**เบาๆ**เหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗**เนื้อนวะ สวยๆ - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคใต้

**เบาๆ**เหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗**เนื้อนวะ สวยๆ

**เบาๆ**เหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗**เนื้อนวะ สวยๆ **เบาๆ**เหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗**เนื้อนวะ สวยๆ **เบาๆ**เหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗**เนื้อนวะ สวยๆ
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง **เบาๆ**เหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗**เนื้อนวะ สวยๆ
รายละเอียดเหรียญหลวงปู่กลาย วาจาสิทธิ์ รุ่นเสาร์ห้า มหาลาภ วัดหาดสูง จ.นครศรีฯ ปี ๒๕๓๗ เนื้อนวะ ท่านเป็นพระอาจารย์ของพ่อท่านคล้าย แห่งวัดสวนขัน สวยๆ หายาก น่าบูชา สนใจหรือชอบขอเชิญครับ ลองชมรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกนะครับ ราคาเบาวัดใจทั้งนั้นครับ

ประวัติหลวงปู่กลาย คงฺคสุวณฺโณ

หลวงปู่กลาย คงฺคสุวณฺโณหรือชาวบ้านเรียกว่า พ่อท่านกลาย วาจาสิทธิ์ กายสิทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหาดสูงอ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นอาจารย์ ของพระชื่อดังก้องฟ้าเมืองไทย คือ หลวงพ่อคล้ายแห่งวัดสวนขัน และหลวงพ่อแดงแห่งวัดภูเขาหลัก ฯลฯ

ประวัติและชาติกำเนิดของปู่กลาย คงฺคสุวณฺโณไม่มีใครทราบแน่นอนวัน เดือน ปีเกิด แต่ผู้รวบรวมได้สืบถามจากคนเฒ่าคนแก่ที่ยังหลงเหลืออยู่ในสมัยนั้น ว่าท่านกำเนิดจากตระกูลชาวนา เมื่อปี พ.ศ.2341 ในสมัยแผ่นดินของล้นเกล้ารัชกาลที่5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จากบิดาชื่อนายเมืองมารดาชื่อนางทรัพย์ (สมัยนั้นยังไม่ได้ตั้งนามสกุล) มีพี่น้อง 6 คน ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 2 คนคือ :

1. นายกลับ

2. หลวงปู่กลาย

3. นายคล้าย

4. นางเนี้ยว

5. นายคลิ้ง

6. นางพริ้ม

ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ตอนเด็กศึกษาหัดเขียน และอ่านหนังสือจากบิดาซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียน ช่วยบิดามารดาทำนา ครั้นโตขึ้นพอสมควรจึงได้ฝากตัวเรียนวิชาอาคมไสยศาสตร์กับขุนโจรชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้เก่งกล้าสามารถในทางวิชาไสยศาสตร์ คือ “เสือล้อ” เรียนจนแตกฉานในที่สุดด้วยความเป็นอัจฉริยบุรุษของท่านเสือล้อไม่มีวิชาที่จะถ่ายทอดให้อีก จึงได้ไปฝากตัวเรียนวิชากับเสือชื่อดังอีกคนคือ“เสือแสง” หรือคนในสมัยนั้นเรียกว่า “พ่อหมอแสง” ในไม่ช้าพ่อหมอก็ไม่มีวิชาถ่ายทอดให้อีกถึงกระนั้นยังไม่เป็นที่พอใจของท่านอีก จึงได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับพ่อหมอเสือคำแหงอีกซึ่งมีชื่อมาก ในที่สุดพ่อหมอเสือคำแหงก็หมดวิชาถ่ายทอดให้อีกจะศึกษากับใครไม่ได้อีกแล้ว เพราะกับอาจารย์อื่น ไม่มีใครจะเหนืออาจารย์ทั้งสามนี้จึงได้ตัดสินใจบวชเป็นพระในปี พ.ศ.2363 อายุของท่านได้ 22ปี

ชีวิตอุปสมบท

อุปัชฌาย์ ในสมัยนั้นก็หายากเต็มที ท่านต้องเดินทางไปอุปสมบทที่วัดเวียงสระ (ตามตำนานกล่าวว่าวัดเวียงสระ พระเจ้าศรีธรรมโศกราชจะมาตั้งที่สร้างพระธาตุ แต่ยังขาดหาดทรายแก้วจึงย้ายไปสร้างที่ เมืองนครศรีฯในปัจจุบันนี้ และยังมีปูชณียสถานที่เป็นหลักฐานยืนยันได้เช่น พระพุทธรูปศิลาแลง คูเมืองกำแพงเจดีย์โดยเฉพาะพระพุทธรูปมากมายกราดเกลื่อนตามซุ้มกำแพง และในป่าบริเวณเขตวัด)

วัดเวียงสระนี้ในสมัยนั้นขึ้นอยู่กับอำเภอลำพูน มณฑลไชยาปัจจุบันเป็นอำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฏร์ธานี

เมื่อได้อุปสมบท ได้เป็นพระสมความตั้งใจแล้วจึงย้ายกับไปอยู่วัดหาดสูง ในความปกครองของอาจารย์เกลี้ยงเป็นสมภาร เมื่อสมภารเกลี้ยงตายหลวงพ่อขุนหมื่นจิต เป็นสมภารต่อ และขุนหมื่นจิต ลาสิกขาบท ท่านจึงได้เป็นสมภารต่อ

ปรากฏว่า เมื่อบวชแล้ว ได้พรรษาเดียว ก็มีอภินิหารปรากฏการณ์ต่างๆ จนชาวบ้านนับถือเลื่อมใส ได้ไปขอให้ ทำน้ำมนต์และต่อกระดูก ท่านเป็นหมอที่เก่งกล้าสามารถมากในสมัยนั้นจนชาวบ้านเรียกว่า“พ่อท่าน” (คนใต้นับถือมากคำนี้มีเรียก2 องค์เท่านั้นคือ ท่านและองค์ต่อมาคือพ่อท่านคล้าย วัดจันดีซึ่งเป็นศิษย์ของท่าน)

จนต่อไปได้รับตราแต่งตั้งจากในหลวงเป็นครูประทวน (ยศพระครู)เป็นอุปัชฌาย์บวชได้ในพุทธมณฑลฉวาง
การทนุบำรุงเมื่อท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ทนุบำรุงวัด เช่น จัดสร้างโบสถ์ วิหารศาลา และจัดตั้ง ร.ร. ประจำวัดให้กุลบุตรได้ศึกษาหาความรู้ จนชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วสารทิศอบรมลูกศิษย์จนต่อมาดังที่สุดในสมัยนี้เช่น

1. หลวงพ่อคล้าย วัดจันดี (พระครูพิสิษฐ์อรรถการ)

2. หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก (พระครู)

3. หลวงพ่อทอง วัดหน้าเขา

4. หลวงพ่อพุ่ม วัดหลักช้าง (พระครูสังฆรักษ์)

5. หลวงพ่อแดง วัดสามพ้น (พระครูประจักรวรคุณ)

6. หลวงพ่อสง วัดหาดสูง (พระครูปลัด)

7. หลวงพ่อพลัด วัดทุ่งไหม้ (พระครูญาณวรากร) ฯลฯ

อภินิหาร

ท่านเป็นพระมีที่มีวาจาสิทธิ์เหมือนหลวงพ่อคล้าย (ลูกศิษย์ของท่าน)มีเรื่องได้รับการบอกเล่าพระครูญาณวรากรว่า ท่านพูดอะไรจะต้องเป็นอย่างนั้นเช่น ครั้งหนึ่งท่านนั่งอยู่หน้ากุฏิ กระรอกวิ่งอยู่บนต้นไม้และวิ่งไล่จับกันท่านพูดว่าดูกระรอกนั้นสิ ซุกซนจริงเดี่ยวก็ตกมาละ พอพูดจบลงคำกระรอกก็ตกลงมาจริงๆ

ครั้งหนึ่งหลวงจีนเล่าให้ฟังว่า มีนกเขาบินลงหากินในวัดท่านสั่งให้หลวงพ่อจีนไปจับมาให้ท่านดูหลวงพ่อจีนนึกฉงนว่า บนป่าจะจับได้อย่างไร ท่านบอกว่าเข้าไปจับเถอะไม่บินหรอก หลวงพ่อจีนเข้าไปจับนกเขาป่าตัวนั้นช่างมหัศจรรย์แท้ๆ อย่าว่าแต่จะบินหนี เดินหนี นกป่าตัวนั้นก็ไม่เดินยืนให้จับดีๆ และเมื่อหลวงพ่อจีนจับมาส่งให้ท่าน ท่านจับให้นกยืนบนมือซ้ายของท่านเอามือขวาลูบไล้ด้วยจิตเมตตาอยู่ครู่หนึ่งโดยนกไม่บินหนีคงยืนเฉย แล้วท่านบอกนกน้อยไปเถอะนกจึงกางปีกบินหนีไป

ท่านครูญาณวรากร ลูกศิษย์ของท่านเล่าให้ฟังว่า

ในสมัยกำลังสร้างอุโบสถอยู่ จะต้องเดินทางไปเอาไม้ที่ป่าหลักช้างแต่ทางคมนาคมมีแต่ทางน้ำ และเป็นฤดูแล้ง จะล่องแพลงมาไม่ได้เพราะน้ำตื้นเขินพวกชาวบ้านบอกว่า ล่องแพลงไม่ได้หรอกพ่อท่าน เพราะไม่มีน้ำท่านจึงสั่งชาวบ้านที่ช่วยทำไม้ล่องแพว่าผูกแพให้เสร็จเถอะเดี๋ยวน้ำมาเอง ปรากฏว่าในชั่วโมงนั้นฝนตก หนักจนน้ำเต็มตลิ่งล่องถึงวัดฝนจึงหยุดตก

ชื่อเสียงของท่านกระจาย ดังเข้าถึงเมืองต่างๆและกระจายจนถึงกรุงเทพฯจนแม่ทัพซึ่งมีชื่อมากในสมัยนั้นได้รู้ข่าว และเดินทางไปเรียนวิชาไสยศาสตร์กับท่านท่านอาจารย์ขุนพันธรักษ์ราชเดช พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า “ขุนพลหนังเหนียว”เล่าให้ฟังว่าพระยาวรเดชแม่ทัพกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อเดินทางมาศึกษาวิชากับท่านครั้งแรกเมื่อแม่ทัพเข้าไปกราบ โดยที่ยังไม่ได้แนะนำตัว หลวงปู่กลายท่านมีญาณพิเศษร้องทักขึ้นว่า อ้อนี้ ท่านแม่ทัพ ก็มาจะศึกษาวิชาหรือ โดยที่ท่านแม่ทัพไปหาท่าน โดยแต่งตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาแสดงว่าท่านมีญาณแก่กล้าสามารถรู้ถึงบารมี ของคนได้ โดยไม่ต้องบอกเล่าและตลอดเวลาที่พระยาวรเดชศึกษาวิชากับท่าน จะปรากฏแสง สี เต็มห้องท่าน คือมีสีรุ้งกระจายทั้งคืน เป็นที่แปลกมหัศจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็น

... “ ครั้งหนึ่งสมัยสร้างพระองค์พระประธาน ในอุโบสถของท่านท่านเรียกหลวงพ่อคล้าย ซึ่งเป็นศิษย์คนโตของท่านเข้าไปในอุโบสถแล้วถามว่านี่คุณคล้ายดูทีซิว่าพระประธานของเราตรงไหนไม่สวยงามจะได้แก้ไข หลวงพ่อคล้ายพูดว่า บ่าของพระประธานเอียงลงทางซ้ายไม่เท่ากันและต่อจากนั้นรุ่งขึ้นเข้าท่านและชาวบ้านช่วยกันจะเอาซีเมนต์โบกฐาน ปรากฏว่าไหล่ของพระประธานเอียงทางซ้ายท่านจึงพูดว่า… เมื่อวานคุณคล้ายว่าไหล่พระของเราเอียงลงก็เอียงลงจริงๆ ท่านองค์นี้พูดแล้วเอียงๆ จริงต่อไปจะศักดิ์สิทธิ์และมีวาจาสิทธิ์แน่นอน ตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่อคล้าย แห่งวัดจันดีก็มีวาจาสิทธิ์ตามคำพูดของท่านจริง ”...

ปาฏิหาริย์ของท่านมากมายเหลือที่ยกมากล่าว เพียงแต่เล่าย่อๆพอเป็นที่หอมปากหอมคอแก่ท่านผู้เป็นนักเลงพระ พวกข้าพเจ้าผู้เขียนเห็นความศักดิ์สิทธิ์ ของท่าน จากพระสถูปที่เก็บอัฐิของท่านแต่ละวันจะมีคนไปบูชาและแก้บน ติดทองทุกวันมิได้ขาด และเห็นว่าพระอุโบสถของท่าน ซึ่งสร้างมาร้อยกว่าปีมีความชำรุดทรุดโทรมองค์พระประธานที่ท่านสร้าง ต้องถูกแดดถูกฝนจึงดำริคิดกันสร้างเหรียญพระเครื่องหลวงปู่กลายเพื่อให้คนทั่วไปได้ไว้เป็นที่ระลึก และเป็นมงคลไว้ประจำตัว ประจำครอบครัวเพื่อบูชา

ลองชมรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกนะครับ แล้วค่อยโอนทีเดียวก็ได้ครับ วัดใจเคาะเดียวแดงทุกรายการ
http://www.web-pra.com/AuctionReport/Items?username=MOMON
โอนเงินแล้วรบกวนโทรแจ้งหรือ Mail My Box เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
ราคาเปิดประมูล230 บาท
ราคาปัจจุบัน230 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูลพ. - 20 พ.ย. 2567 - 11:57.20
วันปิดประมูล อ. - 10 ธ.ค. 2567 - 11:57.20 (18วัน 12ชั่วโมง 11นาที)
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 0836336667
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 230 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ20 บาท
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่การประมูล ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top