พระผงมหาจักรพรรดิ สูตรหลวงปู่ดู่ พิมพ์พิเศษ สร้างโดย หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) - webpra

ประมูล หมวด:หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก – หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน

พระผงมหาจักรพรรดิ สูตรหลวงปู่ดู่ พิมพ์พิเศษ สร้างโดย หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)

พระผงมหาจักรพรรดิ สูตรหลวงปู่ดู่ พิมพ์พิเศษ สร้างโดย หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) พระผงมหาจักรพรรดิ สูตรหลวงปู่ดู่ พิมพ์พิเศษ สร้างโดย หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) พระผงมหาจักรพรรดิ สูตรหลวงปู่ดู่ พิมพ์พิเศษ สร้างโดย หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระผงมหาจักรพรรดิ สูตรหลวงปู่ดู่ พิมพ์พิเศษ สร้างโดย หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
รายละเอียด***** ค่าบูชา 1,500 บาท *****

### พระธรรมธาตุสายบารมีหลวงปู่ดู่นอกจากเป็นเกล็ดเล็กๆสีขาวแล้ว ยังต้องมีผลึกใสเหมือนแก้วขึ้นปะปนแบบธรรมชาติ จึงจะพอมั่นใจได้ว่านี่คือธรรมธาตุแห่งพระผงมหาจักรพรรดิ องค์นี้สร้างตั้งแต่ปี 2543 ขึ้นพระธรรมธาตุ สภาพเก็บรักษาพร้อมกล่องเดิมครับ ###

--------------------------

บทความ เรื่อง "พระธรรมธาตุแห่งพระผงมหาจักรพรรดิ" (ฉบับย่อ / ตีพิมพ์)
โดย บูชาครู

ผู้เขียนได้นำเอา พระผงมหาจักรพรรดิ พิมพ์พระพรหม (พระเหนือพรหม) ซึ่งเป็นวัตถุมงคล ที่สร้างโดย หลวงตาม้า (พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร) วัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) จังหวัดเชียงใหม่ มาประกอบการเรียบเรียงข้อมูลในครั้งนี้ (องค์ตามที่ลงให้บูชา) เพื่อเป็นเกร็ดความรู้ในแง่มุมของพระเครื่องที่ขึ้นพระธรรมธาตุว่าเป็นอย่างไร ? ศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน ? ก่อนที่จะมองข้ามสุดยอดของดีที่ปรากฏอยู่ในพระเครื่องอีกชั้นอย่างเป็นธรรมชาติที่ไม่ธรรมดาเป็นที่สุด เพราะมิใช่การสร้างขึ้นด้วยเทคนิคตระการตาใดๆ แต่กลับพรั่งพรูเพิ่มพุทธคุณและทรงคุณค่าตามคติทางโลกให้กับพระเครื่องนั้นๆ อย่างที่รู้จักกันในนาม “พระธรรมธาตุแห่งพระผงมหาจักรพรรดิ”

หลายๆ ท่าน คงได้เคยศึกษาภาคสังฆประวัติที่เผยแพร่ไว้ในสื่อต่างๆ ของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พระอริยะเจ้าผู้สั่งสมทศบารมีสายพระโพธิญาณ (พุทธภูมิ) ปรารถนาการเกื้อกูลสรรพสัตว์ที่ยังเวียนว่ายในสังสารวัฏ ที่เราเข้าใจกันโดยทั่วไปว่าหมายถึง “พระโพธิสัตว์” ซึ่งเกี่ยวพันกับเรื่องราวของ สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปและเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในภัทรกัปนี้ ทั้งยังเกี่ยวพันกับบารมีของ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ พระหาโพธิสัตว์ที่จะอุบัติขึ้นเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป นั่นก็คือ พระศรีอริยเมตไตรย อีกด้วย ในส่วนนี้ผู้เขียนขอแค่พอเกริ่นให้ทราบถึงบารมีของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระผู้สร้างตำนานสูตรปฐมพระผงมหาจักรพรรดิ ที่หลวงตาม้า หรือศิษย์สายบารมีอื่นๆ ได้ต่อยอดสร้างทำตามอย่างกันต่อๆ มา อย่างคร่าวๆ เพราะสูตรการสร้างพระผงมหาจักรพรรดิที่เริ่มต้นตั้งแต่ พิมพ์พระเหนือพรหม นี้ล่ะครับ ที่เป็นที่มาแห่งความอัศจรรย์ใจในพระพุทธคุณที่ประสิทธิ์ไว้ในองค์พระอย่างหลากหลายแง่มุม หมายรวมถึงในมุมมองของ “พระธรรมธาตุ” ที่ปรากฏขึ้นในองค์พระที่เป็นทั้ง พระธรรม และเป็นทั้ง พระธาตุ ด้วย

ก่อนปี 2533 หากปรากฏพระธรรมธาตุขึ้นในพระเครื่องสูตรมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่องค์ใด ลูกศิษย์ลูกหาและท่านที่ศรัทธาเป็นได้เสาะแสวงหาเพื่อนำมาบูชาติดตัวเป็นมหามงคลกับตนให้ได้ แม้พระเครื่องผงจักรพรรดิที่ขึ้นธรรมธาตุของหลวงตาม้าก็ยังมีการนำพระเครื่องของหลวงปู่ดู่องค์ที่ไม่ขึ้นพระธรรมธาตุมาขอแลกเปลี่ยนทีเดียวครับ หลวงตาม้า หรือ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร ศิษย์บรรพชิตรูปสำคัญในปัจจุบันของหลวงปู่ดู่ ท่านได้ศึกษากรรมฐาน วิชาความรู้ต่างๆ จากหลวงปู่ดู่มามาก และสำเร็จวิชาเปิดโลกที่หลวงปู่ดู่ได้แนะนำถ่ายทอดไว้ให้แล้ว ทั้งหลวงปู่ดู่ยังได้มอบเหล็กจารของท่านให้กับหลวงตาม้าไว้ใช้เพื่อประโยชน์ต่อไปในภายหน้า จึงไม่น่าแปลกใจอันใดเมื่อหลวงตาม้า ท่านได้นำผงพุทธคุณและเกศาหลวงปู่ดู่ ฯลฯ มาสร้างตามสูตรผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ แล้วปรากฏว่ามีพระธรรมธาตุบังเกิดขึ้นให้เห็นในพระชุดต่างๆ สูตรผงมหาจักรพรรดิ ดังตัวอย่างชุดที่ระลึกในการบูรณะวัดพระธาตุดอยกวางคำ จังหวัดลำพูน ปี 2543 ของหลวงตาม้า ซึ่งมีทั้งพิมพ์พระเหนือพรหมย้อนยุค และพิมพ์พิเศษที่เกิดขึ้นใหม่โดยทางสมาธิธรรมของท่าน ในลักษณะเป็นองค์พระซ้อนเยื้องกันแบบสามมิติ ประกอบด้วย พระพุทธ (สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย) หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่ โดยองค์ที่นำมาลงประกอบการศึกษานี้ เป็นองค์ที่ขึ้นพระธรรมธาตุอย่างชัดเจน 

-------------------------------

"พระผงกรรมฐาน" (พระกำลังจักรพรรดิ)
อ้างอิงเชิงอรรถ : คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยะธโร. ใครจะใหญ่เกินกรรม. พิมพ์ครั้งที่ ๗, ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓.

ในช่วงประมาณ ๓ ปีแรกที่หลวงตามาปฏิบัติธรรมอยู่ถ้ำเมืองนะนั้น ท่านจะจำวัดในโลงศพเสมอ และยังได้ตั้งจิตอธิษฐานเร่งความเพียรปฏิบัติธรรมอยู่แต่ภายในบริเวณถ้ำโดยไม่ออกไปไหน เพื่อหวังจะได้บรรลุนิพพานในชาตินี้ แต่หลังจากที่ท่านเร่งปฏิบัติธรรม พิจารณาทบทวนธรรมะต่างๆ ที่หลวงปู่ดู่ได้ถ่ายทอดไว้ให้แล้ว ท่านก็ได้พบกระแสพลังงานเก่าของตนเอง ว่าท่านเคยปฏิบัติธรรมสร้างบารมี ตามแนวทางพระโพธิสัตว์ เช่นเดียวกับหลวงปู่ดู่ ครูบาอาจารย์ของท่านนับนั้นเป็นต้นมา

ต่อมา เมื่อหลวงปู่ดู่มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๓ ท่านจึงได้ออกจากถ้ำ เพื่อมาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ในปี พ.ศ.๒๕๓๔ โดยหลวงตาได้พิจารณาว่า เมื่อหลวงปู่ไม่อยู่แล้ว ก็ไม่มีใครคอยเป็นหลักในการแผ่เมตตาช่วยเหลือภพภูมิแทนหลวงปู่เลย ในขณะที่ตัวท่านเองเป็นลูกศิษย์ ที่ได้ศึกษากระแสพลังงานเหนือพลัง และความรู้ต่างๆ จากหลวงปู่มาอย่างเต็มภูมิ รวมทั้งได้มาอยู่ที่ถ้ำเมืองนะซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่รวมกระแสพลังงานอันไม่มีประมาณของหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่เอาไว้อีกด้วย ท่านจึงควรจะช่วยทำหน้าที่วางรากฐาน และเผยแพร่แนวทางการปฏิบัติธรรม สร้างบารมี ช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย และสร้างพระเครื่องเพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ต่อไป

ในครั้งแรก หลวงตาไม่มั่นใจนักว่าจะสามารถทำหน้าที่แทนหลวงปู่ได้หรือไม่จึงได้อธิษฐานจิตว่า ถ้าจะให้ท่านทำหน้าที่แทนหลวงปู่ได้ ขอให้หลวงปู่นำของที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่มาให้ภายใน ๓ เดือน ซึ่งหลังจากท่านอธิษฐานได้เพียง ๒ เดือน ก็มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ขึ้นมาที่ถ้ำ และมอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กายของหลวงปู่ชิ้นหนึ่งให้กับท่าน ทั้งที่เขาบูชาของสิ่งนั้นมาในราคาแพงหลักแสน โดยเขากล่าวว่า อยู่กับเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไร อยู่กับหลวงตามีประโยชน์กว่า และหลังจากนั้นก็เริ่มมีคนนำมวลสารของหลวงปู่ดู่มาถวายให้ท่านมากมายหลายอย่าง ท่านจึงได้เริ่มเผยแพร่แนวทางการปฏิบัติธรรมในสายโพธิญาณ แล้วสร้างพระตามแนวทางของหลวงปู่ดู่เรื่อยมา ตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ.๒๕๓๔ จนถึงปัจจุบัน โดยทำเป็นพิมพ์ต่างๆ เช่น พระสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิประทับยืนปางเปิดโลก พระเหนือพรหม พระศรีสยามเทวาธิราช หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ฯลฯ รวมถึงลักษณะปั้นเป็นลูกกลมๆ เรียกว่า ดวงแก้วมณีนพรัตน์

การที่หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าจัดสร้าง หรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า ยังมีบุคคลจำนวนมากที่ขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และเนื่องเพราะศิษย์หรือบุคคลนั้นมีทั้งที่จิตใจใฝ่ธรรมล้วนๆ กับที่ยังต้องพึ่งพิงกับวัตถุมงคลอยู่ หลวงปู่ดู่เคยกล่าวเป็นข้อคิดไว้ว่า “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าที่จะให้ไปติดวัตถุอัปมงคล” เพราะอย่างน้อยก็เป็นการดึงให้ใจอยู่กับพระเครื่อง การได้เห็นพระนับเป็นพุทธานุสติ ใจย่อมเป็นบุญ ซึ่งดีกว่าปล่อยให้ใจไปติดอยู่กับเหล้ายาหรือกิเลสสิ่งไม่ดีอื่นๆ

การสร้างพระของหลวงตานั้น ท่านจะนำมวลสารต่างๆ ของหลวงปู่ดู่มาผสมรวมกับปูนซีเมนต์ขาว และน้ำมนต์จักรพรรดิ จากนั้นจึงนำไปกดพิมพ์ออกมา แล้วนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้วยกระแสพลังเหนือพรหมแห่งพระคาถามหาจักพรรดิ นอกจากนี้ พระเครื่องของหลวงตาทุกองค์ ยังได้ผ่านการอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยวิชาภูตพระพุทธเจ้า จึงทำให้พระเครื่องของท่านสามารถดิ้นได้พูดได้ราวกับมีชีวิต ดังนั้น ผู้ปฏิบัติที่หมั่นนำพระของท่านไปกำสวดมนต์ภาวนาอยู่เสมอ จนจิตสงบเบาสบาย และสามารถจูนพลังงานจิตของตน ให้เข้ากับพลังเหนือพลังอันบริสุทธิ์ที่ท่านได้อธิษฐานไว้ในพระได้ ย่อมสามารถนำพระของท่านมาใช้กำภาวนา ถามตอบแนวทางการปฏิบัติธรรมต่างๆ ได้ ราวกับมีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า มาคอยตอบข้อสงสัยต่างๆ อยู่เบื้องหน้าตนเลยทีเดียว

นับแค่ครั้งแรกที่เริ่มสร้างพระจนถึงปัจจุบันนั้น หลวงตาได้สร้างพระผงกรรมฐานตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ไว้แล้วมากกว่า ๑๐ ล้านองค์ ท่านจะสร้างพระทุกวันพระ ส่วนหนึ่งท่านจะเก็บไว้ในไห แล้วนำไปไว้ตามถ้ำหรือวัดต่างๆ เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาต่อไป และพระอีกส่วนหนึ่งท่านจะนำมาแจกให้ลูกศิษย์นำไปใช้กำสวดมนต์เจริญภาวนากัน โดยท่านสร้างพระผงกรรมฐานนี้ไว้เพื่อแจกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำเพื่อจำหน่าย หลวงตากล่าวว่า พระผงกรรมฐานนี้ ใครอยากได้ต้องมาขอที่ถ้ำ ท่านจะมอบพระที่เลี่ยมพลาสติกแล้วพร้อมประคำให้ ท่านบอกว่าถ้าไม่เลี่ยมให้ เมื่อได้ไปแล้ว ก็มักจะเอาไปวางไว้ ไม่เอามาใช้สวดมนต์ภาวนากัน ส่วนประคำก็ร้อยให้เพื่อจะได้นำพระมาห้อยคอเพื่อใช้ปฏิบัติธรรมได้เลย

พระผงกรรมฐานนี้ สามารถป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ แม้กระทั่งโรคเอดส์โรคไข้หวัดนก รวมไปถึงโรคระบาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้

หลวงปู่ดู่เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าใช้พระเป็น ถึงนิพพานได้เลย”

พระผงกรรมฐานเป็นพระใช้ มิใช่พระเก็บหรือสะสมเอาไว้เฉยๆ ในตู้และไม่มีกำหนดว่ารุ่นใดเป็นรุ่นหนึ่งรุ่นสอง เพราะหลวงตาม้าและศิษย์ที่ได้รับการครอบวิชาให้สามารถสร้างพระตามสูตรนี้ได้นั้น มีการสร้างพระอยู่เรื่อยๆ การเก็บพระผงกรรมฐานเอาไว้เฉยๆ ไม่คล้องคอติดตัว ไม่แช่ถังน้ำในบ้านเพื่อทำน้ำมนต์ไว้กินและอาบ ไม่ใช้เพื่อการปรับภพภูมิช่วยส่งวิญญาณ ถือว่าเสียประโยชน์เปล่า เสมือนกับมีเงินทองแล้วไม่รู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งตนเองและผู้อื่น
ราคาเปิดประมูล1,450 บาท
ราคาปัจจุบัน1,450 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลอ. - 06 ส.ค. 2562 - 22:59.11
วันปิดประมูล ส. - 17 ส.ค. 2562 - 13:39.03 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 1,450 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดก่อนกำหนดโดยผู้ตั้งประมูล
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top