พระร่วงยืนหลังรางปืน ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เมื่อปี12 เลี่ยมพร้อมถัก - webpra

ประมูล หมวด:พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ก่อนปี 2520

พระร่วงยืนหลังรางปืน ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เมื่อปี12 เลี่ยมพร้อมถัก

พระร่วงยืนหลังรางปืน ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เมื่อปี12 เลี่ยมพร้อมถัก พระร่วงยืนหลังรางปืน ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เมื่อปี12 เลี่ยมพร้อมถัก พระร่วงยืนหลังรางปืน ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เมื่อปี12 เลี่ยมพร้อมถัก
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระร่วงยืนหลังรางปืน ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เมื่อปี12 เลี่ยมพร้อมถัก
รายละเอียดการสร้างพร้อมพระกริ่งพระชัยวัฒน์นเรศวรเมืองงาย และเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นับเป็นการสร้างพระเครื่องครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ การประกอบพุทธาภิเษกครั้งนั้น พันตำรวจเอกนิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนั้น ประธานคณะกรรมการจัดสร้างฯ ได้กราบบังคมทูล ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบันเสร็จทรงเป็นประธานในพิธีเททองครั้งนี้ด้วย พร้อมกันนี้ได้มีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น ร่วมพิธีนั่งปรกปลุกเสกอีกด้วย ชาติไทยได้ดำรงความเป็นเอกราชเป็นไทยมาได้จากอดีตถึงปัจจุบัน ก็ด้วยเหล่าบรรดาวีรชนผู้กล้าหาญ ที่ได้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อเป็นชาติพลี ประเทศของเราจึงมีความเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในหัวใจของปวงชนชาวไทยมาตลอดกาล พร้อมผู้ร่วมพระหฤทัยอาทิ สมเด็จพระเอกาทศรถ เหล่าบรรดาแม่ทัพนายกอง และนักรบผู้กล้าหาญของชาวไทยในสมัยนั้น ล้วนแล้วแต่ได้ประกอบวีรกรรมอันสูงส่งทั้งสิ้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ได้ทรงเสี่ยงพระองค์ ด้วยความกล้าหาญอุตสาหะอดทน ไม่ย่อท้อ ไม่มีเวลาแม้แต่จะทรงมีความสำราญ จะเห็นได้ว่าตลอดพระชนอายุไม่เคยอภิเษกสมรส เพราะไม่มีเวลาที่จะมาคิดคำนึงถึงเรื่องอันเป็นส่วนพระองค์เลย ประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ได้น้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงมีพระเมตตาต่อชาติไทย จึงเห็นควรได้ร่วมกันจัดสร้างสิ่งอันเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ท่านขึ้น และได้เห็นพ้องต้องกันว่า บริเวณบ้านเมืองงาย ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว เป็นสถานที่ที่พระองค์ได้เข้าโจมตีขับไล่อริราชศัตรู โดยมีหลักฐานปรากฎชัดเจน ไม้รั้วค่ายซึ่งยังมีอยู่มากในบริเวณนั้น ประกอบด้วยพระสถูปเจดีย์ ซึ่งอยู่ภายนอกอาณาเขตไทยได้ชำรุดทรุดโทรมและถูกทำลายไป จึงควรสร้างขึ้นในสถานที่แห่งนี้แทนพระเจดีย์องค์ที่ได้สูญเสียไป ปี 2512 คณะกรรมการก่อสร้างพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ ได้จัดสร้างพระบูชา พระเครื่องขึ้น เพื่อหาทุนในการก่อสร้างดังกล่าว
ในบรรดาพระเครื่องรางของขลังที่สร้างขึ้นในยุคหลัง ปี2500 ปรากฏว่า การสร้างพระกริ่งนเรศวรเมืองงาย พระชัยวัฒน์นเรศวร พระร่วงรางปืน และเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๒ มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในภาคเหนือ ของที่สร้างขึ้นทุกอย่างอยู่ในความนิยมของประชาชนอย่างล้นหลาม ปรากฎว่าพระกริ่งนเรศวรเมืองงายจำนวน ๒,๕๑๒ องค์ ที่สร้างขึ้นถูกสั่งจองเกือบหมด คณะกรรมการต้องระงับการให้เช่าไว้จำนวนหนึ่ง ส่วนพระชัยวัฒน์นเรศวรซึ่งสร้างขึ้น จำนวน ๒,๕๑๒ องค์เท่ากันถูกเช่าหมดในเวลาไม่ถึง ๕ วัน ส่วนพระร่วงรางปืน และเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งสร้างขึ้นจำนวนอย่างละ ๑๐๐,๐๐๐ องค์ ปรากฎว่ามีประชาชนเฮโลกันเข้าเช่า วันละไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ คนภายในระยะเวลา ๑๕ วัน คณะกรรมการต้องลดการให้เช่า มิเช่นนั้นของจะหมดไป จะต้องกันจำนวนหนึ่งมอบให้ทหาร ตำรวจ ที่ช่วยปฏิบัติราชการชายแดน และนำบรรจุไว้ในสถูป เจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วยจากผลการให้เช่าในระยะ ๑๕ วัน ปรากฎว่าได้ยอดเงินกว่า ๑ ล้านบาท รวมกับที่รับจองไว้ล่วงหน้าเป็นเงินทั้งสิ้นรวม ๓ ล้านบาทเศษ นับว่าได้ผลเกินคาดหมาย
เหตุใดของที่สร้างขึ้นจึงอยู่ในความนิยมอย่างสูงของประชาชน และหมดลงในอย่างรวดเร็ว มีมูลมาจากเหตุหลายประการ

- ประการแรก พิธีสร้างได้สร้างขึ้นอย่างถูกวิธีประกอบทั้งเจ้าพิธีคือ พระอาจารย์ไสว สุมะโน แห่งวัดราชนัดดารามวรวิหารเป็นผู้มีชื่อเสียงทางการสร้างพระมาก่อน ได้ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดมาแต่ต้น
- ประการที่ ๒ พระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสก ต่างก็มีชื่อเสียงมาก่อนทั้งด้านเมตตามหานิยม อาคมคงกะพันชาตรี
- ประการที่ ๓ รางปาฎิหารย์ระหว่างพิธีบวงสรวงสังเวยพระวิญญาณฯ ที่จังหวัดพิษณุโลก
- ประการที่ ๔ ปรากฎว่ามีผู้นำพระร่วงรางปืนไปทดลองในด้านคงกะพันชาตรี ยิงไม่ออก ยิงออกแต่ก็ไม่ถูก
- ประการสุดท้าย ที่สำคัญที่สุดก็คือ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ มาทรงเททองในวันประกอบพิธีพุทธาภิเษก

มีผู้คนต่างแตกตื่นแห่กันมาขอเช่า จนโต๊ะ เก้าอี้จำหน่ายพังไปหลายตัว ตอนหลังเจ้าหน้าที่ ต้องแก้ด้วยวิธีปิดห้องประชุมให้ผู้เช่าเข้าคิวเช่าตามช่องรั้วลูกกรงเหล็กถึง ๕ โต๊ะ(๕ ช่อง) ถึงกระนั้นก็ต้องยืนรอคิวกันทั้งวัน
นั่นก็เพราะมีพระคณาจารย์มาร่วมปลุกเสกนับร้อยที่มีชื่อเสียงยุคนั้นมากมาย และด้วยพลังบารมีอันศักดิ์สิทธิ์และแกร่งกล้าของเหล่าบรรดาพระเกจิอาจารย์ทั้งหลาย ส่งผลให้น้ำมนต์ในบาตรเดือดและหลอดไฟฟ้าในวิหารวัดพระสิงห์ส่องแสงริบหรี่ ๆ ตลอดระยะเวลาการปลุกเสก เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนที่มาร่วมงานในครั้งนั้น ทำให้คนในท้องที่บางคนเรียกว่า "รุ่นน้ำมนต์เดือด"ก็มีครับ และเมื่อพิธีปลุกเสกแล้วเสร็จ พอทางวัดให้ประชาชนมาบูชาก็เกิดปรากฎการณ์ฝูงชนมายื้อแย่งเข้ามาบูชากันอย่างล้นหลาม จนชนิดที่ว่าเก้าอี้และโต๊ะพังไปหลายตัวเลยก็ว่าได้ครับ

สำหรับพุทธคุณที่กล่าวขานกันส่วนใหญ่จะเน้นทางด้านมหาอำนาจ คงกระพัน มหาอุดหยุดลูกปืน ป้องกันภูตผีและแก้คุณไสยมนต์ดำได้ทั้งปวงครับ
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน700 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลจ. - 22 ก.ค. 2556 - 16:09.36
วันปิดประมูล อา. - 28 ก.ค. 2556 - 11:49.54 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 700 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
150 บาท จ. - 22 ก.ค. 2556 - 21:51.24
500 บาท จ. - 22 ก.ค. 2556 - 22:59.35
550 บาท อ. - 23 ก.ค. 2556 - 04:38.08
700 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) ส. - 27 ก.ค. 2556 - 11:49.54
กำลังโหลด...
Top