตามสถานที่ต่าง ๆ หลวงปู่ชื่นได้ศึกษากรรมฐานและเวทวิทยาคมกับธาตุทั้ง 4 ตลอดจนเกร็ดเคล็ดลับการสร้าง-การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางต่าง ๆ มากมาย หลวงปู่ชื่นได้เมตตาเล่าให้ฟังว่าหลวงปู่ดี ท่านนี้เก่งมากมีความเชี่ยวชาญพระเวทแทบทุกชนิด สามารถเสกผ้าให้เป็นนกกระยางได้ และเสกใบไม้ให้เป็นต่อเป็นแตนได้ ที่สำคัญท่านสามารถล่องหนหายตัวและย่นระยะทางได้ ตลอดจนเดินบนผิวน้ำได้ ซึ่งหลวงปู่ดีท่านเคยแสดงให้ดูมาแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติธรรมสืบต่อกันไปนั่นเอง

หลังจากหลวงปู่ชื่น ธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งท่านเดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนาราก อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ท่านอยู่ได้ 5 พรรษาจึงได้เดินธุดงค์ต่อเรื่อยไปจวบจนอายุท่านมากขึ้นกำลังวังชาถดถอย ท่านจึงอยู่กับที่ระยะหนึ่ง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2524 จึงได้รับการชักชวนจากหลวงปู่นิล ให้มาอยู่ที่วัดตาอี ประกอบกับท่านมีอายุมากแล้วและชาวบ้านตาอีก็ได้นิมนต์ท่านไว้ไม่ให้เดินธุดงค์อีก นับตั้งแต่นั้นมาจึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดตาอีเรื่อยมา หลังจากหลวงปู่ชื่นมาอยู่วัดตาอีแล้วท่านได้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในกุฏิหลังเล็ก ๆ ช่วงนั้นท่านได้เร่งทำความเพียรปฏิบัติธรรมจนพลังจิตแก่กล้า ด้วยท่านเป็นพระที่รักสันโดษชอบเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่แต่ภายในกุฏิ ชาวบ้านจึงคิดว่าท่านเป็นหลวงตาแก่ ๆ ไม่มีอะไร เป็นพระธรรมดาไม่มีวิชาอาคมอันใด ต่อมาทางวัดได้ขุดสระใหม่ ทางเจ้าอาวาสจึงประกาศบอกชาวบ้านว่า ห้ามลงอาบน้ำในสระ เพราะสระน้ำแห่งนี้พระเณรต้องใช้ดื่มกิน แต่ชาวบ้านขาดความเกรงใจท่าน ตกเย็นทั้งหนุ่มสาวพากันลงว่ายน้ำเล่นในสระอย่างสนุกสนาน บ้างก็นำผ้ามาซักทำให้ฟองแฟ๊บที่ซักลอยเต็มคุ้งสระ บอกแล้วก็เฉย เตือนแล้วก็ไม่หยุด หลวงปู่ชื่นจึงใช้ไม้ตายเพื่อให้รู้จักที่ต่ำที่สูง และที่ควรมิควรกันบ้าง ท่านจึงนำก้อนหินมาสองก้อน แล้วเสกด้วยคาถาอาคมจากนั้นท่านโยนลงไปในสระน้ำ สามวันต่อมาพวกที่ชอบลงเล่นน้ำในสระภายในวัดต่างก็ตกใจแตกตื่นขึ้นตลิ่งกันแทบไม่ทัน เพราะเห็นพญางูยักษ์สองตัวว่ายน้ำไปมาในสระให้เห็นกับตากันจะจะ ซึ่งชาวบ้านตาอีเห็นกันทั้งหมู่บ้าน เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือกันมากในอำเภอบ้านกรวด ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปที่วัดตาอีลองสอบถามชาวบ้านดูก็ได้ และจากวันนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเล่นน้ำในสระที่วัดตาอีกันอีกเลย

จนกระทั่งกลางปี พ.ศ. 2542 หลวงปู่ชื่นได้บอกว่า ถึงเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดตัวแล้ว เพื่อนำความรู้เวทย์วิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมาสงเคราะห์พุทธศาสนิกชน และจัดสร้างถาวรวัตถุเพื่อการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป หลวงปู่ชื่นได้สร้างวัตถุมงคลออกมา 2-3 รุ่น ผลปรากฏว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ นานามากมาย จากปากต่อปากทำให้วัตถุมงคลที่ท่านบรรจุพลังจิตเวทวิทยาคมที่มีพลังมหัศจรรย์ ความวิเศษขลัง ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์จัญไร ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นเป็นลำดับ จากปากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไปบูชาส่วนใหญ่ยอมรับว่าวัตถุมงคลของท่านดีเยี่ยมจริง ๆ ใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด ส่วนสาเหตุที่ท่านยอมเปิดตัวและจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นทางการเนื่องจาก ท่านกำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งขาดปัจจัยอยู่อีกมาก

หลวงปู่ชื่นได้มองเห็นกาลไกลไปข้างหน้าว่าเวทวิทยาคมที่กำลังศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทั้งยังได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนต่าง ๆ ในอนาคตภายหน้าได้ จึงทำให้ท่านมุมานะพยายามศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจนสุดความสามารถ ตลอดจนศึกษาการนั่งสมาธิและเจริญวิปัสสนากรรมฐานควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มพูนพลังจิตให้แก่กล้าขึ้น วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิษฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตา-มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย และท่านยังเคยฝากตัวเป็นศิษย์เล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกด้วย ซึ่งข้อมูลนี้น้อยคนที่จะรู้จัก

ถึงแม้หลวงปู่ท่านจะมรณะภาพไปแล้วแต่ก็ยังมีผู้คนเสาะแสวงหาวัตถุมงคลของท่านอยู่ไม่ขาด ซึ่งผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งป้องกันอันตราย อุบัติเหตุ และเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายดีเยี่ยม เสริมดวงชะตาราศี เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะขุนแผนรุ่นต่าง ๆ ซึ่งรุ่นแรกจะเป็นขุนแผนมะรุมมะตุ้มที่สร้างขึ้นมาในปี 2543 แต่มีจำนวนน้อยมาก ต่อมาจึงได้สร้างรุ่น 2 ขึ้นมา อีกทั้งขุนแผนสะกดทัพ ขุนแผนชมตลาด และกุมารดูดรกก็มีชื่อ รวมไปถึงตุ๊กตามหาเสน่ห์ และตะกรุดต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่ปลุกเสกอย่างเข้มขลังตามตำรับเขมรโบราณ

มาถึงวันนี้ความนิยมในวัตถุมงคลของท่านได้ขยายตัวอย่างมาก ประสบการณ์มากมายจากผู้ที่บูชาด้วยความศรัทธาแล้วเห็นผลได้ชัด เพราะท่านตั้งใจสงเคราะห์ลูกศิษย์จริงๆ ด้วยวิชาอาคมเข้มขลังที่เฉียบขาดโดยเฉพาะด้านเมตตามหาเสน่ห์ ที่ในปัจจุบันขอใช้คำว่าแนวแบบหลวงปู่ชื่นก็แล้วกัน คุณลองไปสัมผัสดูเถิดจะพบว่ามีไม่มาก ท่านเมตตาจริงๆ ครั้งหนึ่ง มีชาวบ้าน ต้องการ ไก่ป่าที่อาศัยอยู่ในวัดนำไปเลี้ยง เพื่อนำไปผสมพันธ์ อนุรักษ์สัตว์ป่าไว้ จึงได้เตรียมอุปกรณ์จับไก่ป่าติดมือไปด้วย เมื่อเดินทางมาถึงวัดตาอี ได้เข้าไปขออนุญาต หลวงปู่ชื่น พร้อมกับชี้แจงว่าจะนำไปอนุรักษ์ เพาะพันธ์ไว้ เมื่อหลวงปู่ชื่น ท่านทราบเหตุผล ท่านถามมาว่า “แล้วจะจับอย่างไร?” ชาวบ้าน บอกว่า “เอาแหมากาง แล้วช่วยกันวิ่งต้อนไก่เข้าแห” หลวงปู่ชื่น ท่านหัวเราะใหญ่ ท่านนึกขำถึงวิธีจับไก่ป่า สักครู่ ท่านจึงเดินลงมาจากกุฏิ พร้อมกับพูด ว่า “เอ็งจะเอาตัวไหน?” ชาวบ้าน มองดูไก่ป่า พิจารณาอยู่พักหนึ่ง จึงชี้นิ้วไปยังไก่ป่าตัวหนึ่ง หลวงปู่ชื่น ถามกำชับเพื่อความแน่ใจเป็นครั้งสุดท้าย “เอาตัวนี้แน่นะ” ครับ...หลวงปู่ ชาวบ้าน ตอบ หลวงปู่ชื่น ท่านยืนสงบนิ่ง เพ่งสายตาไปทีไก่ป่า ซักครู่ไก่ป่าตัวนั้นได้เดินมาหา หลวงปู่ชื่น ท่านก็ก้มตัวลงจับไก่ป่าตัวนั้นส่งให้ ท่านได้กล่าวกำชับว่า “อย่าฆ่ามันนะ” หลังจากส่งไก่ให้แล้ว สักพักก็มีตะกวดเดิน เข้ามาหา หลวงปู่ชื่น มาเคลียคลอที่เท้าท่าน อาการเดียวกับไก่ป่าไม่มีผิด ชาวบ้าน ยังแซวหลวงปู่ชื่น ว่าตัวนี้ผมไม่ได้เอานะครับ สงสัยมัน คงโดนลูกหลง หลวงปู่ชื่น ท่านหัวเราะชอบใจใหญ่
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน2,500 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลศ. - 02 ส.ค. 2556 - 19:21.11
วันปิดประมูล อา. - 18 ส.ค. 2556 - 01:43.04 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 088 644 5641
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 2,500 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
300 บาท ศ. - 02 ส.ค. 2556 - 19:55.44
1,500 บาท ศ. - 02 ส.ค. 2556 - 22:11.19
1,550 บาท จ. - 05 ส.ค. 2556 - 15:10.41
1,600 บาท อ. - 06 ส.ค. 2556 - 16:38.15
2,000 บาท พ. - 07 ส.ค. 2556 - 21:59.17
2,200 บาท พ. - 07 ส.ค. 2556 - 21:59.48
2,250 บาท พ. - 14 ส.ค. 2556 - 19:54.34
2,500 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) ส. - 17 ส.ค. 2556 - 01:43.04
กำลังโหลด...
Top