ประมูล หมวด:พระเกจิภาคกลางตอนล่าง
เหรียญ หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา 2537 สหธรรมิกแห่งหลวงปู่หมุน หายาก ยิ่งหว่างมเข็ม..
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา 2537 สหธรรมิกแห่งหลวงปู่หมุน หายาก ยิ่งหว่างมเข็ม.. |
---|---|
รายละเอียด | รับรองหาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ปาฎิหาริย์ของหลวงปู่กอง ที่เด่น ๆ ชัด ๆ ก็มีลองตะกรุดนี้แหละครับ ไทยประดิษฐ์ ๔ นัดไม่ออก ดังระงมไปทั่วอยุธยา ไหนจะเรื่องหลวงพ่อไปปลุกเศก-หล่อพระ ที่วัดหลวงปู่โง่น โสรโย หลวงปู่กอง ท่านเดินไปตรงที่พิธีหล่อพระ เอามือไปคนน้ำทองหล่อพระ ที่ร้อนเป็นพันองศา แค่เดินผ่านหัวก็เกรียมแล้ว เรื่องนี้ฟังมาจากป้ากวยครับ ลูกสาวของท่าน มีพี่ชื่อ สุวิทย์ คนนครสวรรค์ รถกระบะชนกับรถกระบะ เหตุเกิดเมื่อปี ๔๐ แยกก้าวเลี้ยว บู้บี้ หน้ารถบี้ เอารูปมาให้ผมดู ไปเกิดใหม่ซะพี่ !! ไม่ตายครับ รถอีกคันที่ชน ก็ไม่ตายเช่นกัน แต่ก็ ปาฎิหารย์ทั้งคู่ พี่สุวิทย์ห้อยหลวงปู่กอง รถเก๋งคันนั้น ห้อยหลวงปู่ทวด คนที่เคยขอเรียนวิชากับหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านก็สอนให้ท่องบทมงกุฎเพชรพระพุทธเจ้า ให้เดินหน้า-ถอยหลัง คาถาของหลวงพ่อส่วนมากจะเป็นคาถา พุทธคุณซ่ะมากกว่า อย่างเช่น อิติปิโสสร้อยสน อิติปิโสเรือนเตี้ย อิติปิโสกรงทอง ท่านบอกว่า "คุณโยมท่องแต่พระพุทธคุณนั้นแหละ มีอานุภาพมาก กันได้หมด" ประวัติหลวงปู่กอง หลวงปู่กอง จันทวังโส มีนามเดิมว่า กอง ถนอมทรัพย์ เป็นบุตรคนที่ 2 ใน 3 คน ของคุณพ่อฝอย และคุณแม่ทัด ถนอมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2442 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งท่านก็ได้เรียนหนังสือและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นั่นเอง มูลเหตุบรรพชา ครั้นเมื่อมารดาของหลวงปู่เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และไม่ได้ลาสิกขาจนกระทั่งอายุครบบวช เนื่องจากหาจะสึกเมื่อไร ก็มักจะเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ในขณะที่หลวงปู่ยังเป็นสามเณรอยู่นั้น ได้ติดตามพี่ชายไป จ.สุพรรณบุรี และอยู่วัดพระลอยกับหลวงพ่อแต้ม เมื่ออายุครบบวช จึงได้กลับไปอุปสมบท ณ วัดบ้านแก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากนั้นจึงได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดข่อย หรือ วัดข่อยวังปลาในปัจจุบัน ที่วัดข่อยนี้เอง หลวงปู่ได้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม กับหลวงพ่อเข็ม ท่านได้ศึกษาอยู่จนได้เป็น พระปลัดกอง มีหน้าที่อบรมสั่งสอนพระเณรที่วัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีวินัยเข้มงวดกวดขันมาก หลังจากนั้นจึงได้ลาสิกขาบทกลับมาใช้ชีวิตฆราวาส ลาสิกขา ในช่วงชีวิตฆราวาส หลวงปู่ได้มีครอบครัวเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เมื่อภรรยาของท่านออกลูกสาวคนแรกก็เสียชีวิตลง ท่านจึงได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง โดยมีบุตร-ธิดาที่เกิดจากภรรยาคนที่สองอีก 3 คน ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.อ่างทองระยะหนึ่ง จึงย้ายมาอยู่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งที่นี่เอง ภรรยาคนที่สองของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่าานจึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อีกทั้งบุตรและธิดาท่านโตพอจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงนำไปฝากไว้กับตาและยายเพื่อให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ส่วนท่านจึงได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้สละเพศฆราวาสของท่าน ณ วัดเทวประสาท ต.ห้วยเกต อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ 55 ปีแล้ว โดยมีท่านพระครูพิบูลย์ศีลสุนทรเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม พ.ศ.2495 โดยได้รับฉายาว่า จันทวังโส เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาวิทยาการต่างๆจากหลวงปู่มหาทิม ซึ่งพระอาจารย์มหาทิม เป็นพระผู้มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงคาถาอาคมต่างๆ ต่อมาหลวงปู่กองจึงได้ติดตามอาจารย์มหาทิมลงมากรุงเทพ ฯ ด้วย โดยไปจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ กรุงเทพฯ จากนั้นท่านจึงได้ไปศึกษาอบรมอยู่กับหลวงพ่อมิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มหาทิม (หลวงพ่อมิ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คง วัดซำป่างาม จ.ชลบุรี) เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้แยกย้ายกับพระอาจารย์มหาทิม เพื่อไปธุดงค์แสวงหาโมกขธรรมตามป่าเขา ในการธุดงค์ของหลวงปู่กอง ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่สงบสงัด บางครั้งก็ได้ไปพบกับครูบาอาจารย์และสหายธรรมมากมาย ครั้นเมื่อกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านจึงได้ไปจำพรรษาวัดโน้นบ้างวัดนี้บ้าง ตามที่สหายธรรมของท่านได้ชักชวนไป จนกระทั่งในที่สุด หลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดสระมณฑลซึ่งเป็นพระอารามเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเหลือเพียงโบสถ์และพระพุทธรูปโบราณ วัดมีอาณาเขตเพียงแค่รอบโบสถ์ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชน ในสมัยที่หลวงปู่ออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำบัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์ด้วย หลวงปู่กอง ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสระมณฑล จนกระทั่งละสังขาร ในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2546 สิริอายุได้ 104 ปี 9 วัน 51 พรรษา แหล่งข้อมูล: ตัดทอน-เรียบเรียงจาก ศิษย์ใหม่. 2546. หลวงปู่กอง จนฺทวํโส. หนังสือที่ระลึกงานฌาปณกิจ. ม.ป.พ. กระดูกหลวงปู่ท่านเป็นพระธาตุครับ คนอยุธยาต่าง ๆ บอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์ครับ ".....วัดสระมณฑลต่อซึ่งก็อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก วัดนี้อยู่ท่ามกลางชุมชน โบสถ์อยู่หลังเดียวเท่าที่เห็นเห็นหลวงปู่กองท่านจำพรรษาอยู่เพียงองค์เดียว มีโยมที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งคอยดูเเล หลวงปู่กองท่านอายุเกินร้อยปีครับน่าจะ106 ปีเห็นจะได้(ถ้าจำไม่ผิดนะ) ด้วยความสงสัยผมจึงถามโยมว่าทำไหมหลวงปู่ถึงมาจำวัดที่นี่ครับ โยมตอบ หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านให้มาดูแลที่นี่ เพราะที่นี่เป็นวัดเก่ามีความสำคัญ ตั้งแต่สมัยอยุธยา โยมยังเล่าให้ฟังถึงความอัศจรรย์ของหลวงปู่เทพโลกอุดรว่า มีครั้งหนึ่ง มีการจัดงานสมโภชน์รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่เทพโลกอุดร แต่ไม่สามารถนำรูปหล่อองค์ดังกล่าวเข้ามาในโบสถ์ได้ ทำยังไงก็ไม่ได้ เพราะรูปหล่อใหญ่กว่าประตูมาก เมื่อศิษยานุศิษย์เรียนถามหลวงปู่กอง ท่านก็บอกว่า วางไว้หน้าโบสถ์นั้นแหละเดี๋ยวท่านก็เข้ามาเอง พอรุ่งขึ้นรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ดังกล่าวก็เข้ามาอยู่ในโบสถ์ได้เองโดยไม่มีใครรู้ใครเห็นเลย น่าแปลกจริง.." ที่มา http://larndham.org/index.php?/topic/16485-หลวงปู่เทพโลกอุดร-พระอรหันต์/page__st__16 หลวงปู่กอง กระดูกท่านเป็นพระธาตุจริงๆ แต่ตอนเผาสรีระท่าน พวกลูกศิษย์แย่งกันเก็บไปหมด ที่วัดสระมณฑลก็เหลืออัฐิธาตุของท่านอยู่นิดหน่อย แต่ไม่ได้แจกนะครับ เค้าเก็บบูชาไว้ที่วัด หลวงปู่กองท่านเก่งเรื่องตะกรุดครับ ท่านเป็นคนจารตะกรุดให้หลวงปู่เทียมตัวจริงครับ ไม่ใช่พวกที่เค้าอ้าง ๆ กัน ท่านจารตะกรุดให้หลวงปู่เทียมมาตั้งแต่ปี 17 จารตะกรุดจนหลวงปู่เทียมมรณะภาพนั้นแหละครับ หลวงปู่กองท่านสร้างตะกรุดเหมือนหลวงปู่เทียมแหละครับ ทั้งตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดมหาปราบ ตะกรุดสี่มหาอำนาจ ตะกรุดรัตนมาลา ตะกรุดมหาละรวย ในยุคบั้นปลายของหลวงปู่เทียม ท่านให้พระในวัด นำแผ่นตะกั่ว ทองแดง มาให้หลวงพ่อเขียนยันต์ ไม่ว่าจะเป็น " มหาระงับ สี่มหาอำนาจ เก้ารัตนมาลา มหาละรวย ดวงแก้ว ไตรปิฏก " เพราะวัดกษัตรา และ วัดสระมณฑล อยู่ไม่ไกลกัน หลวงปู่กอง ท่านเป็นมือขวา ( ศิษย์เอก และ ศิษย์รุ่นแรก ) ของหลวงปู่เทียมก็ว่าได้ ตะกรุดของหลวงปู่ของทุกชนิด สามารถใช้แทนตะกรุดของหลวงปู่เทียม ได้ทุกประการ แต่จะหายากหน่อย และ แพงหน่อย (ถ้าเป็นมหาระงับ ราคาจะใกล้ ๆ มหาระงับหลวงปู่เทียม )ส่วนมากคนแถว ๆ วัดจะมี แต่มีก็เป็นแค่ตะกรุดดอกเล็ก 2-3 นิ้ว ส่วนดอกใหญ่ ท่านจะทำให้เป็นพิเศษเฉพาะคน ยันต์ที่ลงในตะกรุดดอกเล็กของท่านส่วนมากเป็นยันต์เฑาะว์ ( หลังเหรียญหลวงพ่อกลั่น 2469 ) และ ก็ นะมหาอุตม์ ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ทางอยู่ยงคงกระพัน ชาตรี มหาอุตม์ ดอกใหญ่ผมก็ไม่ทราบแน่ชัด แล้วแต่ตัวของตะกรุดมากกว่า ถ้าท่านทำตะกรุดมหาปราบ ท่านก็ลงยันต์มหาปราบ มหาระงับ ก็ ยันต์มหาระงับ ถ้าไม่ถามท่าน ท่านก็จะไม่บอกว่ายันต์อะไร ตะกรุดท่านแทบทุกดอกท่านจะม้วนรูปพระครูเทพโลกอุดร พระอาจารย์องค์หนึ่งของท่าน ไปด้วย หลวงปู่กองท่านจะเก่งมาก ๆ ในวิชามงกุฏพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าท่านศึกษามาจากพระครูเทพโลกอุดร ท่านก็ยังเคยสอนผมให้ท่องคาถานี้ไว้ เป็นเมตตามหามงคล คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันภูติผีปีศาจ ดีเยียม ตะกรุดของท่านบางดอกที่ผมเคยเห็นท่านก็ลงยันต์สายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เช่น 3 ยันต์นี้ที่ผมเคยเห็นท่านลงเป็นตะกรุด ท่านบอกว่ามีคุณทางมหาอุตม์ อีกอย่างเป็นยันต์ของสายวัดประดู่ในทรงธรรม สำนักตักศิลาแห่งภาคกลาง และท่านก็ได้ศึกษามาจากหลวงปู่เทียมเช่นกัน หลวงปู่กองท่านเป็นสหธรรมมิกที่สนิทกันมากกับหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อีกด้วย หลวงปู่กองท่านชอบทำวัตรส่วนมนต์ บางวันหลวงพ่อท่านก็นั่งสมาธินานๆ วันล่ะหลายๆครั้ง บางครั้งฤกษ์ดียามดีก็มานั่งจารตะกรุดดอกเล็กดอกน้อย ถ้าเกิดมีคนไปทำบุญ ไปถวายสังฆทาน กับท่าน ท่านก็จะแจก ตะกรุด พระผง เหรียญ ให้ไปที่ล่ะหลาย ๆ ชิ้น อีกอย่าง เวลาใครได้เข้าหาหลวงปู่แบบใกล้ ๆ จะรู้สึกเลยว่า พลัง บารมี ของท่านแรงมาก ๆ ถึงคนไม่มีฌานสมาธิ ก็สามารถรู้ได้ เพราะใครได้อยู่ใกล้ ๆ ท่าน จะมีพลังเย็น ๆ แปลก ๆ วัดท่านไม่ได้มีแอร์นะครับ แต่ใครได้อยู่ใกล้หลวงปู่ จะรู้สึกเลยว่าเย็นตัวมาก ลูกแก้ว ของหลวงปู่ นั้นของดีหลาย ๆ นะครับ ใครมีเก็บเอาไว้เลย ท่านบอกว่าหลวงปู่ใหญ่ท่านให้มานะครับ ลักษณะมีสีดำ สีน้ำเงิน สีใส ก็มี คล้าย ๆ กับของสำเร็จลุน ทางฝั่งลาวนะครับ ที่หลวงปู่ใหญ่ท่านให้สำเร็จลุนติดตัวไว้ มีอานุภาพกันภูติผีปีศาจทุกชนิด ห้อยแล้วเป็นเมตตามหานิยม ส่วนมากท่านจะเอาไว้แจก ใครไปขอท่าน หรือ บางครั้งไม่ได้ขอท่านก็ให้ และที่หนังสือหลาย ๆ เล่มบอกว่าป้ากวย ถนอมทรัพย์ เป็นหลานหลวงพ่อ จริง ๆ เป็นลูกสาวของหลวงพ่อครับ ป้ากวยได้บอกเล่าเรื่องราวของหลวงปู่กองให้ผู้เขียนฟังคร่าวๆ ว่า หลวงปู่กอง จันทวังโส เดิมท่านชื่อว่า กอง ถนอมทรัพย์ ท่านบวชและร่ำเรียนวิชามาสารพัดตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ในสมัยที่ท่านออกบวชท่านชอบธุดงค์ไปตามป่าเขา ในดินแดนทุรกันดาร จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเดินพลัดตกเขาสลบไป ก็ปรากฏร่างของพระสงฆ์รูปหนึ่งมาช่วยไว้ หลวงปู่กอง ท่านเรียกพระรูปนั้นว่า “หลวงปู่ใหญ่” ซึ่งก็คือ หลวงปู่เทพโลกอุดร หลังจากนั้นหลวงปู่กองก็ได้ปฏิบัติทาง “จิต” และร่ำเรียนวิชาที่เป็นศาสตร์ลี้ลับจากหลวงปู่ใหญ่อีกมากมายหลายวิชา เมื่อสำเร็จแล้วจึงออกจากป่ามาจำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ และร่ำเรียนวิชาจากพระเกจิชื่อดังอีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่เทียม แห่งวัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา (อยู่ตรงข้ามไม่ไกลจากวัดสระมณฑล หลวงปู่กองอยู่จำพรรษาที่วัดกษัตราฯ เป็นเวลานานกระทั่งเห็นว่าวัดสระมณฑลที่อยู่ไม่ไกลกันนี้เป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษาอยู่ท่านจึงขอมาอยู่ที่นี่เพียงรูปเดียวกระทั่งปัจจุบันนี้ ภายในโบสถ์วัดสระมณฑลหลังนี้มีรูปหล่อของหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ใหญ่ที่หลวงปู่กองให้หล่อขึ้นไว้บูชา ป้ากวยได้เล่าถึงอภินิหารของรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดรให้ฟังว่า เมื่อรูปหล่อหลวงปู่เทพฯ มาถึงวัดขณะที่แดดกำลังเปรี้ยงแต่แล้วฟ้ากลับครึ้มและมีฝนตก แล้วเมื่อถึงเวลาจะยกเข้าประตูโบสถ์ ก็ปรากฏว่าทำยังไงก็ยกเข้าไม่ได้ เพราะองค์พระใหญ่กว่าประตูมาก จนหลวงปู่กองต้องบริกรรมคาถาอยู่ครู่ใหญ่จึงสามารถยกรูปหล่อหลวงปู่เทพฯ เข้ามาได้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ |
ราคาเปิดประมูล | 499 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 549 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | จ. - 29 เม.ย. 2556 - 21:38.56 |
วันปิดประมูล | ส. - 04 พ.ค. 2556 - 06:48.03 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...