พิมพาแต่งงาน ของหลวงพ่อพัฒน์ วัดเเสนเกษม
บทความพระเครื่อง เขียนโดย อินทร์
บทความ : พิมพาแต่งงาน ของหลวงพ่อพัฒน์ วัดเเสนเกษม
จำนวนชม : 435
เขียนเมื่อวันที่ : อ. - 15 พ.ย. 2565 - 07:41.16
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : อ. - 15 พ.ย. 2565 - 07:43.44
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)
" นางพิมพาแต่งงาน " หรือ "พิมพาพระเจ้าแต่งงาน" สัญลักษณ์นี่เป็นของสูงต้องแขวนคอเท่านั้น เพราะสร้างมาจากเจ้าชายสิทธัตถะ ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพา จึงเรียกว่าพิมพาแต่งงาน ในทางลาวเองก็มี พิมพาแต่งงาน ว่ากันว่า เป็นวิชามหาเสน่ห์ชั้นสูงแห่งลุ่มน้ำโขง โดยผู้เรืองวิทยาคมสายสำเร็จลุน นครจำปาสัก ทรงฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม สร้างรักให้สดใสไร้อุปสรรค ส่งเสริมชีวิตคู่ให้ยืนยง
ปองรักใดได้สมหวัง ผูกจิตรัญจวนใจใฝ่ถวิล ทรัพย์สินมั่นคง
สัญลักษณ์พิมพาแต่งงานของท่านก็ได้ทำไว้ที่ซุ้มประตูวัดแสนเกษมทั้งด้านนอกและด้านในด้วยครับ
หลวงพ่อพัฒน์ เขมโก (พระครูวินัยธร) วัดแสนเกษม หนองจอก จังหวัดปทุมธานี ชื่อเสียงของท่านดังมาก โดยเฉพาะในด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม
หลวงพ่อพัฒน์ ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีและมีพลังจิตแก่กล้าองค์หนึ่ง และเป็นที่นับถือของชาวมีนบุรี
ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง และหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโชก
ของที่ท่านทำแจกศิษย์นั้นใช้ดีมากๆ ทางเมตตาและคุ้มภัย ทั้งราหู พิมพา และปลัด
การสร้างพิมพาแต่งงาน ของ ลพ.พัฒน์ ท่านจะทำเองหมดทุกขั้นตอน ตั้งแต่เขียนลบผงอิทธิเจ ตำมวลสาร และกดพิมพ์เองโดยจะกดพิมพ์ตอนที่เกิดสุริยคราสหรือจันทคราสเท่านั้น พอคลายก็หยุด
อิธะเจ หรือ อิทธิเจ เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้วยการทำผงตามคัมภีร์อิธะเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์หลักของระบบไสยศาสตร์ไทยโบราณ อันประกอบด้วยคัมภีร์ปถมัง อิธะเจ ตรีนิสิงเห และมหาราช นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยังปรากฏอยู่ในเสภาขุนช้างขุนแผนตอนพลายงามเรียน วิชาด้วย เนื้อหาของวิชาอิธะเจคือการทำผงด้วยการตั้งตัวตามสูตรบาลีมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นระบบบาลีไวยากรณ์ใหญ่ที่ปัจจุบันได้ล้มเลิกไป อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งตัวด้วย อิทะ อิติ อิติ อัสสา อุทัง อะหัง อัคคัง อะหัง อะหัง อิถัง อัมมะ อัสสา จากนั้นจึงกระทำตามสูตรสนธิโดยอ้างสูตรตามคัมภี์บาลีไวยากรณ์จนสำเร็จเป็น อิธเจตโสทฬฺหํคณฺหาหิถามสา เป็นอันขาดตัวในสูตรสนธิ ผงที่ได้จากการเขียนและลบอักขระตามคัมภีร์อิธะเจ เรียกว่าผงอิธะเจ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะแก่สตรีเพศ ผงอิธะเจ เป็นวิชาไสยศาสตร์ไทยโบราณอย่างหนึ่ง วิธีทำเริ่มต้นจากจัดเครื่องบูชาคำนับครูมีดอกไม้ธูปเทียนอย่างละ ๕ หัวหมู บายศรีปากชาม เครื่องกระยาบวช มีขนมต้มขาว ขนมต้มแดง มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำไท เป็นต้น และเงินบูชาครู จากนั้นผู้กระทำกล่าวคำนมัสการตามตำรา เมื่อสักการบูชาครูเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำผง การทำผงอย่างโบราณคือใช้ดินสอพองปั้นเป็นแท่งขนาดพอจับได้ แล้วบริกรรมเขียนอักขระลงบนกระดานชนวน ขณะที่เขียนอักขระแต่ละตัวให้บังเกิดขึ้น ผู้ทำจะต้องบริกรรมคาถา (เรียกสูตร) ตามที่บังคับไว้ในตำราทุกครั้งไป สำหรับแท่งดินสอที่ใช้เขียนผงนี้บางสำนักอาจระบุส่วนผสมต่างกันไปก็ได้ เช่น อาจผสมไคลโบสถ์ ไคลเสมา ไคลพระศรีมหาโพธิ์ ดินเจ็ดโป่ง เจ็ดป่า ดอกรักซ้อน ยอด
สวาด กาหลง หรือเครื่องหอมอื่น ๆ บางชนิดผสมลงไปในดินสอพองอีกด้วยก็ได้ การทำผงอิธะเจจะอ้างสูตรพระบาลีในคัมภีร์มูลกัจจายนะ ซึ่งเป็นสูตรตามคัมภีร์ไวยากรณ์ใหญ่ซึ่งปัจจุบันหลักสูตรปริยัติธรรมแผนก บาลีได้ยกเลิกไป สูตรมูลกัจจายนะนี้ทางไสยศาสตร์นับถือว่ามีอานุภาพศักดิสิทธิ์มาก ผงอิธะเจดำเนิดตามแนวสูตรดังกล่าว เมื่ออ้างสูตรเขียนและลบจนขาดตัวในสูตรสนธิ กล่าวคือเขียนและบริกรรมคาถาและเสกจนสำเร็จดีแล้ว จึงลบอักขระบนกระดานชนวนออกมา ผงดินสอพองที่ได้จากการเขียนและลบตามสูตรคาถาอาคมในคัมภีร์อิธะเจนี้ เรียกว่า ผงอิธะเจ มีอานุภาพทางเสน่ห์แก่สตรีเพศยิ่งนัก ตามตำรากล่าวว่าหากใส่ลงในอาหารให้หญิงกินย่อมรักชายผู้นั้นจนวันตาย ผงนี้เพียงทิ้งให้ถูกตัวผู้ใด ผู้นั้นก็เกิดงงงวยหลงตามเรามา เป็นที่สุดของวิชาเสน่ห์โบราณ คาถาอิธะเจ ๑๓ ตัวคือ อิธะเจตะโสทัฬหังคัณหาหิถามะสาฯ ผงอิธะเจนี้เมื่อทำสำเร็จแล้วจะต้องผสมเครื่องยาและปั้นเป็นแท่งเก็บไว้
ในเมืองปทุมฯ แล้วพิมพาพระเจ้าแต่งงานของท่านโด่งดังมาก ชนิดที่เรียกว่าขุนแผนของ ลพ.หร่ำ วัดกร่าง ยังสู้ไม่ได้
เรียกว่าถ้าใครยังโสดได้ใช้พิมพาพระเจ้าแต่งงานของท่านแล้วรับรองว่าได้แต่งงานกันทุกคน
จึงเป็นที่ถวิลหาของเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายเป็นอันมาก
แต่เนื่องจากการสร้างยาก ต้องรอกดพิมพ์ในตอนที่เกิดคราส จึงทำให้จำนวนการสร้างในแต่ละรุ่นมีไม่มาก
และการเสกพระของหลวงพ่อพัฒน์ก็แปลก ท่านเสกด้วยความเป็นกลางซึ่งเดี่ยวนี้ไม่ค่อยมีครูบาอาจารย์ไหนเสกแบบนี้
การเสกวัตถุมงคลให้มีความเป็นกลางนี้ หลวงพ่อวิเชียร วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี ได้เคยอธิบายไว้ว่า
วัตถุมงคลทุกอย่างจะมีคุณไม่เหมือนกัน บางอันหนักไปทางแคล้วคลาด บางอันหนักไปทางเมตตา บางอันหนักไปทางคงกระพันชาตรี
แต่คำว่า “ เป็นกลาง ” นั้น คือ จะมีคุณทุกอย่างรวมอยู่ในวัตถุมงคลแล้วแต่จะอธิษฐานใช้
ซึ่งการจะทำวัตถุมงคลให้เป็นกลางได้นั้น จิตของผู้เสกจะต้องทรงอารณ์อยู่ในภาวะของสุญญตา
และต้องทรงอารมณ์นี้เสกต่อเนื่องให้เลยเวลาเที่ยงคืนไปจึงจะสำเร็จ
พระคาถาอาราธนาพิมพา ว่า 3 จบแล้วเป่าลงที่องค์พระ
อิผูกจิตใจรัก ทะชวนชักใจมา คะสมสู่ มะมะแห่งกู อิตถีโยปุริโส ตะรุโณ ชาโต เอหิเมวะสะมาคะมะ
คนจะแต่งงานกัน พอแต่งงานแล้วอยู่กันไม่ได้ ถ้าใช้พิมพาแต่งงานหรือพระมงคลแห่งครอบครัวนี้แล้วก็จะอยู่กันได้เพราะเป็นดวงแต่งงานของเจ้าชายสิทธัตถะและพระนางยโสธราพิมพามาผูกแล้วสร้างเป็นพิมพาแต่งงาน เป็นตำนานที่ใครก็แขวนได้ ผัว - เมีย มีปัญหากันบ่อย ลูกสร้างความเดือดร้อนให้ ครอบครัวไหนที่ไม่มีความสุข แขวนพิมพาแต่งงานหรือพระมงคลแห่งครอบครัวแล้วจะมีความสุข
|