ประมูล หมวด:จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549
**เบาๆ**เหรียญรุ่นแรก เจ้าแม่นางพระยา วัดนางพระยา จ.นครศรีธรรมราช ปี ๒๕๓๓**หลังยันต์ สวยๆ
ชื่อพระเครื่อง | **เบาๆ**เหรียญรุ่นแรก เจ้าแม่นางพระยา วัดนางพระยา จ.นครศรีธรรมราช ปี ๒๕๓๓**หลังยันต์ สวยๆ |
---|---|
รายละเอียด | เหรียญรุ่นแรก เจ้าแม่นางพระยา วัดนางพระยา จ.นครศรีธรรมราช ปี ๒๕๓๓ เนื้อทองแดง หลังยันต์ สวยๆ หายากแล้ว น่าบูชา สนใจหรือชอบเชิญบูชาครับ ยังมีอีกหลายรายการลองชมดูครับ ราคาเบาวัดใจทั้งนั้นครับ ประวัติวัดนางพระยา ต้นกำเนิดตำนานการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช วัดนางพระยา ตั้งอยู่ที่ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีประวัติความเป็นมายาวนานหลายร้อยปี ตัววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำปากนคร ที่ต่อเชื่อมระหว่างทะเลกับเมืองนครศรีธรรมราช เป็นแม่น้ำสายสำคัญทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ของประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช แต่เดิมเมื่อพันปีก่อนบริเวณวัดนางพระยามีชัยภูมิที่ดี จึงได้ถูกกำหนดให้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้า รวมทั้งเรือรบของอาณาจักรในสมัยโบราณ ฉะนั้นโดยรวมแล้ว พื้นที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญทางประวัติศาสน์มาตั้งแต่เดิม ต่อมามีกษัตริย์ในอดีตพระองค์หนึ่งสร้างวัดในพระพุทธศาสนา ตามพระราชประเพณีโบราณที่สืบมา โดยได้พระราชอุทิศให้กับพระราชมารดา หรือที่เรียกตามภาษาโบราณว่า “แม่เจ้าอยู่หัว” “แม่เจ้าเมือง” หรือ “แม่นางพระยา” ตามตำนานยังได้กล่าวถึงพระนางจันทรา นางพระยาทะเลใต้อีกด้วยโดยมีชื่อวัดว่า “วัดนางพระยา” ดังปฐมเหตุแห่งที่มาของวัดนี้ ซึ่งนัยความหมายคือ วัดของแม่เจ้าเมือง เป็นความแสดงความกตัญญูต่อพระราชมารดา ต่อมาภายหลังได้ปรากฏว่ามีการตั้งรูปของ “แม่นางพระยา” ขึ้นและผู้เฒ่า ผู้แก่ได้บอกเล่าว่ามีมานานแล้วเป็นคู่กับวัดนางพระยากล่าวกันว่าเป็นเทพชั้นสูง ที่มีคุณธรรมและความเมตตามาก เป็นที่กล่าวขานเลื่องลือมาช้านาน ผู้สัญจรไปมาในแม่น้ำหน้าวัด หรือจะเดินทางออกทะเล เมื่อผ่านหน้าวัดนางพระยาก็ต้องยกมือไหว้ทุกครั้ง เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ จวบกระทั่งปัจจุบัน กำเนิดจตุคามรามเทพและศาลหลักเมือนครศรีธรรมราช โดยสรุปแล้ว วัดนางพระยา เป็นวัดที่กษัตริย์สร้างและเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของแม่นางพระยา มารดาของเจ้าเมืองอันเป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนนครฯ มาหลายชั่วอายุคน ตามประวัติที่ได้บันทึก และเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชาวนครศรีธรรมราชที่สนใจเรื่องตำนานการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชที่สนใจเรื่องตำนานการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยเมื่อปี พ.ศ. 2528 ได้มีนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งได้ย้ายมารับราชการที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้รับคำบอกกล่าวแนะนำจากผู้เคารพนับถือว่า ทางทิศตะวันออกของเมืองนครศรีธรรมราชมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ โดยจะยกบทความอ้างอิงซึ่งเขียนโดย คุณสุวัฒน์ เหมอังกูร ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับจตุคามรามเทพดังนี้ ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งเมืองนครศรีธรรมราชที่ต้องจารึกไว้อีกครั้งหนึ่งคือ การสร้างหลักเมืองเพื่อเป็นหลักชัยเป็นศูนย์รวมใจสร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชน เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นที่วัดเล็กๆ วัดหนึ่งนอกเมืองนครศรีธรรมราช เป็นวัดที่ไม่ได้มีถาวรวัตถุมากมายใหญ่โตเหมือนกับวัดในเมือง ดูไปแล้วค่อนข้างจะเก่าและขาดแคลนมีโบสถ์และศาลาเล็กๆ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่อยู่รอบๆ ได้มาทำบุญปฏิบัติศาสนกิจสิ่งสำคัญที่เป็นศูนย์รวมของชาวบ้านแถบนั้นคือศาลเล็กๆ หลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ภายในวัดเรียกกันว่า ศาลแม่นางพระยา ซึ่งชื่อเดียวกับวัด คือ วัดนางพระยา ณ ศาลแห่งนี้ประชาชนแถวนั้นให้ความเคารพนับถือกันอย่างมากเพราะมีการประทับทรงช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนในการดำรงชีพ ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่เข้าไปมักเป็นคนที่มีฐานะไม่ร่ำรวย มีปัญหาต่างๆ ไปให้แม่นางพระยาช่วยคนที่เข้าไปทำบุญถวายปัจจัยให้เข้าวัดจึงมีน้อย เหตุการณ์ที่วัดนางพระยา เมื่อมีนายตำรวจใหญ่เดินทางไปที่วัดได้เล่าว่าขณะนั้นตัวท่านเองก็ไม่แน่ใจเรื่องการทรง เกรงว่าจะมีการหลอกลวงกันขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถ้ามาถูกหลอกโดยชาวบ้านแบบนี้ก็คงเสียชื่อแน่ ท่านจึงระมัดระวังตัวพร้อมกับเดินขึ้นไปพบ เมื่อไปถึงเทพนางพระยาที่ประทับในร่างทรงก็ทักขึ้นด้วยเสียงดังว่า “โฮ้โฮ ! รอมาเป็นพันปีแล้ว” ท่านนึกในใจว่า นี่จะมาใช้จิตวิทยาอะไรกับท่าน และด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาเรื่องราวแบบนี้มามากมาย ประกอบกับจิตใจเข้มแข็งไม่กลัวอะไร ท่านจึงเดินเข้านั่งคุยใกล้ๆ จุดบุหรี่แล้วจี้ไปที่ขา ที่แขนของคนทรง ปรากฏว่าร่างทรงไม่แสดงอาการสะดุ้งสะเทือนแต่ประการใด ถึงขนาดนั้นท่านก็ยังแสดงอาการไม่ค่อยเชื่ออยากจะทดลองทดสอบให้มากกว่านั้น แต่เนื่องจากชาวบ้านอยู่กันเต็มไปหมด จึงไม่อยากทำอะไรที่ชาวบ้านจะมองว่าเป็นการดูหมิ่นหรือไม่เคารพที่พวกเขานับถือ จึงได้แต่ถามไปว่าเรียกผมมามีธุระอะไร? แม่นางพระยาเห็นว่าท่านไม่เชื่อถือและไม่มั่นใจว่าเป็นการเข้าทรงจริง จึงได้แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้หลอกลวง โดยการไล่เรียงบรรพบุรุษและดวงดาวต่างๆ ในดวงของท่านให้ฟังปรากฏว่าถูกต้องทุกอย่าง สร้างความประหลาดใจให้กับท่านเป็นอย่างมาก เพราะร่างทรงก็คือชาวบ้านธรรมดามารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงดาวต่างๆ ในดวงชะตาของท่านนี้น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ประการหนึ่งว่า จะเป็นการทรงจริงและผู้ที่มาเข้าประทับทรงต้องไม่ใช่เจ้า หรือเทพธรรมดาจะต้องเป็นเทพที่มีความรู้ในเรื่องของโหราศาสตร์เป็นอย่างดีจึงตกลงใจที่จะพูดคุยกันอย่างเป็นงานเป็นการ คำตอบที่ท่านได้รับ สร้างความแปลกใจให้ท่านเป็นอย่างมากนั่นคือ แม่นางพระยาขอให้ท่านช่วยดำเนินการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งพูดถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองนครฯ รวมทั้งเรื่องของดวงเมืองนครศรีธรรมราชที่ท่านได้ศึกษาในจดหมายเหตุปูมโหร พร้อมกล่าวว่าท่านเอง ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเมืองนครฯ ถูกสาบและมีดวงเมืองนี้เก็บไว้อยู่นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตอกย้ำให้ท่านฉงนว่าแม่นางพระยาทราบได้อย่างไร ท่านมีดวงเมืองนครฯ ที่ถูสาบนี้อยู่และเมื่อได้ฟังเรื่องทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านศึกษาค้นคว้าจนมีความรู้ทางด้านนี้อย่างแตกฉานทำให้ท่านสงสัยว่าแม่นางพระยา ในร่างทรงคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับต้นตระกูลของเจ้าพระยานคร ท่านจึงได้สอบถามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในเรื่องของเจ้าพระยานคร แม่นางพระยากลับตอบว่าอยากรู้ก็ไปถามลูกหลานของเขาซิ นั่นแสดงว่าแม่นางพระยาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรตามที่ท่านสงสัยถาม จึงสันนิฐานว่าน่าจะเป็นยุดเก่ากว่านั้นขึ้นไปอีก แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นยุคใดแน่ซึ่งท่านได้เก็บความสงสัยไว้ไม่ได้สอบถามไป เพียงแต่บอกว่าท่านเป็นตำรวจไปสร้างหลักเมืองไม่ได้หรอกงานนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองทางแม่นางพระยาก็ยืนยันว่า ต้องเป็นท่านคนเดียวเท่านั้นที่สร้างได้เมื่อยังหาข้อยุติไม่ได้ประกอบกับชาวบ้านรออยู่ เมื่อทราบว่าท่าน คือ ผู้กำกับก็แตกฉานฮือฮาออกไป แต่ยังด้อมๆ มองๆ อยู่ห่าง ท่านเกรงว่าจะรบกวนเวลาของชาวบ้านและมีความศักดิ์สิทธิ์จริงก็ช่วยให้พวกเขาร่ำรววยมีเงินมีทองกันมากๆ แม่นางพระยาจึงบอกด้วยเสียงดังๆ ว่า อยากรวยให้ไปดูที่ศาลา จากนั้นทางท่านคิดอยู่ตลอดเวลาถึงเหตุการณ์ที่ท่านได้ประสบมาโดยไม่ได้คาดหมาย พร้อมกับคิดทบทวนถึงการโดยไม่เสียงานบ้านเมือง ซึ่งเรื่องราวของดวงเมือง ของนครศรีธรรมราชที่มีลักษณะดังคำสาปที่ท่านเก็บไว้และติดใจท่านอยู่ตลอดเวลามาพ้องต้องกันพอดีกับคำพูด บอกกล่าวของแม่นางพระยา นี่! น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คิดได้ว่าการเข้าประทับทรงดังกล่าวไม่ใช่เป็นการหลอกลวง เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาหลอกให้สร้างหลักเมือง จะต้องเป็นเรื่องที่มีเหตุผลลึกซึ้ง และน่าจะต้องติดตามสืบสาว ราวเรื่องให้กระจ่าง บทสรุป จะเห็นได้ว่าจากบทข้อเขียนนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดนางพระยาและแม่นางพระยาได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่มิสามารถ กล่าวอ้างอิงหรือเปิดเผยได้แต่เรื่องการกำเนิดจตุคามรามเทพนั้น จุดเริ่มต้นทั้งหมดอยู่ที่วัดนางพระยาแห่งนี้แน่นอน มีบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์รู้เห็นหลายคนด้วยกันที่สามารถสอบถามได้ แม้ว่าการบอกเล่า ต่อมาภายหลังจะแตกแขนงออกไปก็ตาม จึงควรที่จะได้มีการบันทึกเรื่องหลักๆ ไว้ให้ผู้สนใจได้รับทราบข้อมูลในเบื้องต้นบ้างตามควร ซึ่งการทรงจตุคามรามเทพนั้นเป็นเรื่องภายหลัง แต่ก็ตรงกันในการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช วัดนางพระยาวันนี้ แต่เดิมหลายสิบปีอยู่ในสภาพเป็นวัดเล็กๆ เสนาสนะต่างๆ อยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม มาเมื่อเรื่องราวของจตุคามรามเทพโด่งดังไปทั่วประเทศ จึงทำให้วัดนางพระยาได้รับการกล่าวถึงมีผู้ที่เคารพกราบไหว้ ได้เดินทางมาสักการะแม่นางพระยากันไม่ขาดสาย ด้วยข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ มิอาจปฏิเสธได้มีการสร้างศาลาแม่นางพระยาหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมจากการสร้างวัตถุมงคล “รุ่นกำเนิดจตุคาม” มอบให้กับผู้มีจิตศรัทธาและครั้งนี้มีผู้มีจิตศรัทธาจากประเทษมาเลเซียได้เล็งเห็นคุณค่าของวัดนางพระยา จึงได้พาคณะมาดำเนินการหล่อรูปองค์จตุคามรามเทพ ขนาด เมตร เพื่อไปประดิษฐานที่เมืองอิโป ประเทศมาเลเซีย ให้ประชาชนได้กราบไหว้ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีแสดงให้เห็นถึงการเผยแผ่บารมีขององค์จตุคามรามเทพบารมีของแม่นางพระยา ชื่อเสียงของวัดนางพระยาและเมืองนครศรีธรรมราชออกไปสู่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ และในโอกาสนี้จึงได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์วิหารจตุคามรามเทพโดยเฉพาะเป็นแห่งแรกของเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงในตำนานจตุคามรามเทพ และพัฒนาวัดนางพระยาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของนครศรีธรรมราชซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมากทั้งนี้ก็คงต้องพึ่งบารมีแม่นางพระยาและองค์จตุคามรามเทพ ได้ชักนำผู้มีจิตศรัทธา ผู้เคารพนับถือจากทั่วทุกสารทิศ ได้มาร่วมกุศลสร้างวิหารจตุคามรามเทพ และองค์จตุคามรามเทพ เพื่อประดิษฐานภายในวิหารต่อไป องค์จตุคาม จตุ หมายถึง สี่ คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถึงอาณาเขต เมื่อรวมกัน นัยความหมายน่าจะเป็นทิศทั้งสี่ ซึ่งหมายถึง ทิศที่มีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ดูแลอยู่ ดังนั้นความหมายของจตุคาม จึงเป็นตำแหน่งของผู้เป็นใหญ่ทั้งสี่ทิศมี ท้าวจตุมหาราช ปกป้องคุ้มครองดูแล เสมือนมนุษย์ใส่เสื้อผ้าเพื่อปกป้องร่างกาย ดังนั้น พระเสื้อเมืองจึงมีความหมายที่ควรจะเป็นตำแหน่งๆ หนึ่ง เพียงแต่ปราชญ์โบราณของเมืองนครศรีธรรมราชได้สมมุติขึ้นเป็นท้าวจตุคาม ผู้ดูแลทั้ง 4 ทิศ องค์รามเทพ คำว่า ราม น่าจะมีรากมาจากพระราม ที่หมายถึง พระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระมหากษัตริย์ คำว่า เทพ ก็คือ เทวดา นัยความหมายน่าจะเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นสมมุติเทพ เมื่อองค์รามเทพคือพระทรงเมือง คำว่าทรงเมืองพ้องกับคำว่า “ครองเมือง” “นั่งเมือง” หรือผู้ปกครองบ้านเมือง ซึ่งก็คือเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์นั่นเอง ดังนั้นจึงให้ทรรศนะว่า รามเทพ ควรที่จะเป็นตำแหน่งเช่นเดียวกับท้าวจตุคาม ที่คนโบราณได้สถาปนาไว้ ดังเช่น รัชกาลที่ 4 ทรงสถาปนาพระสยามเทวาธิราชไว้เป็นเทวดารักษาเมือง เป็นที่สถิตย์แห่งดวงพระวิญญาณบูรพกษัตริยาธิราชเจ้ายังคงปกป้องบ้านเมืองอยู่ ลองชมรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกนะครับ แล้วค่อยโอนทีเดียวก็ได้ครับ วัดใจเคาะเดียวแดงทุกรายการ http://www.web-pra.com/AuctionReport/Items?username=MOMON โอนเงินแล้วรบกวนโทรแจ้งหรือ Mail My Box เพื่อการจัดส่งที่รวดเร็ว หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ ขอบคุณมากครับ |
ราคาเปิดประมูล | 179 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 199 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
วันเปิดประมูล | จ. - 07 ต.ค. 2567 - 23:11.57 |
วันปิดประมูล | ส. - 19 ต.ค. 2567 - 17:07.31 |
ผู้ตั้งประมูล | |
เบอร์ติดต่อ | 0836336667 |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
199 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) | ส. - 19 ต.ค. 2567 - 16:07.31 |
กำลังโหลด...