
ประมูล หมวด:พระเกจิภาคตะวันออก
ปลัดขิก หลวงพ่อลั้ง วัดอัมพาราม ชลบุรี ลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋



ชื่อพระเครื่อง | ปลัดขิก หลวงพ่อลั้ง วัดอัมพาราม ชลบุรี ลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋ |
---|---|
รายละเอียด | ปลัดขิก หลวงพ่อลั้ง วัดอัมพาราม ชลบุรี ลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋ ใช้ดีไม่แพ้ของอาจารย์เลย ปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋ก็มีแบบที่เป็นลายมือของหลวงพ่อลั้ง แต่แยกกันที่เนื้อไม้ความเก่าและรอยเจาะปลัดขิก หลวงพ่อพระครูสาธกธรรมคุณ (ลั้ง แซ่ตั้ง) ชื่อ พระครูสาธกธรรมคุณ ฉายา สุทสสฺโน อายุ ๗๕ ปี พรรษา ๕๐ น.ธ. เอก เจ้าอาวาสวัดอัมพาราม เจ้าคณะอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ๒. สถานะเดิม ชื่อ ลั้ง นามสกุล แซ่ตั้ง เกิด ปีเถาะ วันที่๓ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ บิดาชื่อ นายฮก แซ่ตั้ง มารดาชื่อ นางพริ้ง แก้วแดง บ้านอำเภอ ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี -พ.ศ. ๒๔๘๙ เคยรับราชการเป็นทหารเรือ ได้เดินทางไปประเทศอิตาลี เพื่อรับเรือหลวงเข้ามาในประเทศไทย ๓. อุปสมบท วันที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๒ ณ วัดนาจอมเทียน ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) วัดสัตหีบ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดสันติพระสมุห์เข้ม เป็นกรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้ว จำพรรษาอยู่วัดสันติธาราวาส (ทุ่งละหาน) ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมกับเริ่มดำเนินการก่อสร้างวัดอัมพาราม (บ้านอำเภอ) ๔. วิทยฐานะ - พ.ศ. ๒๔๗๓ สำเร็จวิชาสามัญศึกษา ชั้นประถมปีที่๔ จากโรงเรียนประชาบาลนุกูล วัดสันติธาราวาส ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี - พ.ศ. ๒๔๘๓ สอบนักธรรมชั้นตรีได้ สำนักวัดสันติธาราวาส คณะจังหวัดชลบุรี - พ.ศ. ๒๔๘๕ สอบนักธรรมชั้นโทได้ สำนักวัดสันติธาราวาส คณะจังหวัดชลบุรี - พ.ศ. ๒๔๘๗ สอบนักธรรมชั้นเอกได้ สำนักวัดสันติธาราวาส คณะจังหวัดชลบุรี - ปกติเป็่นผู้ที่ค้นคว้าหาความรู้เพิ่เติมอยู่ตลอดเวลาเป็นผู้รักการอ่านหนังสือ ๕. งานปกครอง - พ.ศ. ๒๔๘๕ เริ่งานก่อสร้างวัดอัมพาราม - พ.ศ. ๒๔๘๗ เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส วัดอัมพาราม - พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สวดอุปสมบทกรรม - พ.ศ. ๒๔๙๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดอัมพาราม - พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นเจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน - พ.ศ. ๒๔๙๙ เป็นพระอุปัชฌาย์ - พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี - พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นเจ้าคณะอำเภอสัตหีบ เป็นสัญญาบัตรชั้นโท เป็นเจ้าคณะอำเภอ - พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก - พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ - ความรู้พิเศษ เป็นช่างก่อสร้าง วางแผนผังการสร้างวัด ถนัดช่างไม้และช่างปูน สมัยนั้นต้องก่อสร้างเองทั้งหมด (หลวงพ่อลั้ง) ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งละหาน ศึกษาพระธรรมวินัยจนจบนักธรรมชั้นเอก และศึกษาวิชาโหราศาสตร์ พยากรณ์ชะตาชีวิต และศึกษาวิชาไสยศาสตร์จากหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เรียนวิชาคาถาอาคม เช่นลงปลัดขิก เสกปลัดขิก ที่โด่งดังอยู่ทุกวันนี้ และยังรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วย คาถาอาคมเสก เป่าน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก และยังรักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับเส้น เดินไม่ได้ ด้วยการใช้ขวานคัด สามวันหาย เป็นที่รู้จักกันทั่วไป หลวงพ่อได้เรียนโดยตรง จากหลวงพ่ออี๋ เริ่มสร้างวัด พ.ศ. ๒๔๘๕ หลวงพ่อลั้ง บวชได้ ๓ พรรษา ดำริจะสร้างวัดที่หมู่บ้านอำเภอ เพราะเป็นบ้านเกิดของหลวงพ่อเอง อีกทั้งเห็นความลำบากของชาวบ้านอำเภอ ต้องไปทำบุญถึงวัดทุ่งละหาน ระยะทางประมาณ ๓.๕ กิโลเมตร จึงมาปรึกษากับนาย เริ่ม รัตนเหลี่ยม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๔ บ้าบอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านได้ประชุมชาวบ้านขอบริจาคที่ดินผู้บริจากมีรายนามดันี้คือ ๑. นายทองใบ แซ่จึง ๒. นางเยื้อน บานชื่น ๓. นายวงษ์ แก้วแดง ๔. นายโหน แก้วมา (กำนันโหน) รวบรวมที่ดินได้ ๑๖ ไร่ ๑ งาน ๔๐ ตารางวา ตราจอง ๒๐๗ พ.ศ. ๒๔๘๕ ได้สร้างกุฏิสงฆ์ ๓ หลัง ศาลาการเปรียญ ๑ หลัง หอฉัน ๑ หลัง ห้องสุขา ๑ หลัง ทำด้วยไม้หลังคามุงจาก ปีแรกมีพระจำพรรษา ๕ รูป หลวงพ่อเป็นพระนักพัฒนา พ.ศ. ๒๔๘๗ ได้สร้างกุฏิสงฆ์ถาวรขึ้น ๑ หลัง มุงด้วยกระเบื้อง ซีเมนต์ หลวงพ่อได้ทำกระเบื้องขึ้นเองเรียกว่ากระเบื้อง(ว่าว) สมัยนั้นต้องทำเองหมด มีกระเบื้อง ปากบ่อ หินนั้นต้องนำเรือไปเก็บที่เกาะเป็ด หน้าเกล็ดแก้ว ส่วนไม้นั้นต้องไปตัดที่เขาแม่ชีโอน ต้องใช้เกวียนบรรทุกมา ต้องถากเสา เลื่อยไม้เองทั้งหมด ต่อมา พ.ศ.ได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดนามว่า วัดอัมพาราม พ.ศ.๒๔๙๑ - ๒๕๐๐ ได้สร้างกุฏิถาวร ด้วยไม้ทั้งหมด พร้อมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ดังนี้ กุฏิเจ้าอาวาส ๑ หลัง กุฏิสงฆ์ ๑๒ หลัง ศาลาการเปรียญ ๑ หลัง โรงครัว ๑ หลัง หอฉัน ๑หลัง อุโบสถชั่วคราว ๑ หลัง หลวงพ่อลั้ง พร้อมด้วยชาวบ้านช่วยกันสร้าง ต่อมา พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้ก่อสร้างอุโบสถ กว้าง ๑๒.๕๐ เมตร ยาว ๒๕.๕๐ เมตร ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ๑ หลัง ต่อมาได้ย้ยกุฏิสงฆ์ทั้งหมดด้านทิศใต้ของวัด มาตั้งด้านทิศเหนือ เพื่อที่จะสร้างศาลาการเปรียญ , หอฉัน , โรงครัว หลังใหม่ และที่ยังเหลืออยู่คือ บ่อน้ำ ขุดเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ ทางทิศใต้ - เสนาสนะ ที่ท่านสร้างขึ้นจัดเป็นหมวดหมู่ดังนี้ ๑. กุฏิเจ้าอาวาส ๑ หลัง ๒. กุฏิสงฆ์ ๓๕ หลัง ๓. ห้องสุขา ๓๐ ห้อง ๔. หอระฆัง ๑ หลัง ๕. ศาลาเผาศพ ๑ หลัง ๖. ห้องสมุด ๑ หลัง - ผูกพัทสีมาเมื่อ วันที่ ๒๐ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕ -ยกขึ้นเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง พ.ศ. ๒๕๑๙ หลวงพ่อลั้ง ได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรือง ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้หลวงพ่อได้เป็นผู้ให้กำเนิด วัดอัมพาราม และเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จึงนับว่าหลวงพ่อได้ทำคุณประโยชน์แก่พวกเรา แม้จะเป็นในอดีต ปัจจุบันแม้อนาคตต่อไปข้างหน้า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ หลวงพ่อได้สร้าง ศาลาการเปรียญ ๑ หลัง กว้าง ๓๙ เมตร ยาว ๔๙ เมตร มูลค่า ๗๐๐๐๐๐๐ บาท สร้างศาลาการเปรียญเส็รจ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ และสร้างหอฉันโรงครัว หลวงพ่อได้สร้างเหรียญรูปหล่อร้อยองค์ของท่านจำนวนหนึ่ง และสั่งให้อาจารย์แก้ว (พระครูปิยกิจวิบูลย์) ทำปลัดขิกจำนวน ๒๕๓๓ อัน ต้องจ้างเขาใช้เครื่องทำ เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็ลงอักขระ หลวงพ่อนิมนต์พระสวด อิติปิโส ๑๐๘ ทำพิธีปลุกเสก ตลอดพรรษา จากนั้นหลวงพ่อเริ่มอาพาธ ด้วยโรคภูมิแพ้ โรคเส้น เล็ก ๆ น้อย ๆ ตลอดมา เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๓๓ วันที่ ๑๓ เมษายน หลังจากลงไปให้บรรดาศิษยานุศิษย์สรงน้ำ ที่ศาลาการเปรียญ จากนั้นหลวงพ่อไม่ลงจากกุฏิอีกเลย อาตมา (อาจารย์แก้ว) พร้อมด้วยพระสงฆ์-สามเญรได้ช่วยกันปรนนิบัตท่านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสามเณรบรรจบ สามเณรลูกขวัญ (ปัจจุบันได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ) เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๓๓ อาตมาเฝ้าหลวงพ่ออยู่ตลอดคืน เพราะหลวงพ่อนอนไม่หลับ หลวงพ่อคุตลอดคืน ส่วนมากเป็นประวัติความเป็นมาของวัด และประวัติส่วนตัวของท่าน จนสว่าง สุดท้ายหลวงพ่อบอกให้ดูแลวัด พัฒนาวัดให้ดีขึ้น ดูแลพระเณรและญาติโยมให้ดี และให้เพิ่มทุนที่ตั้งเอาไว้ บำรุง วัดพระ เณร มีทันอยู่ประมาณแสนห้า หลวงพ่อบอกว่าถ้าท่านมรณะแล้ว ให้ตั้วศพไว้บนกุฏิ เวลาน้นสว่างแล้ว เป็นวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๓๓ อาตมา จึงบอกให้หลวงพ่อพักผ่อน และให้พระดูแลท่านแทน ขออนุญาตลงไปล้างหน้าข้างล่าง หลวงพ่อก็คุยกับพระวิโรจน์ (พระจั๊ม) ประมาณ ๖.๓๐ น. พระจั๊มลงไปเรียกอาตมา บอกว่าหลวงพ่อไม่พูดแล้ว อาตมาก็รีบขึ้นไป เอามือช้อนไหล่ให้ลุกนั่ง แล้งเรียกให้หลวงพ่อตื่น อยู่ประมาณ ๑ นาที หลวงพ่อ ก็ลืมตาจ้องหน้าอาตมา และพูดอ้อแอ้ไม่มีเสียง และหลวงพ่อก็หลับตา อาตมาจับชีพจรหยุดเต้น เวลา ๐๖.๔๕ น. หลวงพ่อได้มรณะภาพ ในอ้อมแขนของอาตมา ด้วยความสงบ เวลา ๐๖.๔๕ น. รวมสิริอายุได้ ๗๕ ปี พรรษา ๕๐ พรรษา |
ราคาเปิดประมูล | 500 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 4,000 บาท (ถึงราคาประมูลด่วน) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | พ. - 05 ก.ย. 2555 - 17:36.59 |
วันปิดประมูล |
พฤ. - 06 ก.ย. 2555 - 22:23.07 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 4,000 บาท (ถึงราคาประมูลด่วน) |
---|---|
ราคาประมูลด่วน | 4,000 บาท |
เพิ่มครั้งละ | 50 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
1,000 บาท | พฤ. - 06 ก.ย. 2555 - 02:29.23 | |
1,550 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | พฤ. - 06 ก.ย. 2555 - 21:33.03 | |
4,000 บาท (ถึงราคาประมูลด่วน) | พฤ. - 06 ก.ย. 2555 - 22:23.07 |
กำลังโหลด...