"รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว... - webpra

ประมูล หมวด:หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

"รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว...

"รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว... "รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว... "รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว... "รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว... "รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว...
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง "รับวันวาเลนไทน์" อาร์มเล็กลงยาสีเขียว ที่ระลึกในการสร้างพระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร แปดริ้ว...
รายละเอียดวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมมีชื่อว่า “วัดหงส์” มีหลักฐานว่า สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยมีประวัติ ที่เล่าสืบทอดกันมายาวนานมาก ครั้งแล้วกาลเวลาก็ผ่านไปอีก แม่น้ำบางปะกงไหลกัดเซาะตลิ่งพังลงมาวัดหงส์จึงหมดไป จึงมีการสร้างวัดขึ้นใหม่
วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวแปดริ้วและคนต่างบ้านต่างเมืองมาแต่ อดีตกาล ตั้งอยู่บนถนนสายมรุพงษ์ ห่างจากตลาดกลางเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร
วัดนี้แต่เดิมเป็นวัดราษฎร์ สร้างขึ้นตอนปลายของกรุงศรีอยุธยา ตามประวัตินั้น แต่แรกมีชื่อว่า "วัดหงส์" เพราะมี "เสาหงส์" อยู่ในวัด เป็นเสาสูงมียอดเป็นตัวหงส์อยู่บนปลายเสา ต่อมาหงส์บนยอดเสาหักตกลงมาเหลือแต่เสา และมีผู้เอาธงขึ้นไปแขวนแทน จึงได้ชื่อว่า "วัดเสาธง" ครั้นเมื่อเสาธงหักเป็นสองท่อน จึงเรียกชื่อใหม่ว่า "วัดเสาธงทอน" ส่วนชื่อ "วัดโสธร" อันมีความหมายว่า "บริสุทธิ์" และ "ศักดิ์สิทธิ์" นั้น เรียกตามพระนามของพระพุทธโสธรหรือหลวงพ่อโสธรซึ่งได้มาประดิษฐานในวัดนี้
ในภายหลังวัดโสธรได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร มีนามว่า "วัดโสธรวรารามวรวิหาร" เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2501
ความจริงวัดโสธรแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีใดก็ไม่มีหลักฐานที่แน่นอนเพียงแต่ทราบว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เท่านั้นเอง แล้วก็สร้างในสมัยเดียวกับหลวงพ่อบ้านแหลมที่แม่กลองหรือสมุทรสงคราม ที่มีผู้คนบูชากราบไหว้ เพราะความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน
ประวัติพระอุโบสถหลวงพ่อโสธร หลังใหม่
เนื่องจากพระอุโบสถหลังเก่าของวัดมีสภาพทรุดโทรมและคับแคบ ซึ่งหลวงพ่อพุทธโสธรประทับอยู่ในโบสถ์หลังเก่าที่มีขนาดเล็ก รวมกับพระพุทธรูปอื่นๆ 18 องค์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดแห่งนี้ ทรงมีพระราชปรารภเรื่องความคับแคบของพระอุโบสถเดิม ซึ่งพระจริปุณโญ ด. เจียม กุลละวณิชย์ (หลวงพ่อเจียม) อดีตเจ้าอาวาสจึงได้รวบรวมเงินบริจาคเพื่อจัดซื้อที่ดินสำหรับสร้างพระอุโบสถหลังใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานการสร้าง และทรงเป็นผู้กำกับดูแลงานสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ลักษณะพระอุโบสถหลังใหม่เป็นแบบรัตนโกสินทร์ประยุกต์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 และทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ น้ำหนัก 77 กิโลกรัม ประดิษฐานเหนือยอดมณฑป เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงตัดหวายลูกนิมิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2549 นับเป็นที่ปลื้มปิติของชาวฉะเชิงเทรา อย่างหาที่เปรียบมิได้ ทั้งนี้ทุนทรัพย์ที่ใช้ในการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่นี้ เป็นเงินบริจาคจากประชาชนทั้งหมดไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินแต่ประการใด
การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ เป็นงานที่มีความท้าทายเชิงวิศวกรรมอย่างยิ่ง เนื่องจากตำแหน่งที่ประดิษฐานขององค์พระนั้น เป็นตำแหน่งที่มีความเชื่อว่าเป็นตำแหน่งที่ทำให้บ้านเมืองฉะเชิงเทราเจริญรุ่งเรือง จึงมีข้อจำกัดในการก่อสร้างที่ว่า การก่อสร้างนี้จะต้องไม่มีการ เคลื่อนองค์พระแม้แต่กระเบียดเดียว ทั้งทางราบ และทางดิ่ง (หมายถึงว่าจะยกขึ้นลงก็ไม่ได้) โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์ โดยต้องสร้างอาคารโครงสร้างเหล็กครอบฐานชุกชี ติดตั้งเครื่องระบายอากาศ มีเครื่องวัดความชื้น และติดตั้งเครื่องวัด และควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
ในส่วนของศิลปะภายในพระอุโบสถหลวงพ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดาน จะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาลโดยตำแหน่งของดวงดาวบนเพดาน กำหนดตำแหน่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 ณ เวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ เหนือมณฑปพระอุโบสถ และภาพของจักรวาลบนเพดานจะเป็นภาพเขียน ประดับโมเสกสี จึงเป็นพระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุด
ปัจจุบัน วัดโสธรวราราม วรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 จัดเป็น พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สามารถเข้าสักการะองค์หลวงพ่อโสธรได้ทุกวัน เปิดให้นมัสการวันธรรมดาเวลา 07.00 – 16.15 น. วันหยุดเวลา 08.00 – 16.30 น.
บริเวณวัดโสธรฯ มีบริการร้านค้าจำหน่ายอาหารและสินค้าของที่ระลึกจากจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร โทร. 038-511048, 038-511449
ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีและข้อมูลจากเว็บไซต์จังหวัดฉะเชิงเทรา


เชิญแวะชมรายการอื่นได้ที่...ร้าน"มังกรเทวา"
http://www.web-pra.com/Shop/MungKornTheva
Facebook: มังกรเทวา จตุคามรามเทพ

โทร. 081-492-9393 , 02-359-1519
ราคาเปิดประมูล80 บาท
ราคาปัจจุบัน100 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูลอ. - 14 ก.พ. 2555 - 01:11.47
วันปิดประมูล พ. - 15 ก.พ. 2555 - 08:47.44 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 100 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ20 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
100 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) อ. - 14 ก.พ. 2555 - 08:47.44
กำลังโหลด...
Top