ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
2 องค์๑๑๑ ชุบทองคำแท้และทองแดงรมด่าเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินพิธีสมโภชอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินทรงม้าปี
ชื่อพระเครื่อง | 2 องค์๑๑๑ ชุบทองคำแท้และทองแดงรมด่าเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินพิธีสมโภชอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินทรงม้าปี |
---|---|
รายละเอียด | 2 องค์๑๑๑ ชุบทองคำแท้และทองแดงรมด่าเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินพิธีสมโภชอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินทรงม้าปี2530 วงเวียนใหญ่ทหารบกจัดสร้างพิธีใหญ่และเดินสายปลุกเสกตามวัดเขตธนบุรีที่มีประวัติศาสตร์ของวัดกับพ่อตากสิน สุดท้ายหลงในกุฎิพระอาจารย์ทัตวัดมะพร้าวเตี้ยแขวงบางแวกเสกเดี่ยวตลอด20กว่าปีค้นพบไม่มากนักสายตรงชอบสะสมพระสวยพิธีดีๆเชิญครับเปิดให้ไม่แพงแบ่งกันไปช่วยๆทำบุญครับ พระอาจารย์ทัตอายุ70พรรษา49ท่านเป็นเกจิผู้มีญาณบารมีเข้มแข็งสามารถทำนายอนาคตได้รู้ล่วงหน้าหลายเหตูการณ์ประวัติของท่านน่าสนใจมากสมัยเป็นพระหนุ่มปี25สิบกว่าท่านเป็นสหายธรรมของหลวงพ่อทองอยู่วัดหนองพะวงสมัยนั้นดังพอๆกับหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลีและอายูเท่ากันและเสียปีเดียวกันฃี่งหลวงพ่อทองอยู่ชอบมาค้างอยู่กุฎิอาจารย์ทัตสมัยเป็นผู้ช่วยวัดชัยฉิมพลีขนาดแข่งกันปลุกเสกพระจนหลวงพ่อทองอยู่ยอมแพ้นั่งสู้ไม่ไหว พระอาจารย์ทัตมีลักษณะพิเศษคือมีขนออกทางหูทั้งสองข้างเหมือนเทพเจ้าหงอคงเห้งเจียนั้นเอง พระอาจารย์ทัตท่านเป็นที่นับหน้าถือตาโดยทัวไปของพระวัดเขตฝั่งธนทั้งหลายทั้งพระสายวัดปากน้ำด้วย เป็นศิษย์พี่ของอาจารย์เจตต์วัดนกและอาจารย์ลพวัดชัยฉิมพลีเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อปุ๊วัดวิศิษฐ์บุญญาวาส ท่านเป็นผู้อยู่เบี้องหลังจัดสร้างพระหลวงปู่ทวดวัดเมืองยะลาหลายๆรุ่นให้รอบสิบกว่าปีที่ผ่านมาและพระวัดสายวัดช้างไห้แท้ๆส่วนมากจะรู้จักท่านดีโดยเฉพาะวัดเอี่ยมวรนุชบางลำภู พระวัดเมืองยะลาที่ท่านร่วมปลุกเสกให้นั้นมีประสพการณ์แคล้วคลาดหลายปีมากเช่นปี 39 41 43 47 48 แต่ท่านไม่เคยบอกใครหากพระรุ่นไหนมีพ่อท่านฉิ้นและอาจารย์ทัตปลุกด้วยกันรับรองผลเรื่องคงกระพันทีเดียวท่านบอกผมว่าพระองค์ใดท่านปลุกให้รับรองไม่ตายโหง ในเรื่องญาณรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าผมได้รับทราบด้วยตนเองหลายครั้งหลายเรื่องจารนัยไม่หมดมันยาวเล่าแล้วจะขนลุก สรุปบอกท่านว่าพระองค์นี้เสกมาดีมากจับพระแล้วพลังเมตตามหานิยมบวกแคล้วคลาดใช้ได้ดีครับขนาดมาตรฐานพร้อมแขวนคอสวยมากๆเปิดให้ไม่แพง สำหรับสายตรงได้มาจากอาจารย์ไม่มากช้าหมดอดได้ครับที่สำคัญผมเช่าพระบูชาพิธีนี้ฝันถีงท่านได้โชคลาภถูก3ตัวมา1ใบและได้กำไรจากงานพิเศษเข้ามาเองหมื่นหกนิ่มๆไม่คาดฝ้นลองดูลาภกำลังรอคุณอยู่ก็ได้ครับ เมื่อ พ.ศ. 2500 อาตมา (หลวงพ่อ-ฤาษีลิงดำ) ป่วยหนัก ไปนอนพักรักษาตัวที่กรมแพทย์ทหารเรือ (ปัจจุบัน – โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า) ไปนอนอยู่ที่ตึก 1 เป็นห้องพิเศษ เวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษๆ ไฟฟ้าในห้องยังไม่ดับและประตูก็ใส่กลอนแล้ว ถึงเวลานอน นอนคนเดียวยังไม่หลับ ปรากฎว่ามีคนๆหนึ่งมายืนอยู่ข้างเตียง เป็นชายลักษณะเป็นคนล่ำๆ ท่าทางแข็งแรงทะมัดทะแมงปราดเปรียวมาก เป็นคนผิวขาว หน้าค่อนข้างจะสี่เหลี่ยมนิดๆ แต่มีเนื้อเต็ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวเหนือเข่านิดหนึ่ง ใส่เสื้อแขนสั้นสีขาวเหนือศอกหน่อย ก่อนที่อาตมาจะเห็นท่านผู้นี้ ก็เพราะขณะที่ไปนอนป่วยอยุ่ที่นั่นก็มีความรู้สึกว่า บรรดาผีทั้งหลายอาจจะแกล้งได้ง่าย เนื่องจากกำลังใจของคนป่วยความเข้มแข็งน้อย ก็นึกว่าในที่นี้เป็นเขตพระราชฐานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงขอพึ่งบารมีท่านให้คุ้มครอง พอท่านมายืนก็มองเห็นไม่ต้องหลับตาไม่ต้องเข้าฌาน ในเมื่อผีจะแสดงตัวให้ปรากฎ แต่ความกลัวไม่มีเพราะเรื่องนี้ชินมาตั้งแต่บวชพรรษาที่ 1 ก็เลยถามท่านว่า “ท่านเป็นใคร” ท่านผู้นั้นก็ถามว่า “เมื่อกี้ท่านนึกถึงใคร” ก็ตอบท่านว่า “นึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ท่านก็บอกว่า “ผมนี่แหละ พระเจ้าตากสินมหาราช” ก็เลยมองไปมองมา ดูลักษณะการแต่งตัวของท่าน ท่านถามว่า “มองอะไร” ก็บอกว่า “มองดูลักษณะพระเจ้าตากสินมหาราช” ท่านถามว่า “เชื่อหรือยังว่าเป็นพระเจ้าตากสินมหาราช” ตอบว่า”ยังไม่เชื่อ ที่มองเพราะยังไม่เชื่อ” ท่านถามว่า “ไม่เชื่อตรงไหน” ก็บอกว่า “ไม่เชื่อตรงกางเกงกับเสื้อเพราะพระมหากษัตริย์ไม่น่าจะนุ่งแบบนี้” ท่านถามว่า “กษัตริย์ต้องทรงเครื่องกษัตริย์นอนเชียวหรือ นี่มัน 4 ทุ่มกว่าแล้วนะ” ก็บอกว่า “จะรู้ได้อย่างไรในเมื่อเป็นกษัตริย์ เวลาเป็นผีมาแสดงตนให้ปรากฎ ก็ต้องใช้เครื่องทรงแบบกษัตริย์” ท่านบอกว่า “ใช้เครื่องทรงกษัตริย์ก็ได้” พอพูดจบเครื่องทรงก็เป็นกษัตริย์ ท่านถามว่า “เชื่อหรือยัง “ ตอบว่า “ตอนนี้เชื่อแล้ว” ต่อมาก็คุยกันตั้งแต่ 4 ทุ่มเศษๆ ถึงตี 5 ครึ่ง คุยกันเรื่องในอดีต ความเป็นมาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่เป็นเด็กชายสินไว้หางเปีย จนกระทั้งถึงขั้นวางแผนให้รัชกาลที่ 1 เป็นพระมหากษัตริย์ เป็นการยืนยันว่าพระองค์ไม่ได้ถูกรัชกาลที่ 1 ประหารชีวิต เมื่อรัชกาลที่ 1 ขึ้นเถลิงราชสมบัติแล้ว ก็นำสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านบวชเป็นพระแล้วนั่งคานหามไปส่งออกทางปากท่อ ตอนกลางคืน ไปส่งที่ถ้ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช ลูกชายของท่านมีสองคน คนพี่ให้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชจะได้บำรุงพ่อ คนน้องก็ให้ทุนเป็นพ่อค้าสำเภา เป็นการหาทรัพย์สินเข้าเมือง เป็นการยืนยันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะสวรรคตเป็นพระสงฆ์ ไม่ได้ถูกฆ่าตาย พระองค์สวรรคตที่นครศรีธรรมราช ถ้ำที่ท่านพักก็ยังอยู่ กุฎิหลังนั้นเขาทำเลียนแบบไว้ แต่ความจริงกุฎิที่อยู่จริงๆ ดีกว่านั้น เขาทำให้มีความผาสุก กว่านั้น ออกจากถ้ำท่านก็มีที่พัก มีห้องพักแบบสบายๆ ความจริงท่านไม่ได้สั่ง แต่ลูกชายเป็นคนสร้างให้ ท่านอยู่ด้วยความสงบ คนที่เป็นกษัตริย์มาแล้ว เป็นทุกอย่างมาแล้ว มันก็หมดความโลภ ความโกรธ ความหลง และก็เป็นคนแก่ด้วย ก็หมดความรัก ฉะนั้นการปฏิบัติธรรมของท่านก็เป็นไปด้วยความเคร่งครัด แต่ไม่ได้เคร่งเครียด คำว่า “เคร่งครัด” คือ “ปฎิบัติตรงไปตรงมา ในมัชฌิมาปฎิปทา” ก่อนท่านจะลากลับ อาตมาถามว่า “ขอหวยสัก 2 ตัวได้ไหม” ท่านบอกว่า “สมัยผมมีแต่หวยจัยยี่กี หวยแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว แบบนี้ไม่มี เรื่องหวยนี่ผมไม่รู้หรอก แต่เวลานี้ผมมีสตางค์ติดกระเป๋ามาเพียง แค่ 25 สตางค์ ผมขอถวายหมด” พูดแล้วท่านก็หยิบเหรียญโยนไปใต้เตียงเห็นเลข 25 ใสแจ๋ว พอตอนเช้าบรรดาพยาบาล และนายทหารประจำตึกมาถามว่า “เมื่อคืนมีอะไรบ้างครับ” ก็เลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาเยี่ยม ขอหวยท่าน ท่านบอกว่าไม่มี มีแต่เงินเหรียญ 25 สตางค์ แล้วท่านก็โยนเหรียญไปใต้เตียง ปรากฎว่าภายในวันนั้นข่าวกระจายไปทั่วกรมอู่ ทุกคนเล่นเลยท้าย 2 ตัว ถูกกันมาก ต่อมาวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2533 วันนั้น พ.อ.สถาพร ได้นำดาบเล่มหนึ่งมาจากเมืองตาก เขาบอกว่าเป็นดาบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อมาให้เจ้ากรมการสัตว์หหารบกที่จังหวัดนครปฐม คืนนั้นก็นำดาบตั้งไว้ที่มีเครื่องสักการะ พอตอนดึกเวลาประมาณสัก 6 ทุ่ม เวลาจะนอน ก็ทำจิตเป็นสมาธิตามปกติของพระ ก็เห็นภาพสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ สวยงามมากมาที่ดาบ ถามท่านว่า “มาทำไม” ท่านบอกว่า”ก็เขาว่าดาบของผมนี่ครับ ผมก็มาทำให้มันหน่อย” ถามว่า ทำแล้วจะมีประโยชน์อะไรบ้าง” ท่านก็บอกว่า “ประโยชน์มี” หลังจากนั้นก็คุยกันถามว่า “เวลานี้ลาจากพุทธภูมิหรือยัง” ท่านบอกว่า “ยังไม่ได้ลา” จึงถามว่า “ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ หรือ “ ท่านบอกว่า “เวลานี้พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มรอคิวกันยาวเหยียด ผมก็อยากจะลาพุทธภูมเหมือนกัน แต่ก็ไม่แนใจว่าถ้าลาแล้วจะมีผลเป็นประการใด” ก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นไปคุยกับพระกันดีกว่า ไปด้วยกันไหม” ท่านบอกว่า “ไปซิ ที่มานี่ก็จะมาชวนไปหาพระด้วยกัน” เมื่อไปถึงกราบท่านแล้วก็ถามว่า เวลานี้เทวดาสิน เป็นพระโพธิสัตว์ อยากจะทราบว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไร หลังจากพระศรีอาริย์ไปแล้ว” พระท่านก็บอกว่า”จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 30 หลังพระศรีอาริย์นิพพานแล้ว” ก็เล่นเอาเทวดาสิน ต้องไปนั่งยิ้มที่ชั้นดุสิตอีกถึง 30 พระพุทธเจ้า ก็เลยถามพระว่า “ถ้าเทวดาสินจะลาจากพุทธภูมิ เมื่อไรจะไปนิพพาน” ท่านบอกว่า “เทวดาสินนี่ ถ้าหากลาจากพุทธภูมิเป็นสาวกภูมิ กำลังเต็มมานานแล้ว ก็เหลือแต่ เอหิภิกขุ เท่านั้นก็พอแล้ว ถ้าตรัสว่า เอหิภิกขุ เทวดาสินก็เป็นพระสมบูรณ์แบบ” ท่านก็เลยเข้าไปกราบพระ พระท่านก็บอกว่า “เอหิภิกขุ เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด” เพียงเท่านี้ เทวดา สินก็กลับสภาพจากเทวดา เป็นวิสุทธิเทพ นี่เป็นเรื่องของนิมิตลืมตา ไม่ใช่นิมิตหลับตา ไม่ได้เข้าฌานสมาบัติ ถ้าถามว่า “ถ้าไม่เข้าฌานสมาบัติ แล้วรู้ได้อย่างไร” ก็บอกว่า “ท่านแสดงภาพให้รู้ มันก็รู้ด้วยกันทุกคนแหละ ไม่ว่าใคร “คนที่เห็นผีเข้าฌานหรือเปล่า เดินไปแล้วก็ถูกผีหลอก ต้องเข้าฌานหรือเปล่า สภาพนี้ก็เหมือนกัน ผีไม่ได้หลอกแต่ว่าผีมาชวนคุย ผีมาบอกตามความเป็นจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าฌานสมาบัติ.." จากหนังสือ..... ตายไม่สูญ ... แล้วไปไหน โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี HH 2684 85 89 90 1 เก็บเป็นชุดประหยัดค่าส่ง FF 101 2919 2918 2905 06 1 20 21 07 08 2 22 23 09 10 3 24 25 11 12 4 II 3061 62 57 58 1 61//64 2 3089//92 9 3088//88 8 dsc |
ราคาเปิดประมูล | 290 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 300 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 10 บาท |
วันเปิดประมูล | อ. - 28 ก.พ. 2555 - 15:26.23 |
วันปิดประมูล | พฤ. - 01 มี.ค. 2555 - 00:03.27 |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...