เหรียญ รุ่นแรก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคอีสานเหนือ

เหรียญ รุ่นแรก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม

เหรียญ รุ่นแรก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม เหรียญ รุ่นแรก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง เหรียญ รุ่นแรก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม
รายละเอียดเหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม จัดสร้างเมื่อปี 2552 จำนวนการสร้าง เนื้อทองแดงลมดำ 10,000 เหรียญ เลี่ยมเดิม ๆ จากวัด (1000 เหรียญ
#ผู้ขอสร้าง วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น)
#วัตถุประสงค์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนก่อสร้างสาธารณูปการภายในวัดป่าวังน้ำเย็น
#ปีที่สร้าง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2552
พิธีพุทธาภิเษก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญได้อธิษฐานจิตเดี่ยว เป็นเวลา 1พรรษาจากนั้นได้นำไปขอความเมตตาจาก หลวงปู่เฉย วัดสระเกษ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น อธิษฐานจิตเดี่ยวอีก 1ครั้ง และได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทางภาคอีสานร่วมพิธี

• หลวงปู่คำบุ จ.อุบลราชธานี
• หลวงปู่หนูอินทร์ กิตติสาโร จ.กาฬสินธุ์
• หลวงปู่เหรียญชัย มหาปัญโญ จ.อุดรธานี
• หลวงปู่เฉย ญาณธโร วัดสระเกษ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น
• พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม

#ลักษณะ เหรียญรุ่น ๑ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เป็นเหรียญมีห่วงเจาะรู เนื้อทองแดงรมดำ รูปทรงคล้ายพัดยศ หรือรูปแบบยันต์มหาปราถนาแยกเป็น12 ส่วนแต่ละส่วนโค้งมนปลายทั้งสองด้านชิดกัน ยกขอบ
ด้านหน้า มีรูปเหมือนพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญครึ่งองค์ ห่มผ้าจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่งพาดสังฆาฎิ ที่คอคล้องลูกประคำ บริเวณหน้าอกด้านซ้ายบนผ้าสังฆาฎิ มีหมายเลข "๙" และบริเวณด้านขวาของเหรียญโค้งลงไปด้านล่างวนขึ้นไปด้านซ้ายมีตัวอักษรเขียนว่า "พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมือง จ.มหาสารคาม " ใต้ตัวอักษรเขียนว่า "รุ่น ๑"
ด้านหลัง เป็นยันต์มหาปราถนาเต็มทั้งเหรียญและมีตัวอักขระตัวธรรมลาว เขียนว่า "โน เย นะ เย โน ซิ นะ ตา ซิ มา นิ ธิ สิ สิ ธิ นะ วะ ภา" เป็นยันต์ที่มีพุทธคุณครอบคุมทุกด้าน

#ยันต์ยอดสมปราถนา

พระธาตุพนมบรมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. ๘ ตั้งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขง เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เรียกว่า "ภูกำพร้า" ก็คือตามประเพณีที่ผ่านมาพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากุกสันธะ พระพุทธาเจ้าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้ากัสสปะ ที่ท่านได้นิพพานไปแล้ว ในภัทรกัปล์นี้จะนำพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่แห่งนี้ เมื่อพระพุทธเจ้าสมณโดม(พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)พระองค์เสด็จสู่ปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะสาวก จึงได้อัญเชิญ "พระอุรังคธาตุ" ของพระองค์มาบรรจุในพระธาตุพนมแห่งนี้ หลังจากจากที่พระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ซึ่งมีท่านพญาเจ้าเมืองทั้งห้าได้ร่วมกันสร้างพระธาตุพนมคือ "พญาอินทปัติถนคร พญาจุลณีพรหมทัต พญานันทเสน พญาคำแดง พญาสุวรรณภิงคาร หลังจากแบ่งหน้าที่กันสร้างอุโมงค์และพระอุโบสถเสร็จแล้วได้บริจาค แก้วแหวนเงินทอง มงกุฎเพชร กำไลเพชร เครื่องใช้สิ่งของที่มีค่า บรรจุไว้อย่างมากมายมหาศาลประมาณมิได้
หลังจากนั้นเจ้าเมืองต่างๆก็ให้ความอุปถัมภ์องค์พระธาตุพนมมาโดนตลอด จนกระทั่งเกิดการบูรณะพระธาตุครั้งใหญ่ 6 ครั้งและเมื่อพระธาตุพนมล้มลงมาก็ปรากฎสิ่งของที่มีค่าปรากฎแก่ฝูงชนและประชาชนทั่วไป หนึ่งในนั้นคือ "นวภา 25 ดวง" ซึ่งโครงยันต์เหมือนกับพระยันต์มหาปราถนาที่พบเห็นบางส่วนบรรจุในแผ่นศิลา มหายันต์เหล่านี้ไม่เคยปรากฎว่ามีหรือพบเห็นในประเทศไทยเหมือนพระยันต์เกจิอาจารย์อื่นๆ

#ตำนานมหายันต์แห่งลุ่มน้ำโขง

มหายันต์ลุ่มน้ำโขงเป็นดวงยันต์โบราณที่เกจิอาจารย์หรือครูอาจารย์หลายยุคหลายสมัยแถบลุ่มแม่น้ำโขงได้ศึกษาต่อกันมา ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นและมีบุญเก่าสะสมมาเท่านั้น จึงจะศึกษาได้ไม่ใช่การท่องจำเหมือนนักเรียนท่องจำ มหายันต์นี้มีมาแต่โบราณ สันนิษฐานไม่ได้ว่ามาจากยุคใด ต่อมายันต์นี้ตกมาถึง "พระราชครูโพนสะเม็ด(หลวงปู่ขี้หอม)" ต่อจากนั้นก็ตกมาถึง "สมเด็จลุน" หลังจากสมเด็จลุนวิชาดังกล่าวก็ตกมายัง "ญาครูพรหมา"แห่งนครจำปาศักดิ์ และก็มาถึง "ตาปะขาวครุฑ" และได้ตกทอดมาถึงหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดพระธาตุมหาชัย จ.นครพนม มหาดวงทั้ง 25 ดวงได้มาจาก "ญาครูพรหมา แห่งนครจำปาศักดิ์" ที่มามรณภาพที่บ้านม่วงเขียนเป็นยันต์ดวงเป็นตัว "ธรรมลาว"
หลวงปู่คำพันธ์ ท่านปฎิบัติวิปัสสนา กรรมฐานตามแนว "ชีปะขาวครุฑ" และ "หลวงปู่เสาร์" จนสำเร็จในขั้นสูง จนสามารถกำหนดรู้ด้วยฌานสมาบัติของท่าน สามารถเข้าใจและเรียนรู้ "นวภา 25 ดวง จนเข้าใจทะลุปรุโปร่งหมด และได้ทำการถอด นวภา 25 ดวงให้เหลือ 15 ดวง และถอดจาก 15 ดวงให้เหลือ 9 ดวง และถอดจาก 9 ดวงให้เหลือ 5 ดวง ถอดจาก 5 ดวงเหลือ 3 ดวง และถอดจาก 3 ดวง เหลือเพียงดวงเดียวนั้นคือ "พระยันต์มหาสมปราถนา"
นวภา 25 นวภาทั้ง 25 ดวงนี้เป็นยันต์โบราณมีความศักดิ์สิทธ์มาก โครงกระดูกยันต์คล้ายยันต์ดวง ซึ่งทั้ง 25 ดวง มีความศักดิ์สิทธ์เฉพาะด้าน ตามตำนานเป็นพระคาถาของ "พระอรหันต์เจ้า" ได้ใช้สงเคราะห์มนุษย์โลกในเรื่องต่างๆ เช่น กันภูตผีปีศาจ รักษาโรคภัย และกันอันตรายทุกด้าน ช่วยทุกสิ่งทุกอย่างครอบจักรวาล ก่อนจะปรินิพพาน เพื่อสงเคราะห์มนุษย์โลกต่อไป จึงได้เขียนดวงยันต์นี้โดย "จารึกลงแผ่นศิลา" แล้วสอนลูกศิษย์ในยุคต่อๆมาเพื่อสร้างบารมีในการช่วยโลกมนุษย์ เสริมอินทรีย์แก่กล้าเพื่อความสำเร็จในวิมุตต่อไป ซึ่งตัวธรรมของพระคาถาเป็น "ตัวธรรมภาษาลาว"
ซึ่งมหายันต์อันศักดิ์สิทธ์นี้ได้พบหลักฐานบรรจุอยู่ในองค์พระธาตุพนม รู้จักกันในนามมหายันต์ลุ่มน้ำโขงหรือ "ยันต์ดอกบัว" บางคนเรียกยันต์ "กระดองเต่า" ของหลวงปู่คำพันธ์ เพราะมองแล้วลายเหมือนกระดองเต่าหรือเรียกว่า "มหายันต์ 108" ลุ่มน้ำโขงมีอานุภาพครอบจักรวาล มีกฤษดานุภาพสูงเฉพาะตัว หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ได้ศึกษายันต์นี้จนชำนาญทุกๆมหายันต์ สามารถเข้าใจแจ่มแจ้งด้วยอภิญญาบารมีธรรมอันแก่กล้า ท่านได้ถอด "มหายันต์ 108" ออกมาอีกทีหนึ่งซึ่งจะพบกันและรู้จักกันคือ "ยันต์มหาปราถนา ยันต์มั่นเที่ยง ยันต์นิพพานหรือยันต์ดับทุกข์" ซึ่งมีพุทธานุภาพสูง สะท้านไตรภพครอบจักรวาล
" มหายันต์ 108" หรือ "มหายันต์ลุ่มน้ำโขง"หรือ "มหายันต์สมปราถนา" เป็นดวงพระยันต์ที่โครงกระดูกยันต์เขียนเหมือนยันต์ดวง ถือว่าเป็นสรรพวิชาของครูบาอาจารย์หลสนชั่วอายุคน ผู้ที่รับหรือประสาทวิชาเหล่านี้ อย่างน้อยต้องสำเร็จถึงขั้นอภิญญาและมีบารมีธรรมเหนือกว่าพระธรรมดาทั่วไป เมื่อศึกษาแล้วจะเกิดตบะเดชะ สามารถรู้เรื่องต่างๆได้เหมือนธรรมชาติ แม้แต่การกำกับหรือลงอักขระในแผ่นทองหรือแผ่นโลหะต่างๆจะมีกฤษดานุภาพสูง สามารถป้องกันอันตรายได้ร้อยแปด ซึ่งบางคนเรียกว่า เหนือมัจจุราช เมื่อหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ได้คัมภีร์ยันต์นี้มา ท่านได้พยายามถอดจากมหายันต์ร้อยดวงออกมาเป็นมหายันต์ศักดิ์สิทธ์และเหมาะกับสภาวะปัจจุบัน นั่นคือคนปัจจุบันต้องการความมีเมตตามหานิยม มีลาภ ยศศักดิ์ มีความปลอดภัยในชีวิต และมีความเจริญในหน้าที่การงานอาชีพ ท่านได้ถ่ายทอดจาก "มหายันต์ 108 ดวง" ออกมาเป็นยันต์ครูของท่านนั้นคือ "ยันต์มหาปราถนา" แต่การที่จะถ่ายทอดยันต์ออกมาได้ต้องอาศัย บารมีธรรมความเพียรเป็นอย่างยิ่ง และ "มหายันต์สมปราถนา" นี้ได้ตกทอดมาสู่ลูกศิษย์คือ "พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม" ผู้สืบทอดทายาทธรรมของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ

#จำนวนที่สร้างและราคาเช่าบูชา

#เนื้อสามกษัตริย์
สร้างจำนวน 9 เหรียญ (ไม่ได้เปิดให้บูชา)
(*เนื้อสามกษัตริย์จะมีสามสีในเหรียญเดียว คือสีทอง สีเงิน และสีนาค)

#เนื้อทองแดงรมดำ
สร้างจำนวน 10,000 เหรียญ บูชาเหรียญละ 99 บาท (แต่ในปี พ.ศ. 2553 ได้มีลูกศิษย์คัดค้านว่าราคาต่ำเกินไปจึงได้มีการเพิ่มราคาเหรียญให้เช่าบูชาเหรียญละ 199 บาทจึงเเป็นราคาเช่าบูชาตั้งแต่นั้นมา)
ราคาเปิดประมูล5,000 บาท
ราคาปัจจุบัน5,000 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ5,000 บาท
วันเปิดประมูลพ. - 04 ธ.ค. 2567 - 12:05.05
วันปิดประมูล อ. - 24 ธ.ค. 2567 - 12:05.05 (2วัน 2ชั่วโมง 36นาที)
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 5,000 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ5,000 บาท
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่การประมูล ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top