ไม่มีรายการ
หลวงปู่บุญหนา ธมฺทินฺโนวัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร• • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
หลวงปู่บุญหนา ธมฺมทินฺโน วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
พระอาจารย์บุญหนา ธมฺมทินฺโน บรรพชาเป็นสามเณร ปฏิบัติอุปัฏฐากครูอาจารย์อยู่ถึง ๑๒ ปี โดยเฉพาะอยู่กับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์ผู้ใหญ่รูปหนึ่งของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร ในช่วงที่ท่านเป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์อ่อนนั้น ท่านเคยไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผืออยู่เสมอ ๆ ท่านเล่าว่า สาเหตุที่ได้บวชเป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์อ่อนนั้น เพราะอาจารย์อ่อนท่านเดินธุดงค์มาพักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้านหนองโดก (ปัจจุบันคือวัดป่าโสตถิผลหรือวัดป่าบ้านหนองโดก) ตอนนั้นท่านบวชเป็นสามเณรแล้ว แต่เป็นฝ่ายมหานิกาย ได้ ๔ พรรษา พักอยู่วัดแจ้ง บ้านหนองโดก เป็นวัดบ้านของท่านเอง และไม่ไกลจากป่าช้าที่พระอาจารย์อ่อนไปพักอยู่นั้นมากนัก ประกอบด้วยตัวท่านเองมีความเลื่อมใสการปฏิบัติอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสให้ท่านสนใจไปฟังการอบรมภาวนาและอุปัฏฐากใกล้ชิกกับพระอาจารย์อ่อนตั้งแต่นั้น ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุตและติดตามพระอาจารย์อ่อนเรื่อยมา ท่านเล่าต่อไปว่า ตอนที่ไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือครั้งแรกก็ไปกับพระอาจารย์อ่อนผู้เป็นพระอาจารย์ของท่าน พร้อมกับสามเณรอีกรูปหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้) และญาติโยม ๔-๕ คน ออกจากวัดผ่าบ้านหนองโดกหลังฉันจังหันเหสร็จประมาณ ๓ โมงเช้า โดยเดินมุ่งหน้าสู่เทือกเขาภูพานที่อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้นหนองโดก ผ่านไปทางบ้านโคกกะโหล่งหรือบ้านคำแหวปัจจุบัน แล้วปีนเขาขึ้นสู่ถ้ำน้ำหยาด อันเป็นที่พักแห่งหนึ่งของคนเดิน คณะของท่านก็เดินตามทางนั้นไปเรื่อย ๆ ใช้เวลานานพอสมควร จึงไปถึงที่พักของคนเดินทางอีกแห่ง ตรงนั้นเป็นลำห้วยเล็ก ๆ อยู่ฟากเขาใกล้บ้านหนองผือ น้ำใสเย็นไหลตลอดแ ชื่อว่าห้วยหมากกล้วย ถึงช่วงนี้พระอาจารย์อ่อนผู้เป็นหัวหน้าจึงพูดขึ้ยอย่างเย็น ๆ ว่า "เอาล่ะ ถึงที่นี่แล้ว ให้พักผ่อนเอาแฮงสาก่อน...." และพระอาจารย์ก็รับผ้าอาบจากสามเณรเอามาพับครึ่งแล้วปูลงบนพลาญ (ลาน) หิน เสร็จแล้วท่านก็นั่งลงขัดสมาธิหลับตา ซึ่งเป็นการพักเหนื่อยตามวิธีของท่าน สำหรับสามเณรพร้อมญาติโยมที่ไปด้วยต่างแยกาย้ายหาที่พักเหนื่อย โดยการหามุมสงบทำสมาธิของแต่ละคนไปตามอัธยาศัย จนตะวันบ่ายคล้อยอากาศเริ่มเย็นสบาย จึงพากันออกจากสมาธิแล้วเตรียมเดินทางต่อไป ท่านเล่าต่อไปอีกว่า ถึงวัดป่าบ้านหนองผือเวลาประมาณบ่าย ๓ โมง พอเข้าไปภายในบริเวณวัดของท่าน รู้สึกว่าร่มรื่นสงบเงียบเหมือนกับไม่มีพระเณร แต่ลานวัดสะอาด เห็นแล้วพลอยทำให้จิตใจท่านสงบเย็นไปด้วย ดูสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในวัดก็จัดเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก เดินไปอีกหน่อยหนึ่ง เห็นพระเณรกำลังทำกิจวัตรกวาดลานวัดด้วยไม้คนตาด ส่วนพระอาจารย์อ่อนพร้อมคณะก็เข้าไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่นที่บนกุฏิท่าน เสร็จแล้วกลับลงมาไปกาที่พักปัดกวาดลานวัด ตักน้ำใช้น้ำฉันจ