
ประมูล หมวด:เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์ พิมมาลัย วัดหุบมะกล่ำ จ.ราชบุรี เนื้ออัลปาก้า ปี2504


ชื่อพระเครื่อง | เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์ พิมมาลัย วัดหุบมะกล่ำ จ.ราชบุรี เนื้ออัลปาก้า ปี2504 |
---|---|
รายละเอียด | เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์ พิมมาลัย วัดหุบมะกล่ำ เนื้ออัลปาก้า ปี2504 เจ้าตำรับเข็มทอง หายากครับ "หลวงปู่พิมพ์มาลัย แห่งวัดหุบมะกร่ำ" ปรามาจารย์วิชาเข็มทองแห่งสยามยุค รัตนโกสินทร์ วัดหุบมะกร่ำตั้งอยู่บ้านหนองรี ตำบลบ้านเลือก อำเภอ โพธาราม จังหวัดราชบุรีถ้าเราเดินทางจากกรุงเทพฯไปทางถนนเพชรเกษมก็อยู่ราวประมาณ70กว่ากิโลเมตร วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่จะมีมาแต่ครั้งสมัยอยุธยาหรือไม่นั้นยังไม่พบหลักฐาน บรรดาโบราณวัตถุที่ พบก็บอกหลักฐานเพียงว่าสมัยรัตนโกสินทร์แต่วัดนี้นับว่าน่าจะก่อตั้ง้มานานกว่าเพราะพบตำราสรรพวิชาสาขาต่างๆมากมายทั้งที่เป็นภาษาขอมและมอญก็มีให้เห็นและที่มีอายุนานนับร้อยปีก็หลายเล่ม หลวงปู่พิมพ์ ( มาลัย) พื้นเพท่านเป็นคนหนองรีโดยกำเนิด โยมบิดาชื่อว่า พา โยมมารดาชื่อ อ่วมเป็นชาวจังหวัดเพชรบุรีท่านเกิดในสกุล มาลัย ประมาณ พ.ศ.๒๔๔๑ ที่บ้านหนองรีนี่เองเป็นบุตรคนที่๔ในจำนวน๕คน ชิวิตในวัยเยาว์ท่านดำเนินอย่างเรียบง่ายเหมือนชาวชนบททั่วๆ เมื่ออายุครบเกณฑ์ท่านได้เข้าเป็นทหารรับใช้ชาติในหน่วยเสนารักษ์ในจังหวัดราชบุรีและอยู่ต่อเรื่อยมาจนประมาณ๖ปี ก็เกิดเบื่อหน่ายในฆารวาสวิสัย ชะรอยจะเป็นบารมีที่ท่านสร้างสมมาในอดีตจึงมีวาสนากับผ้ากาสาวพัสนิยมในเพศบรรพชิตจึงลาออกจากทหารมาอุปสมบทที่วัดตโหนดหลวง จังหวัดเพชรบุรี โดยมี พระอาจารย์แช่ม วัดบางนาเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ทองศุข อินทโชโต(พระเถระรูปนี้ท่านก็เป็นผู้ทรงวิทยาคมที่ยิ่งยงมากท่านหนึ่ง) เป็นพระกรรมวาจา เมื่ออุปสมบทแล้วพระอุปัชฌาย์ให้ฉายาว่า มาลโย เมื่อท่านหลวงปู่พิมพ์ซึ่งขณะนั้นเป็นภิกษุใหม่ก็ได้ร่ำเลียนพระวินัยและปริยัติตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนาอย่างคร่ำเคร่งแล้ว ท่านยังได้รับความเมตตาถ่ายทอด วิชาไสยเวทย์จากหลวงปู่ทองศุขซึ่งถือว่าเป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงและบารมีมากรูปหนึ่งในสยามขณะนั้นขนาดมีการร่ำลือว่าผู้ที่มีบุญบารมีสูงยิ่งของประเทศในขณะนั้นยังมาฝากตัวเป็นศิษย์ จนเป็นตำนานเล่าขานกันมาถึงปัจจุบัน อาจเป็นเหตุที่หลวงปู่พิมพ์ท่านมีศักดิ์เป็นหลานสนิทของหลวงปู่ทองศุขวัดตโหนดหลวงโดยที่โยมมารดาของท่านเป็นพี่สาวหลวงปู่ทองศุขจึงทำให้ท่านได้รับความเมตตามากเป็นพิเศษ ท่านหลวงปู่พิมพ์แม้จะมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่ทองศุขท่านก็ไม่ถือดีกลับตั้งมั่นมุ่งมานะฝึกฝนเล่าเรียนสรรพวิชาที่หลวงปู่ทองศุขเมตตาสั่งสอนให้โดยไม่ปิดบังอำพราง ด้วยความวิริยะและบุญบารมีที่ท่านหลวงปู่พิมพ์สั่งสมมาในอดีตไม่นานท่านก็สำเร็จวิชาต่างๆทำได้เข้มขลังจนเป็นที่ไว้วางใจของหลวงปู่ทองศุขขนาดให้หลวงปู่พิมพ์(ซึ่งยังเพิ่งบวชได้ไม่นาน)เป็นอาจารย์สักยันต์ครูหลวงปู่ทองศุข(ตอนท่านก็ยังมีชิวิตอยู่)จนรวบรวมปัจจัยก่อสร้างกุฏิวัดตโหนดหลวงได้ถึงสองหลัง(พ.ศ.๒๔๘๑)นับว่าท่านหลวงปู่พิมพ์เป็นผู้หนึ่งที่สำเร็จวิทยาคมในตำหรับหลวงปู่ทองศุขวัดตโหนดหลวงโดยหลวงปู่ทองศุขเองเป็นผู้ให้ความไว้วางใจ หลังจากที่ท่านได้สำเร็จวิทยาคุณในสายหลวงปู่ทองศุขแล้วท่านยังเป็นผู้ใฝ่การศึกษาก็ขวนขวายหาพระอาจารย์องค์อื่นๆเพื่อร่ำเรียนวิทยาคมต่อไป ในสมัยนั้นมีพระเถระรูปหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรียิ่งยงด้วยวิทยาคมที่แปลกประหลาดหาวิทยาคมสายใดจะเทียบเคียงได้ยาก ด้วยวิทยาคุณที่ประสิทธิให้ศิษย์มีความพิศดารและเป็นลักษณะเฉพาะและเป็นวิชาสูงสุดทางไสยเวทสยามแขนงหนึ่งนั่นคือวิชาฝังเข็มทองนั่นเองพระเกจิอาจารย์รูปนี้ชื่อพระอาจารย์สมพงษ์วัดหนองไม้เหลืองจังหวัดเพชรบุรี ในสมัยนั้นมีผู้มาฝากตัวเรียนวิชาเข็มทองนี้กับพระอาจารย์สมพงษ์กันเป็นจำนวนมากแต่หาผู้ที่สำเร็จยากมากเพราะต้องมีมานะบากบั่นทำจริง ฝึกกันจริงๆจึงจะสำเร็จได้ การฝังเข็มเป็นไสยเวทที่มีมาช้านานและเป็นความเชื่อของคนในสมัยนั้น การฝังเข็มนี่มีหลายตำราว่ากันทั้งเข็มเย็บผ้า เข็มสามกษัตริย์ เข็มสัตตะโลหะ แต่มักเป็นเข็มตายคือฝังแล้วอยู่กับที่แบบฝังตะกรุดกับหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ เมืองโคราช แต่วิชาที่หลวงปู่พิมพ์ที่ท่านเรียนกับพระอาจารย์สมพงษ์นี้พิสดารกว่าครับคือหากทำสำเร็จแล้วเข็มทองคำที่ประจุอาคมเมื่อฝังผ่านชั้นหนังจะแสดงอิทธิคุณเหมือนมีชีวิตพลิกตัวระเบิดเนื้อด้วยอำนาจอาคมไปในส่วนต่างๆของร่างกายผู้ฝังได้โดยไม่เกิดอันตราย เข็มนี้ไปได้ทั่วตัวเว้นตากับหัวใจที่ลงอาคมกรึงไว้อย่างแน่นหนาและเป็นเคล็ดสำคัญที่วิทยาคมสำนักอื่นมิอาจถอดถอนได้เลย เรื่องเข็มที่วิ่งไปได้ทั่วตัวนี่ไม่ใช่เรื่องที่คุยกันเล่นมีหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานโดยการถ่ายพิมพ์เอกเรย์มาแล้วและผู้ที่ฝังเข็มหากถือองค์ภาวนาได้จะสามารถเรียกเข็มทองให้ระเบิดเนื้อไปที่ส่วนใดใดของร่างกายโดยไม่เป็นอันตรายได้เป็นความมหัศจรรย์อย่างเอกอุของวิทยาคมสายนี้ ส่วนอานุภาพของเข็มทองเมื่อแสดงอิทธิฤทธิให้ประจักษ์ขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิเศษขนาดไหนเรียกได้ว่าครอบจักรวาลเลยทีเดียว เมื่อท่านหลวงปู่พิมพ์ได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากพระอาจารย์สมพงษ์แล้วท่านต้องออกธุดงค์เพื่อหาที่สงัดบำเพ็ญจิตให้เกิดอานุภาพจึงจะสำเร็จวิชานี้ได้เพราะวิชานี้ หากพลังจิตไม่เข้มแข็งอย่างเอกอุสุดยอดแล้วจะไม่สามารถทำให้เข็มที่ฝังแสดงอานุภาพได้เลยการฝึกฝนผู้เรียนต้องเพียรภาวนาตามเคล็ดวิชาจนจิต มีกำลังเข้มแข็งจึงจะทำให้เข็มทองที่เสกในน้ำมันงาลอยขึ้นมาได้จึงจะถือว่าสำเร็จและ เข็มที่ประจุอาคมจนสำเร็จแล้วจะมี สภาพเป็นทิพย์เดินหนไปมาเองได้เป็นอัศจรรย์ เล่ามาถึงตรงนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่าจริงทุกคำและพิสูจน์ได้ด้วย หลวงปู่พิมพ์ฝึกฝนวิชาเข็มจนเชี่ยวชาญด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวผลแห่งความพากเพียรของท่าน ขนาดพระอาจารย์สมพงษ์วัดหนองไม้เหลืองผู้ประสิทธิวิชาเข็มทองให้ยังยกย่องท่านว่าทำได้ดีกว่าอาจารย์เสียอีก หลังจากสำเร็จวิชาเข็มทอง ท่านหลวงปู่พิมพ์ได้ธุดงค์เพื่อฝึกฝนจิตให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในดินแดนกระเหรี่ยงถึง๑๗ปีจนพูดภาษากระเหรี่ยงได้เรียกว่านานพอสมควรทีเดียวในระหว่างการเดินธุดงค์ก็คงเหมือนพระรุกขมูลท่านอื่นๆมีเรื่องพิสดารเกิดขึ้นมากมายซึ่งท่านก็มิได้โอ้อวดเพียงเล่าให้หมู่ศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังเพื่อประดับสติปํญญาเท่านั้น คราวหนึ่งท่านธุดงค์ไปบ้านทัพใต้ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีริขันธ์ได้รับอาราธนาจากชาวบ้านท่านได้สร้างวัดขึ้นในเวลาไม่นานโดยการสนับสนุนของโยมฉลอง วุฒิวัฒน์ และนายจุรินทร์ ล่ำซำ คหบดีผู้ใจบุญชาวพระนครและให้ชื่อวัดนั้นว่า วัดมาลัย เพื่อเป็นการรำลึกถึงหลวงปู่พิมพ์จนเท่าทุกวันนี้ ท่านหลวงปู่พิมพ์ธุดงค์เรื่อยมาจนราวพ.ศ.๒๕๐๒โยมมารดาท่านป่วย ท่านจึงขึ้นจากวัดมาลัยเพื่อดูแลโยมมารดาท่านที่บ้านหนองรี ในช่วงนั้นพอดีวัดหุบมะกร่ำ กำลังทรุดโทรมอย่างหนัก ไม่ว่าโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ เสนาสนะและถาวรวัตถุอื่นๆเกือบจะหาชิ้นดีแทบไม่ได้มีหลวงตาแก่ๆชื่อหลวงตาปิ้นองค์เดียวเท่านั้นยิ่งทำอะไรไม่ได้มากคงปล่อยตามยถากรรม ความที่ท่านเป็นเกลอเก่ากับหลวงตาปิ้นและเพื่ออยู่ดูแลโยมมารดาท่านท่านจึงปลงใจบูรณะวัดหุบมะกร่ำแต่นั้นมา การที่ท่านธุดงค์ไปเสียนานช่วงแรกๆจึงยังไม่มีศรัทธาจากชาวบ้านมาช่วยเท่าไรนักทำให้การบูรณะเป็นไปด้วยความยากลำบากท่านก็ไม่ย่อท้อด้วยความเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวจริงจัง เรื่องนี้ศิษย์ที่ทันหลวงปู่จะทราบดีทุกคนแววตาของท่านคมกล้ามากไม่เคยมีใครกล้าสบตาท่านแม้สักคนเดียว ไม่มีเลยจริงๆ ท่านลงมือบูรณะทุกอย่างเองด้วยตัวท่านใครจะช่วยหรือไม่ท่านหาใส่ใจท่านใช้การกระทำเป็นสิ่งพิสูจน์ความจริงใจ ชาวบ้านเมื่อเริ่มเห็นก็ค่อยๆเข้ามาช่วยเหลือคนละไม้คนละมือวัดหุบมะกร่ำจึงค่อยๆฟื้นคืนสภาพเจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ในยามที่ว่างจากการงานโดยเฉพาะวันพระวันโกนท่านก็ไม่ทิ้งกิจพระศาสนาได้เทศน์อบรมญาติโยม ความเคารพบูชา ศรัทธาจากชาวบ้านนับวันยิ่งเพิ่มทวีด้วยคุณธรรมความดีของท่านเป็นที่เห็นประจักษ์ หลวงปู่พิมพ์ท่านครองวัดหุบมะกร่ำประมาณ๑๘ปีตลอดเวลาได้สงเคราะห์ชาวบ้านและสานุศิษย์ด้วยธรรมะและวิทยาคมต่างๆที่ท่านได้ร่ำเรียนมาโดยเฉพาะวิชาเข็มทองจนเป็นที่เลื่องลือทำให้มีผู้หลั่งไหลมายังวัดหุบมะกร่ำอย่างไม่ขาดสายและด้วยปัจจัยที่ญาติโยมเหล่านั้นถวายหลวงปู่พิมท่านได้นำมาบูรระวัดหุบมะกร่ำให้เจริญได้อย่างผิดหูผิดตา เมื่อเข้าวัยชราท่านได้อาพาธเป็นอัมพาตเดินไม่ค่อยสะดวก และล่วงโรยตามอายุขัย ซึ่งเป็นไปตามกฏแห่งสังสารวัฏตามที่พระบรมศาสดาท่านตรัสสอนไว้ดีแล้วว่าเกิด-แก่-เจ็บ-ตายเป็นของธรรมดาโลกท่านได้ละสังขารเมื่อ๑๙ ส.ค.๑๙สิริรวมอายุได้๗๘ปีคงทิ้งไว้แต่คุณความดีและตำนานเข็มทอง สุดยอดตันตระแห่งสยามให้เป็นที่กล่าวขานแก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป ความศักดิ์สิทธิ์แห่งหลวงปู่พิมพ์มาลัยและวิชาเข็มทองนั้นเป็นที่เลื่องลือโจษขานจนไม่สามารถนำมาบันทึกได้หมดในที่นี้ บรรดานักเลงหรือคนสู้คนในสมัยนั้นต่างยอมรับนับถือในอิทธิบารมีความศักดิ์สิทธิ์แห่งวิชาเข็มทองถ้วนทั่วทุกตัวคนเพราะต่างมีประสบการณ์ชนิดฉกาจฉกรรณ์อย่างไม่มีพระเกจิอาจารย์รูปใดจะทำได้เสมอเหมือน ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่พิมพ์เมื่อไม่นานมานี้เคยนำมาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ทีวีสีช่อง๗ในรายการมิติลี้ลับจนเป็นที่ล่ำลือกันทั่วประเทศ ประจักษ์พยานที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์มีมากมายทั้งหลักฐานและตัวบุคคล หากท่านผู้อ่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักหรือได้ยินนามนักนิยมพระเครื่องอาวุโสท่านหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญพระเครื่องในระดับต้นๆของเมืองไทยและยังเป็นผู้รัตตัญญูผ่านครูบาอาจารย์มามากมายมาย ทั้งรอบรู้บรรดาสรรพวิชาอาคมเนื่องจาก รับการถ่ายทอดจากผู้รู้หลายท่าน ก็ยอมรับและสิโรราบในบารมีแห่งหลวงปู่พิมพ์มาลัยอย่างหมดข้อกังขาว่าเอกอุเหนือพระคณาจารย์ใดใด ท่านนักนิยมพระเครื่องผู้นั้นคือท่าน ปรีชา เอี่ยมธรรม นักเขียนและนักนิยมพระเครื่องรุ่นลายครามที่หลายคนจะรู้จักในนาม จ่าเปี๊ยก หรือ อาเปี๊ยก ท่านผู้นี้เคยให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์มิติลี้ลับเรื่องวิชาเข็มทองและยังถ่ายเอกซ์เรย์ปรากฏเข็มทองนับร้อยเล่มวิ่งตามตัว มีภาพหนึ่งที่แปลกมากแม้แต่แพทย์ยังไม่สามารถอธิบายได้คือภาพที่เอกซ์เรย์ได้มีภาพเข็มทองภาพหนึ่งที่ปรากฏแสงวิ่งเป็นสายยาวตลอดแนวกระดูกซึ่งการถ่ายเอกซ์เรย์ปกติจะไม่เป็นเช่นนั้นพร้อมกันนี้ผู้เขียนได้เรียนขออนุญาตอาปรีชานำมาเผยแพร่เป็นประจักษ์พยานยืนยันด้วยครับทั้งนี้มิใช่เป็นการอวดอ้างเพื่อหาอามิสใดใดแต่ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ที่จะให้ความจริงของศาสตร์นี้ได้ประจักษ์กับสายตาโลกมิให้ผู้เบาความที่หลงกล่าวตำหนิศาสตร์เหล่านี้ว่าเป็นของเลือนลอยได้สำนึกยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์และภูมิปํญญาของบรรพชน เรื่องที่นำมาเสนอจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมีตัวตนจริงที่น่าเชื่อถือให้ยืนยันได้ คุณอาปรีชาได้เมตตาเล่าให้ฟังอย่างเลื่อมใสในหลวงปู่พิมพ์ว่าท่านเองสมัยยังหนุ่มๆโดยนิสัยที่เป็นคนสู้คนและผ่านภยันตอันตรายมาบ่อยครั้งจึงต้องแสวงหาบรรดาเครื่องป้องกันตัวจึงแสวงหาพระเครื่องและเข้าหาพระอาจารย์ที่มีวิชาเข้มแข็งแก่กล้าเพื่อหาของดีนั่นเองหลังจากท่านได้รับการฝังเข็มจากหลวงปู่พิมพ์แล้วก็ยังแสวงหาพระอาจารย์เก่งๆอีก คราวหนึ่งท่านไปหาปู่โทน หลำแพร ตาคลี จ. นครสวรรค์ อาจารย์ฆารวาสผู้ทรงอธิจิตมีวิทยาคุณที่เข้มแข็งเพื่อขอให้ท่านฝังเข็มทองในสายของท่านให้ ปู่โทนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็บอกว่าอาจารย์(หมายถึงหลวงปู่พิมพ์)ที่ฝังเข็มทองให้เอ็ง(อาปรีชา)เก่งมากเข็มของข้าสู้ไม่ได้ ข้าไม่สามารถฝังเข็มของข้าได้หรอกถ้าเอ็งจะฝังเข็มของข้าต้องให้อาจารย์เอ็งเอาเข็มของท่านออกก่อนแต่อย่าทำเลยเพราะของท่านประเสริฐอยู่แล้ว…… (บทความจาก ตามรอยตันตระสยาม ตู้ปณ.22 ประดิพัทธ์ กทม10400) ขอขอบคุณข้อมูลจากเวป http://racha.amuletinter.com/ |
ราคาเปิดประมูล | 500 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 1,200 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
วันเปิดประมูล | ส. - 11 ก.ย. 2553 - 05:11.08 |
วันปิดประมูล |
จ. - 11 ต.ค. 2553 - 05:11.08 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
ข้อมูลเพิ่มเติม #1 ส. - 11 ก.ย. 2553 - 05:33.33
-พระเครื่องที่ลงประมูลถ้าท่านใดสนใจโทรมาติดต่อสอบถามเช่าบูชาได้ครับ
-ดูพระเครื่องทั้งหมดของทางร้านได้ที่ http://www.web-pra.com/Shop/Pramuangraj
-ดูพระเครื่องทั้งหมดของทางร้านได้ที่ http://www.web-pra.com/Shop/Pramuangraj
ราคาปัจจุบัน | 1,200 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 100 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
500 บาท | จ. - 13 ก.ย. 2553 - 21:24.56 | |
600 บาท | พฤ. - 16 ก.ย. 2553 - 10:16.22 | |
700 บาท | จ. - 20 ก.ย. 2553 - 13:44.56 | |
800 บาท | จ. - 20 ก.ย. 2553 - 13:47.25 | |
1,000 บาท | ศ. - 08 ต.ค. 2553 - 10:08.23 | |
1,200 บาท | ศ. - 08 ต.ค. 2553 - 10:08.46 |
กำลังโหลด...