เหรียญหลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ออกวัดบ้านสร้างเรือ ปี ๒๕๒๑ เนื้อทองแดง แท้ทัน - webpra

ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

เหรียญหลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ออกวัดบ้านสร้างเรือ ปี ๒๕๒๑ เนื้อทองแดง แท้ทัน

เหรียญหลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ออกวัดบ้านสร้างเรือ ปี ๒๕๒๑ เนื้อทองแดง แท้ทัน เหรียญหลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ออกวัดบ้านสร้างเรือ ปี ๒๕๒๑ เนื้อทองแดง แท้ทัน
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ออกวัดบ้านสร้างเรือ ปี ๒๕๒๑ เนื้อทองแดง แท้ทัน
รายละเอียดเหรียญหลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี

ที่ระลึกในงานวางศิลาฤกษ์อุโบสถ วัดบ้านสร้างเรือ ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ปี ๒๕๒๑ เนื้อทองแดง พระสวยไม่ผ่านการใช้ ควรค่าแก่การบูชาครับ

------------------------------------------
ประวัติหลวงปู่คำมี

หลวงปู่คำมี ท่านเป็นศิษย์ สมเด็จลุน (สำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์) ตำนานผู้วิเศษเหนือโลกแห่งประเทศลาว หนึ่งในพระอภิญญาที่มีความเข้าใจกันว่าท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดร

หลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี – หลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.ลพบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองลพบุรี ช่วงปี พ.ศ.2500-2520 งานพิธีปลุกเสกพระเครื่องของวัดต่างๆ ในจังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง จะนิมนต์พระเกจิชื่อดังมาร่วมงานหลายรูป

แต่หลวงปู่คำมีจะได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำของพระสายเมืองลพบุรี ด้วยมีคุณวุฒิและอาวุโสสูงสุด

มีนามเดิม คำมี พระวิเศษ เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2416 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะโรง เวลาเที่ยงตรง ในราชอาณาจักรลาว

ช่วงเยาว์วัย มีอุปนิสัยฝักใฝ่ในทางธรรม เพื่อให้ได้ศึกษาและเจริญก้าวหน้าในทางธรรมยิ่งขึ้น อายุ 14 ปี เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดชุมพรพิสัย แขวงสะหวันนะเขต เมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยมีพระครูพล เป็นพระอุปัชฌาย์

ระหว่างนั้น สามเณรคำมีศึกษาปฏิบัติธรรม และวิชาต่างๆ กับพระครูพล อยู่ที่วัดชุมพรพิสัย เมื่อท่านศึกษาปฏิบัติจนแก่กล้าแล้ว จึงขออนุญาตพระครูพล ออกธุดงค์เพื่อแสวงหาสถานที่สัปปายะเหมาะแก่การเจริญธรรม เป็นเวลา 2 ปี

ท่านจากถิ่นฐานบ้านเกิด ธุดงค์ในป่าประเทศลาวเเพียงลำพัง กระทั่งมีโอกาสได้กราบฝากตัวเป็นศิษย์ของสมเด็จลุน อยู่รับใช้อุปัฏฐากและศึกษาวิชาต่างๆ จากสมเด็จลุนอย่างเคร่งครัด เมื่อเห็นว่าสามเณรคำมี ร่ำเรียนวิชาต่างๆ จากท่านจนหมดสิ้นแล้ว ท่านจึงให้สามเณรคำมี กลับไปเผยแผ่ธรรม และโปรดโยมบิดามารดาของท่านที่สะหวันนะเขต จึงได้กราบลาสมเด็จลุนมาด้วยความอาลัย

ครั้นกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดชุมพรพิสัยได้ระยะหนึ่ง ท่านเกิดความตั้งใจที่จะเดินทางไปไหว้พระธาตุพนมที่ฝั่งไทย จึงลาพระครูพล เพื่อเดินทางมาทางฝั่งไทย

ทราบข่าวบารมีความเก่งกล้าของพระครูศรีทัต แห่งอำเภอท่าอุเทน เมื่อนมัสการพระธาตุพนมเสร็จ ท่านจึงยังไม่กลับไปสะหวันนะเขต แต่มุ่งหน้าสู่อำเภอท่าอุเทน เพื่อไปกราบนมัสการพระครูศรีทัต และขอฝากตัวเป็นศิษย์ เมื่อพระครูศรีทัตทราบความเป็นมา จึงรับสามเณรคำมีไว้เป็นศิษย์

หลวงปู่ศรีทัต มีความเข้มงวดมาก ตั้งแต่เรื่องพระธรรมวินัยจนไปถึงการศึกษาวิชาต่างๆ

จนเมื่อสามเณรคำมีอายุครบบวช จึงลาหลวงปู่ศรีทัต กลับไปยังฝั่งลาว เพื่อเข้าพิธีอุปสมบท

ท่านกลับมายังแขวงสะหวันนะเขต และเข้าพิธีอุปสมบท โดยมีพระครูพล เป็นพระอุปัชฌาย์ ที่วัดชุมพรพิสัย

อยู่จำพรรษาโปรดโยมบิดามารดาที่วัดชุมพรพิสัยอยู่ 2 พรรษา ด้วยความต้องการแสวงหาวิมุตติธรรม จึงลาโยมบิดามารดาของท่าน ออกธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทยอีกครั้ง ธุดงค์ไปหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานของไทยหลายพรรษา จนกระทั่งเข้าสู่เมืองโคราช ได้ยินชื่อเสียงความเคร่งครัดของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล วัดป่าสาลวัน พระอาจารย์ใหญ่แห่งสายกองทัพธรรม

จึงเดินทางไปกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์ รับแนวทางปฏิบัติจากท่านหลวงปู่เสาร์

หลวงปู่คำมีบอกเล่าว่า “หลวงปู่เสาร์ มีความเชี่ยวชาญแก่กล้าทางด้านกสิณเป็นอันมาก โดยเน้นให้ความสำคัญทางด้านกสิณ 4 อันเป็นปฐมของธาตุทั้งมวลในโลก คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ” ซึ่งหลวงปู่คำมี ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติในการตั้งธาตุปลุกเสกวัตถุมงคลในกาลต่อมา

ต่อมา กราบลาหลวงปู่เสาร์เพื่อธุดงค์ต่อไป ท่านเดินธุดงค์มาถึงอำเภอพระพุทธบาท สระบุรี ไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท และเดินธุดงค์มาทางจังหวัดลพบุรี พบถ้ำเอราวัณ ท่านเห็นว่าเป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะแก่การหลบหลีกจากความวุ่นวายทั้งหลาย จึงอาศัยเป็นที่พำนักในการเจริญธรรม

ชาวบ้านดงจำปานิมนต์หลวงปู่ให้ไปโปรดญาติโยมและช่วยสร้างวัดที่นั่น หลวงปู่ไปช่วยสร้างวัด และอุโบสถจนเป็นที่สำเร็จ หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดดงจำปาระยะหนึ่ง (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหม่จำปาทอง) ท่านจึงกลับไปพำนักที่ถ้ำเอราวัณอีกครั้ง ท่านอยู่จำพรรษาที่ถ้ำเอราวัณ 3 พรรษา ในช่วงนั้นได้เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา ญี่ปุ่นบุกขึ้นประเทศไทย

ท่านย้ายจากถ้ำเอราวัณ จำพรรษาอยู่ที่ถ้ำคูหาสวรรค์ ซึ่งต่อมา กลายเป็นวัดถ้ำคูหาสวรรค์

ในช่วงสงครามอินโดจีน ท่านจัดเครื่องรางแจกทหารหาญที่ไปรบ ทหารทุกคนที่ได้รับเครื่องรางของขลังจากท่านและนำติดตัวไปสงคราม ปรากฏว่าปลอดภัยกันทั่วหน้า

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง หลวงปู่คำมีมรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2524 สิริอายุ 105 ปี พรรษา 80

บรรดาคณะศิษย์เคลื่อนย้ายสังขารของท่านไปไว้ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ตามคำสั่งของท่านที่ว่า เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ห้ามนำร่างของท่านไปเผา หรือฝังเด็ดขาด

ปรากฏว่า สังขารของหลวงปู่คำมี ไม่เน่าเปื่อย และมีเส้นผมงอกขึ้นมาอีกด้วย

ขอบคุณเจ้าของข้อมูล ค้นหาจาก GOOGLE

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/amulets/news_2936763
ราคาเปิดประมูล1,400 บาท
ราคาปัจจุบัน1,400 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูลจ. - 03 ก.พ. 2568 - 16:26.36
วันปิดประมูล อา. - 23 ก.พ. 2568 - 16:26.36 (19วัน 17ชั่วโมง 24นาที)
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 1,400 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ100 บาท
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่การประมูล ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top