หลวงพ่ออบ อินทวิริโย วัดถ้ำแก้ว จ.เพชรบุรี

#หลวงพ่ออบ อินทวิริโย เป็นชาวบ้านหนองช้างปลัก ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เกิดปีระกา ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ ๙ เดือน ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๒ นามบิดา ผึ่ง กลีบจงกล นามมารดา เพี้ยน กลีบจงกล มีพี่น้องร่วมกัน ๖ คน หลวงพ่ออบเป็นคนหัวปี

........หลวงพ่ออบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ อุโบสถวัดถ้ำแก้ว มีพระอุปฌายย์ คือ หลวงพ่อทิม วัดโคก หลวงพ่อเช้า วัดเวียงคอย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่ออยู่ วัดถ้ำแก้วเป็นพระนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่ออบก็จำพรรษาอยู่วัดถ้ำแก้ว ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธคมกับหลวงพ่ออยู่

ด้วยความพากเพียรเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา จากนั้นจึงเดินออกธุดงค์อยู่ทุกปี ร่ำเรียนวิชากับพระอาจารย์ต่าง ๆ คือ อาจารย์วัดลาดบัวขาว จังหวัดปราจีนบุรี หลวงปู่นาค วัดหัวหิน อาจารย์อยู่ อาจารย์หยอย เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว และปู่แสง(โยมพระอาจารย์หยอดญ)ซึ่งเป็นฆราวาสถือศีบกินเพล ซึ่งเรืองวิทยาคมและมีชื่อเสียงดังมากในจังหวัดเพชรบุรีสมัยนั้น วัตถุมงคลที่ท่านทำนั้น มี ตระกรุด ผ้ายันต์ พระกริ่ง เหรียญมี ๓ รุ่น และพระเนื้องผงอีก 3 พิมพ์ ปรกใบมะขาม ล็อกเกต เป็นต้น

..........หลวงพ่ออบ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เมืองเพชรบุรีที่มีวิทยาคมเก่งกล้าด้านคงกระพันชาตรี

จากประวัติคำบอกเล่ามีว่า...ครั้งหนึ่งมีคนบ้าถือมีดพร้าเข้ามาฟันท่านในวัด เสียงดัง บึกๆ แต่ไม่ระคายผิวท่านเลยแม้แต่น้อย

#ซึ่งสอดคล้องกับที่หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เคยบอกผู้ที่ไปกราบท่านว่า"ถ้าจะเอาเหนียว ต้องไปหาท่านอบ วัดถ้ำแก้ว" หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว พระเถระที่ประพฤติปฏิบัติ ดี ตามพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก

#หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ พระเกจิอาจารย์ผู้ลือนามแห่ง จ.เพชรบุรี ท่านได้กล่าวไว้ว่า

"#หากฉันตายให้ไปหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เขาสามารถแทนฉันได้ " นี่เป็นคำกล่าวยืนยันจากหลวงพ่อแดงท่านได้กล่าวไว้

.......ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่ออบนี้เริ่มหายากแล้วครับ อีกทั้งยังมีประสบการณ์มาให้ได้เล่าสู่กันฟังอีกด้วย ดังนั้น ของดีมักจะมาให้เราเห็นไม่บ่อยนัก ดังนั้นหาพบเจอก็บูชาติดตัวเปนสิริมงคลได้ครับ วัตถุมงคลของท่านดีจริง

#จะเชื่อไหมถ้าหลวงพ่อแดงปรารภประโยคหนึ่งกับคุณจาตุรนต์ สิงหะ ซึ่งเป็นเหลนของท่านว่า

“หลวงพ่ออบวัดถ้ำแก้วเขาขลังไม่ใช่เล่นนะ ต่อไปเขาจะแทนฉัน”

#อาศัยที่หลวงพ่ออบไปกราบเยี่ยมหลวงพ่อแดงบ่อยมาก นับแต่สมัยที่หลวงพ่อแดงยังไม่ระบือชื่อเช่นทุกวันนี้ เชื่อว่าท่านคงเคยพูดคุยแลกเปลี่ยนวิชาขลังกันบ้างล่ะ และหลวงพ่อแดงต้องได้ทดสอบขลังจากหลวงพ่ออบจนเห็นจริง มิฉะนั้นคำกล่าวที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้คงไม่ออกจากปากพระระดับนั้นได้ ถึงขั้นให้ขึ้นแทนแล้วกัน

#เพราะข่าวขลังดังนี้ ส่งผลให้คนศรัทธาหลวงพ่อแดงเริ่มเข้าหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว โดยสมัครใจ ครั้นไปบ่อยก็ได้เห็นอภินิหารในท่านมากครั้ง เรื่องของหลวงพ่อจึงถูกเผยแพร่จากปากต่อปากจนที่สุดก็ออกสื่อตีพิมพ์ในหนังสือพระเครื่องหลายเล่ม

แต่เนื่องจากการมรณภาพของท่าน ที่มี ผู้รู้มั่งไม่รู้มั่งนำไปพูดจาไม่ดี ทำให้หลวงพ่ออบ ท่านเงียบหายไปกับสายลม นั่นคือท่านมรณภาพด้วยการที่ซุงบนรถบรรทุก หล่นลงมาทับร่างของท่านจนถึงแก่มรณะภาพ

.....ทั้งนี้เนื่องมาจากโซ่ที่ใช้รัดซุงดังกล่าวขาด แต่ที่น่าแปลกคือ ก่อนเกิดเหตุนั้น ท่านได้บอกกับคนอื่นที่ต้องไปช่วยงานท่านในการตีตราซุงเหล่านั้นให้หลบออกไป จากบริเวณดังกล่าวให้หมด

รวมทั้งภายหลังที่เกิดเหตุแล้ว เมื่อไปพบร่างท่าน ปรากฏว่า ร่างกายท่านไม่มีเลือดออกเลย ตัวไม่มีแตก ใบหน้าปกติ มีเพียงเลือดเล็กน้อย ที่บริเวณปาก จมูก ท่านเท่านั้น

.........ตอนที่ท่านยังอยู่ท่านได้เคยกล่าวกับศิษย์ผู้ใกล้ชิดท่านหนึ่งว่า "ตอนฉันยังอยู่จะทำอะไรก้รีบทำ" นั้นแสดงให้เหนว่าท่านก็รุ้เวลาของท่านเอง และท่านก็ไม่คิดหนีเวรกรรม และท่านก้ยังกล่าวกับศิษย์ท่านนั้นอีกว่า ถ้าหนีเวรรกรรมในชาตินี้ ชาติหน้าก็ต้องมาชดใช้กันอีก

#วิธีการตายก็เป็นเรื่องธรรมชาติ… ธรรมชาติของกรรมที่เป็นตัวกำหนดทุกสิ่ง ความตายมิใช่ตัวกำหนดคุณธรรม อย่างพระโมคคลัลานะ สาวกผู้มีอิทธิฤทธิ์มากที่สุดรองจากพระพุทธเจ้า ยังถูกโจรตีจนตาย เพราะกรรมเก่าเลยครับ แต่ด้วยชาตินี้ของพระโมคคัลลานะปฏิบัติตนเป็นพระอรหันต์ที่ดี จึงได้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าโดยแท้ครับ ดังนั้นจะตายอย่างไรไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญอยู่ที่ ตอนมีชีวิต ทำดีอะไรฝากไว้บนโลกนี้บ้างครับ อย่างหลวงพ่ออบ ไม่มีแม้ข้อบกพร่องในธรรม มีแต่ช่วยกับช่วย และ เมตตาอย่างมาก และสิ่งที่ท่านฝากไว้คือ ความดีงาม ของขลัง และ ที่ยืนหยัดอยู่ ก็ คือ วัดถ้ำแก้ว ครับ

#ผลที่สุดเมื่อท่านละสังขาร สิ่งที่ได้รับจากโลกนี้สำหรับท่านคือการถูกลืม ลืมเพราะกาลเวลายังพอทำเนา ลืมเพราะจงใจยิ่งร้ายใหญ่ เหตุเพราะการมรณะของท่าน

.......ถึงวันนี้ใครหลายคนจะลืมชื่อ หลวงพ่ออบ อินทวิริโย แต่เครื่องมงคลของท่านไม่เคยลืมภาระที่จะคุ้มครองคนแขวนผู้เลื่อมใส พระของท่านยังทำหน้าที่ต่อจากท่านไปอีกนานแสนนาน และใครหลายคนที่คิดถึงท่าน ท่านก็คงคิดถึงเขาเช่นกัน

------------------------------------------------------------------

จดหมายเหตุพระเกจิ