รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร - webpra

ประมูล หมวด:เจ้าคุณวิเชียรโมลี วัดพระบรมธาตุ - หลวงพ่อจุล วัดหงษ์ทอง - หลวงพ่อสว่าง วัดคฤหบดีสงฆ์

รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร

รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง รูปถ่ายหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร
รายละเอียดปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา
ครูธวัชชัย พิลาทอง (การสัมภาษณ์, 2564) นักสะสมพระเครื่อง อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า หลวงพ่อลำใย เจ้าอาวาสวัดท่าพุทรา องค์ปัจจุบัน ท่านเมตตาเล่าเรื่องปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา ที่ท่านเคยเห็นในงานพุทธาภิเษกงานหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ท่านเล่าว่า งานนั้นได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังของยุคนั้น ในแถบภาคกลาง มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลประมาณ 10 กว่ารูป ซึ่งในงานนั้นต่างก็มีพระเกจิที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาอยู่ร่วมกัน ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเหล่าพระเกจิยุคก่อน เมื่อมาเจอกันถ้าไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกันแล้ว ท่านเหล่านั้นก็มักจะลองภูมิและคุณธรรมของกันและกันอยู่เสมอ (ลองวิชาและกำลังจิต) หลวงพ่อลำใยเล่าว่าถ้าใครไม่แน่จริง อาจจะโดนลองวิชาจนถึงขั้นเจ็บไข้ได้ป่วย จนถึงล้มหมอนนอนเสื่อไปเลย แต่หลวงพ่อสว่างท่านเป็นคนที่ไม่ประมาทในชีวิต เพราะท่านย่อมรู้อยู่แล้วว่าภายในงานนี้จะต้องมีการประลองพระเวทย์และอาคมใส่กัน หลวงพ่อสว่างท่านจึงลงอาคมล้อมตัวท่านไว้ก่อนแล้วเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าต้องมาตามแก้ในภายหลัง (หลวงพ่อลำใยเมตตาท่องคาถาให้ฟังด้วย พร้อมกับใช้นิ้วขีดที่พื้นวนรอบตัวให้ดู) และเมื่อเหล่าพระคณาจารย์องค์ต่าง ๆ ลองวิชากันเสร็จแล้ว พอถึงคิวของหลวงพ่อสว่าง หลวงพ่อท่านก็เข้าสมาธิและอธิฐานฤทธิ์ให้ร่างกายท่านลอยขึ้นจากอาสนะที่ท่านนั่งปลุกเสก ต่อหน้าต่อตาของพระคณาจารย์เหล่านั้นให้ตะลึงไปตาม ๆ กัน ซึ่งในงานนั้นทำให้ชื่อเสียงและคุณธรรมของหลวงพ่อสว่างได้เป็นที่รู้จักแก่บรรดาเหล่าพระคณาจารย์เหล่านั้นเป็นอย่างดี เพราะในงานนั้นไม่มีพระคณาจารย์องค์ไหนที่จะสามารถแสดงฤทธิ์ได้อย่างหลวงพ่อสว่างเลยแม้แต่องค์เดียว
ณัฐพล แสงสุด (การสัมภาษณ์, 12 ตุลาคม 2564) เจ้าของร้านพระเครื่อง “พล ทรายทอง” อ.คลองคลุง จ.กำแพงเพชร เล่าเรื่องยันต์หนังหน้าผากเสือ ประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์วิเศษในหนังหน้าผากเสือ ลพ.วิบูลฯ (สว่างศิษย์หลวงพ่อวิบูล อดีตครูสอนพระนักธรรมแห่งวัดท่างิ้ว (วัดท่าตั้วเกา)) ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ สมัยที่ลพ.วิบูลฯ ครองวัดนี้สมัยเดิม ตั้งแต่ พ.ศ.2500 ลงไป (ลพ.วิบูลฯ ครองวัดคฤหบดีสงฆ์-ท่าพุทธา ระหว่างปี 2501 - 1 ก.พ. 2520) ในสมัยก่อนปี 2500 อาจารย์ท่านนี้ได้มอบแผ่นยันต์หนังหน้าผากเสือให้แก่หลานชาย ซึ่งผ่านการเกณฑ์ทหารแล้วและกำลังติดพันสาวสวยประจำหมู่บ้านท่างิ้ว ซึ่งมีคู่แข่งเป็นหนุ่มและ ไม่หนุ่มจำนวนมาก ในบรรดาเหล่านี้มีลูกชายผู้ใหญ่บ้านท่างิ้วรวมอยู่ด้วย วันที่เกิดเรื่องเป็นวันหนึ่งตอนพลบค่ำขณะที่หลานชายอาจารย์ท่านนี้กำลังพูดคุยอยู่กับสาวงาม ที่บ้านของสาวสวย ลูกชายผู้ใหญ่บ้านได้ไปเที่ยวบ้านสายสวยในเวลาเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจกันขึ้น ถึงกับชกต่อยกันพัลวัน ซึ่งลูกผู้ใหญ่บ้านสู้ไม่ได้ เกิดบันดาลโทสะลืมตัว ชักปืนที่เหน็บสะเอวไปด้วยเป็นปืนคอลท์ลูกโม่ กระหน่ำยิงหลานชายอาจารย์ท่านนี้ ในระยะกระชั้นชิดหลายนัด ชนิดยิง " เผาขน " หลายนัดจนหมดลูกโม่ ความจริงแล้วหลานชายอาจารย์ท่านนี้ต้องเน่าแน่ แต่เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ หลานชายอาจารย์ท่านนี้ไม่ได้ถูกกระสุนเลยแม้แต่เพียงเส้นขนแมวไม่ทราบว่าลูกกระสุนละลายหายไปได้อย่างไร เมื่อหายตกตลึง หลานชายอาจารย์ท่านนี้ ชักมีดที่พกไว้ออกมา ทำให้ลูกผู้ใหญ่เผ่นอ้าวชนิดไม่ยอมเหลียวหลัง การที่รอดจากการถูกกระสุนยิงเพราะแผ่นยันต์หนังหน้าผากเสือหลวงพ่อวิบูลฯ แผ่นเดียวที่พกไป
เหรียญปลอดภัย ประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์ คุณลุงชาญ นักสะสมพระเครื่อง ชาว ต.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เล่าว่า เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2535 คุณลุงชานได้มานั่งพบปะกินอาหารกันกับกลุ่มเพื่อนเก่า รุ่นน้อง ในระหว่างที่ดื่มกินกันอยู่ก็ได้มีการสนทนาพูดคุย ถึงเรื่องพระเครื่องต่างๆและต่อมาก็ได้มีการขอดูพระเครื่อง ที่คุณลุงชานได้แขวนไว้ในคอ ซึ่งก็คือเหรียญปลอดภัยบล็อค 2 ของหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา หลังจากนั้นผู้ที่ขอชมพระเครื่องของลุงชาญ จึงได้พูดคุยขอเช่าพระเครื่ององค์นี้ แต่การตกลงพูดคุยซื้อขายนั้น เป็นเรื่องบานปลายใหญ่โตจึงได้มีการชกต่อยกันเกิดขึ้น คู่กรณีจึงได้มีการชักปืนออกมาขู่ ต่อมาดูเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดจะยุติลงเท่านี้ เพราะคุณลุงชานได้ยุติเรื่องราวทั้งหมดโดยการเดินทางกลับไปที่พัก แต่ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ กลุ่มนึงมาตะโกนเรียกลุงชาญให้ออกจากที่พัก และเมื่อคุณลงชาญออกจากที่พัก กลุ่มคนดังกล่าวได้มีการชักปืนออกมายิงคุณลุงชาญ จำนวน 1 นัด เข้าที่หน้าอกซ้ายของลุงชาญ จนรู้สึกเจ็บและล้มลงไป คนกลุ่มนั่นได้หลบหนีไป เพราะเข้าใจว่าลุงชาญได้เสียชีวิตแล้ว ในเวลาต่อมาคุณลุงชาญที่กำลังนอนอยู่กลับฟื้นแต่ยังคงมีสติสมบูรณ์อยู่ จึงได้สำรวจตัวเองว่าได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่า และได้พบว่าเหรียญปลอดภัยมีร่องรอยกระสุนอย่างเห็นได้ชัด และเนื้อหนังที่มีรอยแดงของเหรียญที่กระทบหน้าอกด้านซ้ายจนเป็นเหตุให้ลุงชาญรอดความตายในครั้งนี้ได้อย่างปาฏิหาริย์ (ชาญ ขำรอด, การสัมภาษณ์, 17 ตุลาคม 2564)
คุณไวพจน์ ฤมิตร (การสัมภาษณ์, 11 ตุลาคม 2564) นักธุรกิจชาว ต.วังยาง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้กล่าวว่า ลูกศิษย์ที่เคารพนับถือหลวงพ่อสว่างคล้องเหรียญปลอดภัย บล็อกสอง ปี พ.ศ.2510 เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำแต่คนไม่เป็นไรเลย รถเครื่องไปชนกับรถกระบะแต่ไม่เป็นไรเป็นแค่แผลทะลอกนิดหน่อย แล้วก็คน คล้องเหรียญปลอดภัยนั่งบนเครื่องบินแต่เครื่องบินมีเหตุการณ์ที่เครื่องบินทำท่าจะตก ลูกศิษย์คนนั้นจึงท่องคาถาแคล้วคลาดของหลวงพ่อสว่าง ด้วยอภินิหารของเหรียญปลอดภัยของหลวงพ่อสว่างเลยทำให้เครื่องบินไม่ตก
ดังนั้นจากบทสัมภาษณ์จะเห็นได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อของผู้คนที่มีต่อหลวงพ่อสว่างและวัตถุมงคลของหลวงพ่อสว่างที่จะทำให้วัตถุมงคลที่ทำให้แคล้วคลาดจากปวงภัย มีความคงกระพัน ชาตรี บังเกิดเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ อุดมโชคลาภ แก่กล้าบารมีเป็นที่ครั่นคร้ามแก่ผู้เป็นศัตรูผู้มุ่งร้าย จึงทำให้ต่างอยากได้มาไว้ครอบครอง
ราคาเปิดประมูล300 บาท
ราคาปัจจุบัน300 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ300 บาท
วันเปิดประมูลศ. - 18 ส.ค. 2566 - 12:57.18
วันปิดประมูล ศ. - 18 ส.ค. 2566 - 12:57.23 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 300 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ300 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top