สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว - webpra

ประมูล หมวด:หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว

สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว
รายละเอียด**** รับประกันแท้ตลอดไป********
รับกับมือ พระอาจารย์บุญรัตน์ ครับ



สมเด็จ องค์ปฐม รุ่น 1 วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง พุทธาภิเษกพร้อมพิธีบวง

สรวง ที่วัดโขงขาว ๓ ปี ตั้งแต่ ๒๕๓๒ - ๒๕๓๔ ตอนทอดกฐินที่วัด
เดิมที ทางหลวงพ่อบุญรัตน์สร้างพระขึ้นมาโดยคิดว่าให้เป็นรูปพระ

พุทธชินราช ไม่ได้คิดว่าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐม พอกราบเรียนให้หลวง

พ่อพระราชพรหมยานท่านอธิษฐานจิต ท่านก็ถามว่า อะไรอยู่ในกล่อง

ลองเอามาให้ดูหน่อยสิ เมื่อหลวงพ่อบุญรัตน์มาหยิบไปให้ท่านดู ท่านก็

ปรารภว่า นี่ไม่ใช่พระพุทธชินราชนะ นี่คือสมเด็จองค์ปฐม
จากนั้นท่านก็อธิษฐานจิตให้ และก็ อธิษฐานให้อีก 2 วาระ ในปี 2533

2534 คราวนำกฐินมาทอดที่วัดโขงขาว เท่ากับว่ารุ่นนี้เป็นสมเด็จองค์

ปฐมรุ่นแรก พุทธาภิเษก 3 ครั้ง คือ ปี 2532 ,2533 ,2534
และสร้างก่อนรุ่น 1 วัดท่าซุง ด้วย
--- ปัจจุบัน องค์ปฐม ที่วัดโขงขาว หมดไปนานหลายปีแล้ว

---------------------------------------------
----------------------******-----------********--------
พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) และ พระครูปิยรัตนาภรณ์(พระอาจารย์บุญรัตน์)

ท่านพระครูปิยรัตนาภรณ์ (พระบุญรัตน์ กันตจาโร) ที่ได้เล่าถึงอุปการคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่มีต่อวัดโขงขาวไว้ดังนี้

วัดโขงขาว ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดมาตั้งแต่โบราณกาล ไม่อาจนับได้ว่ากี่ปี แต่ก็มีคำเล่ากล่าวสืบๆ กันมาว่า สร้างก่อน พระนางเจ้าจามเทวี สวรรคต เพราะว่าเจ้าแม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากจึงสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ดังจะเห็นได้ว่าวัดในลำพูน-เชียงใหม่ จะมีวัดติดวัด วัดโขงขาวเป็นวัดเล็กๆ ซึ่งมีหมู่บ้านที่อุปถัมภ์ไม่กี่หลังคาเรือน มีทุ่งนาล้อมรอบในสมัยก่อนเป็นวัดที่ห่างไกลความเจริญ ถนนหนทางก็ไม่ดีมีแต่เส้นทางเดินเล็กๆ พอสัญจรไปมาเท่านั้น ถาวรวัตถุภายในวัดก็มีแต่พระวิหารหลังเล็กๆ เก่ามาก จำนวน ๑ หลัง ด้านหลังพระประธานจะมี "โขง" ถ้าแปลตามภาษาภาคกลางว่า "ซุ้ม" โขง หรือ ซุ้ม นี้คนโบราณคงจะเอาสีขาวมาทาก็เลยตั้งนามวัดว่า "วัดโขงขาว" ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน และก็มีพระเจดีย์ติดต่อกับซุ้มออกไป นี่เป็นของโบราณมาตั้งแต่สร้างวัด และก็มีศาลารอบพระวิหารอยู่ ๒ ข้างเท่านั้น นอกจากนั้นก็มีกุฏิที่พักสงฆ์เป็นเรือนไม้จำนวน ๑ หลังเก่าแก่มาก นอกจากที่กล่าวมานี้ไม่มีอะไร เพราะชาวบ้านที่อุปถัมภ์วัดแถวนี้ยากจนหาเช้ากินค่ำไปวันๆ เท่านั้น
วัดโขงขาวนี้มีเจ้าอาวาสปกครองมาโดยตลอดมิได้ขาด สภาพความเป็นอยู่ของวัดลำบากมาก ถาวรวัตถุก็ทรุดโทรมไปตามสภาพของกาลเวลา ผู้คนที่สัญจรไปมาผ่านวัดมักจะพูดเป็นทำนองเดียวกันว่า อีกไม่ช้าเท่าไหร่ วัดโขงขาวคงจะกลายเป็นวัดร้างไปแน่นอน คณะสงฆ์ส่วนใหญ่ และชาวบ้านถิ่นนั้นมีความวิตกกังวลในเรื่องนี้มาก เพราะหมดหนทางที่จะช่วยเหลือได้
พอดีประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๗ เดือนสิงหาคม ฤดูฝนกลางพรรษา ฝนตกมาก ในขณะนั้น อาตมาภาพได้รับนิมนต์ไปงานศพแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ทั้งวัน พอเผาศพเสร็จแล้วเจ้าภาพก็นำมาส่งที่วัด พอรถเลี้ยวเข้ามาตามถนนกลางทุ่งนา ก็มีรถสวนทางมาพอดี คนในรถก็ลงมาจากรถมาถามว่า เจ้าอาวาสวัดโขงขาว อยู่ในรถใช่ไหมครับ คนขับรถก็บอกเขาไปว่าอยู่ในรถ เขาขึ้นรถแล้วกลับรถเข้ามาพร้อมกันที่วัด มาถึงวัดแล้วเขาก็กราบเรียนว่า ผมมาจากกรุงเทพฯ เป็นลูกศิษย์ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร วัดท่าซุง อุทัยธานี คณะนี้มาประมาณ ๕ คน ถ้าจำไม่ผิด อาตมาก็เลยถามว่า โยมมีธุระอะไร เขาก็กราบเรียนว่า มานมัสการท่าน และมาดูวัด เขาก็เล่าต่อไปว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกให้มา เพราะว่าเป็นวัดเก่าและวัดนี้มีความผูกพันกับหลวงพ่อมาตั้งแต่สมัยก่อนโน้น อาตมาก็ลืมมิได้ถามชื่อญาติโยมคณะนั้นไว้ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาก็มีคณะศิษยานุศิษย์ลูกหลานพระเดชพระคุณมาทำบุญเรื่อยๆ จนมาถึง พ.ศ. ๒๕๑๘ ก็มีคณะ คุณอำนาจ มณีน่วม บางรัก กรุงเทพฯ ร้านเตียง้วนเฮียง คุณแม่นิภา ผลิตผลการดี คุณสกล อาชวพร นำพาลูกหลานญาติมิตรสหาย คณะศิษย์พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ มาวัดโขงขาวในรูปถวายสังฆทาน - ทอดผ้าป่า - ทอดกฐิน ทางวัดก็เลยรื้อกุฏิไม้หลังเก่าออกสร้างกุฏิหลังใหม่ขึ้นแทนตามคำสั่งของพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ท่านก็ฝากเงินมาถวายทำการก่อสร้างวัดอยู่ตลอด ของใช้ภายในวัดพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็ให้คณะศิษย์นำมาถวายโดยมิได้ขาด เพราะว่าที่วัดไม่มีของใช้เท่าที่ควร เมื่อสร้างกุฏิเสร็จแล้ว พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็สั่งให้สร้างหอฉัน - โรงครัว เมื่อสร้างเสร็จ พ.ศ.๒๕๒๔ พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็สั่งให้สร้างศาลา เสร็จแล้วก็สร้างกุฏิถวายพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ๑ หลัง สร้างเรียบร้อยแล้ว ประมาณเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๒๕ ก็ได้กราบอาราธนานิมนต์พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ มาที่วัด วันนั้นอากาศหนาวมาก ญาติโยมชาวอำเภอหางดง และอำเภอเมืองเชียงใหม่มาคอยกราบนมัสการท่านพ่อเป็นจำนวนมาก พอพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ เดินทางมาถึง แล้วก็กราบอาราธนาขึ้นศาลา สถานที่ถวายการรับรอง เมื่อพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ กราบพระประธานแล้ว พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็เล่าว่าเมื่อกี้นี้ หลวงปู่ชุ่ม ซึ่งเป็นพี่ชายของฉันมาบอกว่า ขอให้บูรณะวิหารวัดนี้ให้เป็นพระอุโบสถด้วยนะ และช่วยสร้างวัดนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยนะ และหลวงพ่อท่านก็เล่าต่อไปว่า วัดนี้เป็นวัดที่ท่านแม่เคยมาสร้างไว้มีความผูกพันกันมา วัดนี้สำคัญมาก พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ เรียกอาตมาภาพเข้าไป ท่านบอกว่า

"บุญรัตน์ ลูกเอ้ย เคยเกิดเป็นลูกพ่อมาได้หลายชาติหลายปางแล้วนะลูกนะ ขอให้ลูกช่วยเป็นกำลังของพระศาสนาด้วย อย่าได้เข้าป่าตามที่ลูกคิดไว้นะพ่อจะเอากฐินมาทอดตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทุกปีนะ"

ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นต้นมา พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็ได้นำคณะศิษย์ลูกหลานมาทอดกฐินทุกปีตามที่พระเดชพระคุณท่านปรารภไว้ ทางวัดก็ได้สร้างถาวรวัตถุตามที่ท่านพ่อได้สั่งให้ทำ เช่น กุฏิพักสงฆ์หลายหลัง - ที่พักญาติโยม - ห้องกรรมฐาน - แทงค์น้ำ ซื้อที่ดินถวายวัดให้กว้างขวางขึ้น เพราะว่าที่ดินเก่าของวัดมีไม่กี่ไร่ พอมาถึง พ.ศ.๒๕๓๒ ท่านพ่อนำคณะลูกศิษย์ลูกหลานมาทอดกฐิน พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ สั่งว่า ให้สร้างศาลาอีก ๑ หลัง ให้กว้างหน่อยทำเป็น ๒ ชั้น บรรจุคนได้มากหน่อย อาตมาภาพก็กราบเรียนท่านว่า เกล้าฯ ไม่ทราบว่าจะหาเงินที่ไหนมาสร้างขอรับ พระเดชพระคุณท่านก็บอกว่า "ไม่เป็นไรเรื่องเงินพ่อจะหามาให้ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพ่อไม่ช่วยลูกแล้วพ่อจะช่วยใคร" พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ให้กำลังใจดีมาก หลังจากทอดกฐินแล้ว ก็เริ่มสร้างศาลาโดยใช้เวลาก่อสร้าง ๒ ปีเศษ สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมด ๑๕ ล้านบาทเศษ ทางวัดก็กราบเรียนถวายพระเดชพระคุณฯ ขออนุญาตตั้งนามศาลาอันเป็นมงคลว่า "ศาลาพระราชพรหมยานไพศาลภาวนานุสิฐ" เพื่อถวายเป็นอนุสรณ์แด่พระเดชพระคุณท่านฯ

ปี พ.ศ.๒๕๓๔ ท่านพ่อก็ได้นำคณะศิษย์ลูกหลานมาทอดกฐินท่านก็สั่งการว่า "บุญรัตน์ ลูกเอ้ย ปีนี้ขอให้สร้างพระพุทธรูปปางลีลา-รูปเหมือนหลวงพ่อปาน-รูปเหมือนพ่อตั้งประดิษฐานที่หน้าศาลานี้เพื่อไว้ให้ลูกหลานสักการบูชาในขณะที่พ่อไม่อยู่ และให้สร้างรูปท่านแม่จามเทวี พร้อมรูปเจ้าแม่กวนอิมไว้ เผื่อลูกหลานพ่อมาจะได้ระลึกถึง เมื่อสร้างเสร็จแล้วปีต่อไปให้สร้างศาลารอบพระอุโบสถ บูรณะพระอุโบสถให้เสร็จนะ แล้วทำการผูกพัทธสีมา เพื่อให้ถูกต้องตามพระวินัยสืบต่อไปนะลูก ส่วนกำแพงรอบวัดนั้นให้ทำหลังจากฝังลูกนิมิตแล้วนะ" ตามที่กล่าวมานี้เป็นคำสั่งของพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ได้สั่งการเอาไว้ อาตมาภาพในฐานะที่เป็นลูก ก็ต้องเจริญรอยตามที่พระเดชพระคุณท่านฯ สั่งไว้ทุกประการ
ขอย้อนหลังไปปี พ.ศ.๒๕๓๓ พระเดชพระคุณท่านฯ มาทอดกฐินที่วัด เวลาตอนเช้าท่านพ่อได้พาลูกหลานเดินชมวัด พอมาถึงหน้าพระวิหาร ท่านพ่อได้เล่าว่า "ชาติก่อนหน้านี้เขาได้นำเอาศพพ่อมาฝังไว้ใต้พระสถูปเจดีย์แห่งนี้ พร้อมด้วยข้าวของของพระบุญรัตน์นี่แหละ เพราะเหตุนี้จึงได้นำกฐินมาทอดทุกปี วัดนี้มีความสำคัญกับหลวงพ่อมากนะ" ตามที่ได้กล่าวมานี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกมากมาย ไม่อาจนำมาพรรณนาเป็นภาษาอักษรได้หมดสิ้น จึงนับได้ว่าพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ได้มีพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ไพศาลต่อวัดโขงขาวเป็นอย่างมาก สมดังคำหลวงปู่ชุ่ม โพธิโก - หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร ได้เล่าไว้ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นพระทองแท้ มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มีบุญบารมีอันสูงส่งหาใครเปรียบมิได้ รู้ใจคนเก่ง มีสมาธิธรรมอันสูงส่ง มีเจโตอันแจ่มใสชัดเจนมาก

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ อาตมาได้ไปกราบท่านพ่อที่ซอยสายลมประมาณเดือนมกราคม พอก้มกราบเท้าท่าน ๓ ครั้ง เงยหน้าขึ้นมา พระเดชพระคุณท่านบอกว่า "บุญรัตน์ลูกเอ้ย ให้ลาพระพุทธภูมิเสียนะลูก เอานิพพานดีกว่าไม่ต้องมาเกิดอีกแล้วนะ" อาตมาจึงคิดได้ว่า พระเดชพระคุณท่านพ่อรู้ใจเราอย่างถูกต้องได้ดี ก็กราบเรียนท่านว่า "ขอรับครับผม" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา อาตมาก็ลาพระพุทธภูมิปรารถนาเอาพระนิพพานเป็นที่สุด ต่อมาประมาณเดือนมีนาคม ๒๕๒๗ เหมือนกัน ก็ไปกราบพระเดชพระคุณท่านที่วัดท่าซุง ท่านบอก "ดีแล้วลูก เอานิพพานเป็นที่มั่นหมายไม่ต้องมาเกิดอีกแล้วนะลูก นิพพานัง ปรมังสุขังนะ" อาตมาได้ยินท่านพูดแล้วก็ดีใจ ชื่นใจมาก และก็ได้ปฏิบัติเจริญรอยตามคำสั่งของท่านพ่อทุกประการ

ในการจากไปของพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ครั้งนี้ จากไปเพียงสรีระสังขารเท่านั้น ส่วนคุณงามความดียังอยู่ทุกประการ บุญกุศลใดที่บรรดาลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ได้ทำบุญอุทิศถวายพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ในครั้งนี้ ขอจงโปรดรับโมทนาอันเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไพศาล ขอให้ลูกหลานท่านพ่อจงได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด

**** รับประกันแท้ตลอดไป********
รับกับมือ พระอาจารย์บุญรัตน์ ครับ
ราคาเปิดประมูล640 บาท
ราคาปัจจุบัน650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลอา. - 23 มิ.ย. 2556 - 13:57.15
วันปิดประมูล ศ. - 28 มิ.ย. 2556 - 22:47.52 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 0838244611
แชร์หน้านี้
ข้อมูลเพิ่มเติม #1 อา. - 23 มิ.ย. 2556 - 14:00.25
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว
.
ข้อมูลเพิ่มเติม #2 อา. - 23 มิ.ย. 2556 - 14:00.52
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อธิษฐานจิต หลายวาระ เคาะเ้ดียว
การตรวจสอบวิเคราะห์พลังออร่า โดย อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังออร่าและพลังจิตของเมืองไทย
จากศูนย์พัฒนาพลังชีวิต ซึ่งพบว่า สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดโขงขาว จ เชียงใหม่ มีรัศมีเป็นสีทอง สีเหลือง แสด แดง
รัศมี รอบๆ องค์พระ 100 เมตร ซึ่ง อ.สถิตธรรมได้สรุปความหมายไว้ดังนี้

" ขับไล่คุณไสย เสริมดวงชะตา แก้อาถรรพ์วิชา เสริมบารมี มหาทรัพย์ โชคลาภ พุทธาคม เมตตา มหานิยม ดีนักแล "

สีออร่า ที่พบ
สีทอง 50 % มหาบุญฤทธิ์ มหาบารมี
สีแสด 30 % ขับไล่คุณไสย แก้อาถรรพ์วิชา เสริมพลังฤทธิ์
สีเหลือง 10 % เสริมปัญญา เสริมบารมี
สีแดง 10 % มหาอุตม์ มหาอุตม์ปืนแตก คุ้มกันคุณไสย

ข้อมูลเพิ่มเติม #3 อา. - 23 มิ.ย. 2556 - 14:01.11

รัศมีพลังออร่า จาก สมเด็จองค์ปฐม วัดโขงขาว นี้คือ 100 เมตร นับได้ว่าเป็นพลังงานออร่า ที่มีรัศมีกว้างมาก
พอๆกับพระสมเด็จวัดระฆัง แผ่ออกโดยรอบ ปกป้อง คุ้มครอง ผู้ที่มีสมเด็จองค์ปฐมติดตัวไว้


"ผู้ที่มีสมเด็จองค์ปฐมติดตัวไว้ ไม่ว่ามนุษย์ก็ดี,อมนุษตย์ก็ดี,สัตว์มีพิษร้ายก็ดี,
ภูตผีปีศาจร้ายก็ดี ถ้าคิดจะทำร้ายเราจะรุ่มร้อนจนทนไม่ได้ต้องล่าถอยไปในที่สุด
เพราะฉะนั้นมีผู้ถามว่าวัตถุมงคลที่มีอานุภาพสูงสุด ขอตอบว่า สมเด็จองค์ปฐม ไม่ ใช่โฆษณาเกินความเป็นจริง
แต่อย่าลืมว่า ท่านเป็นองค์ต้นของพุทธศาสนา และมีบุญเหนือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
ป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์ทุกชนิด เช่น นิวตรอน นิวเคลียร์ เคมี ก๊าสพิษ ชีวะภาพ
ฝนกรด ฝนเหลือง โรคระบาด เชื้อโรคต่างๆ ป้องกันได้ทั้งหมด รวมถึง คุณไสย มนต์ดำ คุณคน ลมเพ ลมพัด
อุปัทวเหตุทั้งหลาย ก็ ป้องกันได้หมด"


====================================================
ดูเพิ่มเติม ศูนย์พัฒนาพลังชีวิต ออกรายการเรื่องจริงผ่านจอ

http://www.youtube.com/watch?v=trRpCQdnDVU

=====================================================
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) พฤ. - 27 มิ.ย. 2556 - 22:47.52
กำลังโหลด...
Top