ประมูล หมวด:เครื่องรางของขลัง
ปลัดขิก หลวงพ่อยิด เนื้อไม้ ลงลายมือ
ชื่อพระเครื่อง | ปลัดขิก หลวงพ่อยิด เนื้อไม้ ลงลายมือ |
---|---|
รายละเอียด | ปลัดขิก หลวงพ่อยิด เนื้อไม้ ลงลายมือ พุทธคุณปลัดขิกหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ๑.การค้าขาย ใช้เอาไปทิ่มกับของที่ขาย ไม่นานจะเห็นผลและจะค้าขายดีอย่างเทน้ำเทท่า โดยมีเรื่องเล่าว่า มีพ่อค้าคนจีนทำอัญมณีส่งต่างประเทศ เมื่อส่งของไปแล้วถูกส่งกลับคืนมาอ้างว่าของไม่มีคุณภาพ พ่อค้าท่านนี้กลุ้มใจมาก มีคนนำไปหาหลวงพ่อยิดท่านจึงมอบปลัดขิกและบอกให้นำไปทิ่มที่ของซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ถูกส่งกลับคืน แล้วส่งไปอีกครั้ง ปรากฏว่าต่างประเทศชมมาว่าของชุดนี้ถูกใจมาก ๒.เรื่องแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ตะขาบ แตน ต่อ แมงป่อง เอาไปวนบริเวณที่ถูกกัดต่อยจะหายเป็นปลิดทิ้ง รวมทั้งงูมีพิษจะอ้าปากไม่ขึ้นถ้าเราเหยียบ หรือนอนทับงูจะตาย ทั้งนี้มีเรื่องเล่าว่า พ.อ.อ.ศักดิ์ชัย ทรงโกมล สังกัดกองบิน ๕๓ ประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่าลูกชายของเขาตอนอายุประมาณ ๑๑ ขวบ ถูกต่อหัวเสือ ๓ ตัว ต่อยศีรษะร้องด้วยความเจ็บปวด นึกถึงหลวงพ่อยิด จึงนำปลัดขิกหลวงพ่อยิดขึ้นมาอาราธนาแล้วจิ้มลงไปที่บริเวณโดนต่อย ปรากฏว่าลูกชายหายปวดและหยุดร้องได้ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องเล่าของชาวบ้านในแถบทุ่งน้อยและเขาแดงว่า หลวงพ่อยิดเสกน้ำทะเลจืดได้ จากปากคำของคุณวิเชียร อ่วมอ้อ เล่าว่า เมื่อครั้งหลวงพ่อยิดเป็นฆราวาส คุณวิเชียรยังมีอายุ ๑๗ ปี ตามหลวงพ่อยิดไปออกทะเลจับปลา จึงเตรียมน้ำจืดไปไว้ดื่มแต่ไม่เห็นหลวงพ่อยิดเตรียมน้ำไปด้วย ขณะพักกินข้าวกลางวันเห็นหลวงพ่อยิดเอามือกอบน้ำทะเลดื่ม จึงลองดื่มบ้างปรากฏว่าเค็มบ้วนทิ้งแทบไม่ทัน หลวงพ่อยิดมองแล้วอมยิ้ม จากนั้นท่านจึงเอามือวนในน้ำทะเลเป็นวงกลมแล้วให้คุณวิเชียรเอามือกอบน้ำในวงกลมดื่ม ปรากฏว่าน้ำนั้นไม่เค็มเหมือนน้ำทะเลแต่จืดเหมือนน้ำบ่อ นอกจากนี้แล้วความแตกต่างของหลวงพ่อยิดที่ไม่เหมือนเกจิอาจารย์รูปใด คือท่านสรงน้ำปีละครั้ง ซึ่งสืบเนื่องจากหลวงพ่อยิดเรียนคาถาเลขยันต์จากอาจารย์ของท่าน อาจารย์บอกว่าจะต้องรับสัจจะว่าจะอาบน้ำ (สมัยฆราวาส) ปีละครั้ง ท่านก็รับปากอาจารย์จึงสอนวิชาให้ เมื่อท่านเรียนวิชาจบแล้ว ท่านก็อาบน้ำจนกระทั่งบวชเป็นพระท่านก็สรงน้ำปีละครั้งตลอดมาในเดือน ๔ วันอาทิตย์แรกของข้างแรม หลวงพ่อยิดสรงน้ำปีละครั้งลูกศิษย์และผู้ที่เคารพศรัทธาจะเอาแปรงทองเหลืองขัดตัวท่าน ท่านจะยิ้มเพราะไม่เจ็บไม่ระคายผิวหนังท่านเลย ประวัติหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก "ยิด สีดอกบวบ" เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงพ่อยิด เกิดที่บ้านดอนหัวกรวด ต.นาพันสาม อ.เมือง จ.เพชรบุรี แม้ว่าในใบสุทธิระบุว่าท่านกำเนิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีชวด ตรงกับวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๗ แต่จากปากคำของท่านเล่าว่า ท่านเกิดวันจันทร์ ปีชวด พ.ศ.๒๔๖๐ โยมบิดาชื่อ แก้ว โยมมารดาชื่อ พร้อย มีพี่น้องรวม ๗ คน ท่านเป็นบุตรชายคนที่ ๔ ในวัยเยาว์ โยมบิดา-มารดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับ หลวงพ่อหวล วัดนาพรม ที่มีศักดิ์เป็นน้าของท่าน จนอายุ ๙ ขวบ จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดนาพรม โดยมีหลวงพ่อหวล เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาอักขระสมัย อักขระขอม เลขยันต์ และแพทย์แผนโบราณ ภายหลังหลวงพ่อหวลได้พาไปฝากศึกษาต่อกับ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน พออายุได้ ๑๔ ปี ท่านได้ลาสิกขาบทออกมาช่วยโยมบิดา-มารดาประกอบอาชีพ เพราะครอบครัวย้ายไปประกอบอาชีพที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนั้นครอบครัวของท่านมีความลำบากยากจน ท่านจึงต้องช่วยครอบครัวประกอบอาชีพ และเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดนาพรม โดยมี หลวงพ่ออินทร์ วัดยาง (เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรีในขณะนั้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหวล วัดนาพรม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์พ่วง วัดสำมะโรง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา จนฺทสุวณฺโณ แปลว่า ผู้มีวรรณะดุจพระจันทร์ วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๘ หลวงพ่อยิดเกิดอาพาธปัจจุบันทันด่วนด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก และเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ และมรณภาพลงด้วยอาการสงบในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๘ เวลา ๐๓.๕๐ น. คณะศิษย์นำสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้ว และได้รับพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๐ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ เมรุวัดหนองจอกประวัติหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก "ยิด สีดอกบวบ" เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงพ่อยิด เกิดที่บ้านดอนหัวกรวด ต.นาพันสาม อ.เมือง จ.เพชรบุรี แม้ว่าในใบสุทธิระบุว่าท่านกำเนิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีชวด ตรงกับวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๗ แต่จากปากคำของท่านเล่าว่า ท่านเกิดวันจันทร์ ปีชวด พ.ศ.๒๔๖๐ โยมบิดาชื่อ แก้ว โยมมารดาชื่อ พร้อย มีพี่น้องรวม ๗ คน ท่านเป็นบุตรชายคนที่ ๔ ในวัยเยาว์ โยมบิดา-มารดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับ หลวงพ่อหวล วัดนาพรม ที่มีศักดิ์เป็นน้าของท่าน จนอายุ ๙ ขวบ จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดนาพรม โดยมีหลวงพ่อหวล เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาอักขระสมัย อักขระขอม เลขยันต์ และแพทย์แผนโบราณ ภายหลังหลวงพ่อหวลได้พาไปฝากศึกษาต่อกับ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน พออายุได้ ๑๔ ปี ท่านได้ลาสิกขาบทออกมาช่วยโยมบิดา-มารดาประกอบอาชีพ เพราะครอบครัวย้ายไปประกอบอาชีพที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนั้นครอบครัวของท่านมีความลำบากยากจน ท่านจึงต้องช่วยครอบครัวประกอบอาชีพ และเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดนาพรม โดยมี หลวงพ่ออินทร์ วัดยาง (เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรีในขณะนั้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหวล วัดนาพรม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์พ่วง วัดสำมะโรง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา จนฺทสุวณฺโณ แปลว่า ผู้มีวรรณะดุจพระจันทร์ วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๘ หลวงพ่อยิดเกิดอาพาธปัจจุบันทันด่วนด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก และเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ และมรณภาพลงด้วยอาการสงบในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๘ เวลา ๐๓.๕๐ น. คณะศิษย์นำสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้ว และได้รับพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๐ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ เมรุวัดหนองจอก |
ราคาเปิดประมูล | 680 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 700 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
วันเปิดประมูล | ศ. - 01 มิ.ย. 2555 - 00:31.20 |
วันปิดประมูล | ส. - 02 มิ.ย. 2555 - 16:33.48 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...