พระสมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน รุ่นแรก หลวงพ่อดาบส สุมโน วัดดอยขุมเงิน จ.เชียงราย ปี๒๕๓๑ - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคเหนือ

พระสมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน รุ่นแรก หลวงพ่อดาบส สุมโน วัดดอยขุมเงิน จ.เชียงราย ปี๒๕๓๑

พระสมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน รุ่นแรก หลวงพ่อดาบส สุมโน วัดดอยขุมเงิน จ.เชียงราย ปี๒๕๓๑ พระสมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน รุ่นแรก หลวงพ่อดาบส สุมโน วัดดอยขุมเงิน จ.เชียงราย ปี๒๕๓๑
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระสมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน รุ่นแรก หลวงพ่อดาบส สุมโน วัดดอยขุมเงิน จ.เชียงราย ปี๒๕๓๑
รายละเอียดเป็นพระสมเด็จที่ดีทั้งนอกและในครับ
เพราะก่อนสร้างได้นำมวลสาร คือ เกสรดอกไม้ 108 นำมาให้หลวงปู่ดาบส อธิษฐานก่อนนำไปกดเป็นองค์พระ

หลังจากสร้างพระเสร็จแ้ล้ว หลวงปู่ได้เมตตา อธิษฐานจิตเดี่ยวๆ ให้หลายวัน ....

บทสรุปเกี่ยวกับพระสมเด็จรุ่นแรก

จากการที่ได้ตรวจสอบ จากท่านผู้ทรงอภิญญา พบว่า...

1. พระสมเด็จนี้ หลวงปู่ดาบส ท่านอธิษฐานให้เป็น " สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ "

2. สัญลักษณ์ ยันต์ " กงจักร " ด้านหลังพระสมเด็จ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ
จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า ที่สำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด..

ดวงแก้วนั้นมีรัตนะเจ็ด คือ แก้ว ๗ ประการ ดังต่อไปนี้

จักรแก้ว ๑
ช้างแก้ว ๑
ม้าแก้ว ๑
ดวง แก้วมณี ๑
นางแก้ว ๑
คฤหบดี (ขุนคลัง) แก้ว ๑
ขุนพลแก้ว ๑

ใน แก้ว ๗ ประการนี้ จักรแก้วเป็นใหญ่ เป็นประธานในแก้ว ๗
ประการ ทั้งหลายเหล่านั้น ในแก้ว ๗ ประการ เป็นตัวอำนาจ
มีสิทธิให้สำเร็จ อำนาจและเกิดการน้อยใหญ่ ดุจดังมหา
อำมาตย์ผู้ใหญ่ เป็นผู้สำเร็จราชการทั้งปวง เพราะเหตุนี้
แหละ จักรทั้ง ๓ นั้นจึงได้นามว่า “จักร”...

3. ท่านบรรจุวิชชาพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกายสิทธิ์ ลงไปในพระสมเด็จ ที่เรียกว่า บรมจักรพรรดิ์ ( สายวัดปากน้ำ รู้จักกันดี ).

บรมจักร มีพระบรมเดชาศักดานุภาพและมีฤทธิ์มีอำนาจ ใหญ่ยิ่งสูงสุดกว่า จุลจักร และมหาจักร มีแก้วกายสิทธิ์ชั้น บรมจักรนี้เป็นบริวารอเนกอนันตัง ปริมาณังเหลือที่จะนับจะ ประมาณได้ มีอำนาจเหนือ และเป็นผู้บังคับบัญชาใช้สอยจุล จักร,มหาจักรพร้อมทั้งบริวารจุลจักร มหาจักรด้วย เป็นผู้มีหน้า ทีเลี้ยงและรักษาดูแล ให้สมบัติและความสุขความเจริญ พร้อม ด้วยอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องใช้สอย เครื่อง อุปกรณ์ความสุขต่าง ๆ นานา ไม่ให้เบียดเบียนหมู่มนุษย์ คอย พิทักษ์รักษาดูแลหมู่มนุษย์ และทรัพย์สมบัติของมนุษย์ไม่ให้ เป็นอันตราย คอยให้ความสุข ป้องกันความทุกข์ต่าง ๆ ของ มนุษย์เช่นเดียวกันกับแก้วจุลจักรและมหาจักร แต่ทว่าทำหน้าที่ ประณีตกว่า อุดมกว่า สูงสุดกว่าละเอียดกว่าเลิศประเสริฐกว่า ยิ่งใหญ่กว่าแก้วจุลจักรและแก้วมหาจักรทั้ง ๒ ประการนั้น..

4. ท่านอธิฐานให้ เกศา เป็น " พระธาตุแก้ว "

5. ท่านอธิษฐานให้ มวลสาร ที่ประกอบเป็นองค์พระ ให้เป็น พระธาตุ ทั้งหมด.

6. ท่านบรรจุวิชา " ดวงแก้วพระสีวลี " ให้เป็นพิเศษ มีผลเรื่อง ลาภ วาสนา เป็นอย่างยิ่ง.

7. ท่านเชิญ เทวดา ชั้นสูง ให้สถิตในองค์พระ ดูแลรักษาผู้บูชา ให้มีแต่ความสุขความเจริญ.

8. ผู้ที่ได้เจริญธรรม สวดมนต์ ภาวนา อยุ่เสมอ จะยิ่งทำให้พระสมเด็จ ทรงอานุภาพสูงยิ่งขึ้นไปๆ จนกระทั่งเป็น " แก้วจักรพรรดิ์ "

9. ท่านอฐิษฐานธรรม บรรจุวิชชา ของพระพุทธเจ้า บันทึกลงไป เหมือนพระำไตรปิฎกเคลื่อนที่..

ยันต์ ด้านหลังเรียกว่า " พระจันทร์ฉาย " เป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่ มีอานุภาพสูงสุด เรื่อง โชคลาภ วาสนา ส่งเสริมให้คนบูชาร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน บริวาร เจริฐลาภ เจริญยศ ส่งเสริมให้ชีวิตไม่มีวันตกต่ำ ประดุจพระจันทร์วันเพ็ญ ที่ส่องแสงนวลประกาย รุ่งเรืองตลอดเวลา..

หลวงพ่อเป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ ยากจะหาพระเกจิองค์ใดมาเทียบได้..

วัตถุมงคลของท่าน มีผู้ที่ได้รับไปบูชา ล้วนแล้วแต่ร่ำรวยและมีวาสนาดีมากๆ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ไปตามๆกัน ...

สำหรับหลวงปู่ดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า ที่บำเพ็ญพระโพธิญาน บารมีท่านสูงมากๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นต้นครับ..

ขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกต อีกด้วย พระระดับนี้ในเมืองไทยไม่ค่อยเจอนะครับ.

เรื่องเล่าจากหลวงตาวัชรชัย

ครั้งหนึ่ง ตอนบวชได้พรรษา ๒ หลวงตาได้เที่ยวไปพบพระดีเข้าอีกองค์หนึ่งที่จังหวัดเชียงราย คือ หลวงปู่ดาบส สุมโน แห่งสำนักไผ่มรกต ที่กล้าเรียกท่านว่าพระดี ก็เพราะว่าท่านดีต่อหลวงตา และได้มอบความดีให้หลวงตาประมาณไม่ได้และความดีศรีสุขอันนั้นมันเกี่ยวกับ หลวงพ่อฤๅษี ฯ โดยตรงเสียด้วย

ครั้งแรกที่ไปกราบหลวงปู่ดาบส ท่านก็ทักถูกใจเราทันทีว่า
"อยู่กับหลวงพ่อฤๅษี ฯ สอนมโนมยิทธิหรือ?"
"ครับผม"
"อภิญญาสมาบัติที่ทรงอยู่ คล่องดีแล้วใช่ไหม?"

ตอนนี้หลวงตาตกใจ เพราะเข้าใจว่าเรื่องอภิญญาสมาบัติเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าตัวเองจะยอมรับว่า "ทำได้คล่อง" จึงตอบไปว่า

"ไม่ใช่ขอรับ ผมยังไม่ได้อภิญญา ผมพยายามทำตามที่หลวงพ่อท่านสอน และแนะนำคนอื่นเท่าที่จะนึกได้"
"นั่นแหละ เขาเรียกว่าอภิญญา พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็ใช้อย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็ทรงใช้อย่างนี้ ใช้แบบวิธีเหมือนกันแต่ความบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน ความมั่นใจไม่เท่ากัน ใจที่บริสุทธิ์มาก มั่นคงมั่นใจมาก ก็ใช้ได้คล่องแคล่วชัดเจนมาก บริสุทธิ์ถึงที่สุด มั่นคง มั่นใจไม่สงสัย ก็ใช้ได้ถึงที่สุด เป็นเรื่องธรรมดา"

หลวงตาเข้าใจ แต่ยังไม่มั่นใจ

แล้วหลวงปู่ดาบสก็มองหน้าหลวงตา พูดเสียงชัดเจนว่า

"ออกจากวัดท่าซุง มาอยู่ด้วยกันไหม มาหาที่สงบซุ่มปฏิบัติธรรมให้สมใจ สมวาสนาบารมี"
"พอสบายจบกิจแล้วจะได้ตั้งสำนักใหม่ สอนพระกรรมฐานให้มีชื่อลือลั่น ไว้ชื่อครูบาอาจารย์ ว่าเรานี่แหละลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ"

"...................................."

หลวงตาตกใจ เจ้าประคุณเอ๋ย ความในใจที่อุตริคิดฝังไว้ก้นบึ้งดวงใจไม่เคยเล่าสู่ใคร ไม่เคยถามไถ่แม้แต่หลวงพ่อฤๅษี ฯ คิดซ่อนเร้นไว้กว่า ๑๐ ปี ถึง ๔ ข้อ บัดนี้ได้ถูกหลวงปู่ดาบสไขออกมาไม่มีเหลือ กำลังใจขณะนั้นได้ตอบท่านไปใน ๒ ข้อแรก (และรับรู้ใน ๒ ประการหลัง ซึ่งจะไม่บอกใครจนวันตาย)

"ไม่เอาครับ หลวงปู่ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่กับหลวงพ่อในวัดท่าซุงตลอดไป"

"ดีแล้ว" ท่านยิ้มยืนยันว่า
"ถูกต้องแล้ว อยู่ที่นั่นไม่ต้องไปที่ไหน"

"เรื่องธุดงค์บางองค์ก็ไม่ต้องธุดงค์หรอก การที่พระสงฆ์ท่านออกธุดงค์กันในที่ต่างๆ ก็เอาคำสอนครูบาอาจารย์ที่น้อมรับเอาไปใส่ใจ แล้วก็ประคองใจอันนั้น ไปหาต้นไม้ หาถ้ำ หาที่วิเวกเหมาะกับจิตใจ เอาเป็นที่บำเพ็ญความเพียรพิจารณาธรรมอันนั้นจนได้มรรคได้ผล แล้วก็ต้องกลับไปอยู่กับผู้คนแทนคุณพระศาสนา แต่ที่วัดท่าซุงนะ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง คือ ต้นหลวงพ่อฤๅษี ฯ ร่มรื่น ร่มเงาเย็นสบาย ผลไม้อริยผลก็ออกดอกเต็มต้น ไปนั่งนอนเดินยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้น อย่าจากไปไหน แล้วก็ประคองมือเอื้อมเด็ดผลไม้ มากินให้หวานชื่นใจด้วยความเคารพ ก็จะบรรลุมรรผลได้ในชีวิตนี้"

ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า

"พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้
จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว"

นี่หลวงตาเล่าให้ฟังตามที่ได้พบเห็นได้ยินมาเฉพาะตัวหลวงตาเอง ท่านใดจะชื่นชมสมใจหรือแหนงหน่าย อึดอัดก็โปรดเป็นไปตามกฎธรรมดา ตามปรารถนาเถิด..

แล้วหลวงตาก็กลับวัด ก่อนลาหลวงปู่กลับ ก็ถ่ายรูปร่วมกับท่านมาภาพหนึ่ง กลับมาถึงก็เล่าให้พี่น้องบรรพชิตและฆราวาสฟังว่า มีหลวงปู่ดาบส แห่งสำนักไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย ท่านพูดถึงพ่อเราอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วท่านก็งามนักหนา ทั้งหน้าตามารยาท ถ้าพ่อเราเป็นพระอาทิตย์เต็มองค์ทรงกลด หลวงปู่ดาบสก็งามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญที่ไม่มีเมฆหมอกมาบดบัง แล้วก็เอารูปของท่านออกมาอวดไปทั่ววัด

ก็อวดมาถึงหลวงพี่วิรัช ท่านก็เอาไปเล่าอวดหลวงพ่อพร้อมรูปใบนั้น พ่อเราฟังไป ดูรูปไป ก็ส่งรูปคืนให้หลวงพี่วิรัช พร้อมกับพูดลอย ๆ ออกมาว่า

"เออ.. ๒๐ ปีแล้วซีนะ"

หลวงพี่วิรัชก็กลับมาบอกคืนหลวงตาว่า คงเป็นเพื่อนหลวงพ่อ ไม่ได้พบกัน ๒๐ ปีกระมัง

พอตอนเย็น ไปทำวัตรเย็นและปฏิบัติกรรมฐาน หลวงพี่อนันต์ เรียกหลวงตาเข้าไปหาแล้วบอกว่า

"หลวงพ่อให้บอกท่านว่า พระเจ้าของรูปนั้นได้อรหันต์มา ๒๐ ปีแล้ว"

จากหนังสือ มรดกพระดี หลวงตา
ราคาเปิดประมูล640 บาท
ราคาปัจจุบัน650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูลอา. - 21 ก.ค. 2567 - 08:30.39
วันปิดประมูล จ. - 22 ก.ค. 2567 - 18:30.42 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ10 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) จ. - 22 ก.ค. 2567 - 17:30.42
กำลังโหลด...
Top