หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม - webpra

หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม

บทความพระเครื่อง เขียนโดย tae96

tae96
ผู้เขียน
tae96 (162) (-3)
บทความ : หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม
จำนวนชม : 2392
เขียนเมื่อวันที่ : จ. - 12 ต.ค. 2563 - 14:57.43
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : จ. - 12 ต.ค. 2563 - 15:12.02
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

ประวัติพระอธิการใจ ฐิตาจาโร เจ้าอาวาสวัดพระยาญาติ (ปากง่าม)
ฐานะเดิม ชื่อ นายใจ ศิริขำ เกิดวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐
บิดา นายเชื้อ ศิริขำ มารดา นางพริ้ม ศิริขำ
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน ๙ คน
๑.นายบุญชุบ ศิริขำ (เสียชีวิตเมื่ออายุ ๖๘ ปี)
๒.เสียชีวิตแต่เยาว์วัย
๓.นายบุญช่วย ศิริขำ
๔.นางสมจิต ศิริขำ (เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘)
๕.พระอธิการใจ ฐิตาจาโร
๖.นางชิ้น ศิริขำ
๗.เสียชีวิตแต่เยาว์วัย
๘.นายชัชวาลย์ ศิริขำ
๙.นายบุญชู ศิริขำ
การศึกษาเบื้องต้น ชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวัดช่องลม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
อุปสมบท วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ.อุโบสถวัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
พระอุปัชฌาย์ พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
พระกรรมวาจาจารย์ พระครูสมุทรภัทรกิจ (หลวงพ่อทอง) วัดพระยาญาติ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
พระอนุสาวนาจารย์ พระครูสมุทรธีรคุณ (หลวงพ่อมหาพิน) วัดช่องลม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
วิทยฐานะ

พ.ศ.๒๕๑๔ สอบได้นักธรรมตรีสำนักเรียนวัดช่องลม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
พ.ศ.๒๕๑๖ สอบได้นักธรรมโทสำนักเรียนวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
พ.ศ.๒๕๑๗ สอบได้นักธรรมเอกสำนักเรียนวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
งานปกครอง วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๙ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระยาญาติ อ.อัมพวา
จ.สมุทรสงคราม
วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นพระครูวินัยธรฐานานุกรม พระเทพสมุทรโมลี
งานด้านศาสนูปการ
๑.สร้างเมรุปลอดมลพิษแห่งแรกของจังหวัด สมุทรสงคราม ๑ หลัง
๒.สร้างศาลาคู่เมรุ ๑ หลัง
๓.สร้างห้องน้ำ ๑๖ ห้อง ๒ หลัง
๔.บูรณะกุฏิ ๘ หลัง
๕.บูรณะพระอุโบสถ
๖.สร้างศาลาการเปรียญ
๗.ให้ที่ศาสนูปโภค สร้างสะพานคอนกรีตข้างวัดให้ชาวบ้านสัญจร
๘.ลานเอนกประสงค์หน้าวัด
๙.สร้างโรงครัว ๑ หลัง

     หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในธรรมวินัย ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างสมบูรณ์ เอาใจใส่ในกิจการของสงฆ์ มีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน สันโดษ มักน้อย สงบเสงี่ยมเจียมตัวมารยาทอ่อนโยน เป็นที่รักและเครารพนับถือของชาวบ้านอัมพวา และตำบลใกล้เคียง ในวัยเยาว์ท่านเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัวเงียบไม่ยุ่งสุงสิงกับใครไม่ทำให้บิดามารดาของท่านต้องหนักใจครอบครัวของหลวงพ่อใจท่านมีฐานะปานกลางหลวงพ่อท่านเป็นเด็กขยันช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง เงินที่ได้มาก็ให้พ่อแม่หมด จะกินอะไรก็จะให้แม่ทำให้กิน เมื่ออายุ ๒๑ปี ท่านได้ไปรับใช้ชาติโดยการเป็นทหารเรืออยู่สองปีสมกับความเป็นชายชาตรี หลวงพ่อใจท่านเป็นคนกตัญญูต่อบิดามารดามาก ภายหลังจากที่ท่านได้รับการปลดประจำการจากทหาร ท่านก็อยากบวชเพื่อจะได้ทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ ท่านทั้งสองได้ฟังคำกล่าวของหลวงพ่อใจ ท่าน รู้สึกปลื้มปิติ ยินดีมากจึงได้พาหลวงพ่อเข้าพบหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เพื่อที่จะหาฤกษ์อุปสมบท หลวงพ่อเนื่องท่านให้ฤกษ์อุปสมบทมาซึ่งตรงกับวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๑๔ โดยมีพระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสมุทรภัทรกิจ (หลวงพ่อทอง)วัดพระยาญาติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสมุทรธีรคุณ (หลวงพ่อมหาพิน) วัดช่องลม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ.อุโบสถวัดจุฬามณีได้รับฉายาว่า“ฐิตาจาโร”เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้จำพรรษาอยู่ที่ช่องลมหนึ่งพรรษา พรรษาที่สองหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี อุปัชฌาย์ของท่านขอให้ท่านไปจำพรรษาที่วัดจุฬามณีแต่หลวงพ่อทองวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) มาดักรอหน้าวัดจุฬามณีเพื่อให้หลวงพ่อใจมาช่วยงานที่วัดพระยาญาติ (ปากง่าม)

     ซึ่งหลวงพ่อทององค์นี้ท่านเก่งมากไม่ว่าจะด้านการรักษาผู้ที่ป่วยเป็นอัมพฤก อัมพาต และที่ดีที่สุดของหลวงพ่อทองคือ ท่านทำนายทายทัก (ดูดวง) ได้แม่นยำมากคนจากทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะต้องมาให้ท่านทำนายทายทักทั้งสิ้น แต่หลวงพ่อกับไม่สนใจท่านมุ่งแต่ศึกษาพระธรรมวินัยของสงฆ์จนได้นักธรรมชั้นเอก และที่สำคัญที่สุดหลวงพ่อท่านไม่ได้จำวัดในกุฎีเหมือนพระองค์อื่น แต่หลวงพ่อท่านจำวัดอยู่ใต้ถุนพระอุโบสถของวัดพระยาญาติ หลวงพ่อใจท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคร่งครัดในธรรมวินัยสมเป็นพระที่แท้จริง ภายหลังจากที่ท่านได้ศึกษาธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ท่านเป็นห่วงโยมพ่อโยมแม่จึ่งคิดที่จะสึกจากการเป็นพระเพื่อไปช่วยโยมทั้งสองทำมาหากินเนื่องจากโยมทั้งสองอายุมากแล้ว แต่เมื่อไปหาหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีเพื่อที่จะลาสิขาบถทุกครั้งกลับถูกหลวงพ่อเนื่องปฏิเสธทุกครั้งไป จนญาติโยมที่รู้จักกับหลวงพ่อบอกว่าถ้าจะสึก ก็ไปสึกกับหลวงพ่อทองก็ได้ หลวงพ่อใจกับตอบว่า หลวงพ่อเนื่องท่านจุด(บวช)ฉันมา ฉันต้องดับ(สึก)กับหลวงพ่อเนื่องเท่านั้นเพราะฉันบอกกับโยมพ่อโยมแม่ไว้อย่างนั้น ฉันจะมาผิดคำพูดไม่ได้ และในครั้งนั้นเองถือว่าครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งที่ทำให้เกิดพระอริยะสงฆ์ พระเกจิคณาจารย์ องค์สำคัญรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน

หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร ได้เดินทางเข้าพบหลวงพ่อเนื่อง แห่งวัดจุฬามณี หลวงพ่อเนื่องได้กล่าวว่า “โยมพ่อโยมแม่ของท่านใจ ท่านสบายดีอยู่แล้วที่มีลูกชายบวชเรียนรับใช้พระพุทธศาสนา ท่านมีความปลื้ม ปิติยินดีมากอยู่แล้ว ท่านใจอยู่ช่วยฉันรับใช้พระพุทธศาสนาได้ไหมเพราะต่อไปในภายภาคหน้าถ้าสิ้นเราแล้วจะไม่มีใครคอยช่วยเหลือญาติโยมที่เขาเดือดร้อน”ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาทุก ๆ วันในช่วงเวลาตีสองถึงหกโมงเช้า หลวงพ่อเนื่องจะให้หลวงพ่อใจไปหาที่กุฎิทุก ๆ วัน เพื่อที่หลวงพ่อเนื่องจะได้สอนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่ท่านมีไม่ว่าจะเป็นการลงตะกรุดมหาปราบ มหารูด มหาระงับ ตรีนิสิงเห ยันต์โสฬส ยันต์วิรุฬจำบัง ยันต์พัดโบก ทำน้ำมนต์ใบมะนาว การลงเจ็ดเสาร์ เจ็ดอังคาร รวมถึงทำน้ำมนต์ เพื่อไล่สิ่งที่เป็นอัปมงคล ฯลฯ



     จัดได้ว่าหลวงพ่อท่านได้สรรพวิชาจากหลวงพ่อเนื่องจนหมดสิ้นทีเดียว หลังจากที่หลวงพ่อใจท่านได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อเนื่องจนสำเร็จแล้วท่านยังได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่าง ๆจากโยมพ่อใบ คำอึก ซึ่งเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี พ่อใบ คำอึก นี้มีวิชามากมายเหลือแค่จับเถาวัลย์เท่านั้น เถาวัลย์ยังเลื้อยขึ้นมือเองได้จัดว่าท่านเป็นผู้คงแก่เรียน แม้แต่หลวงพ่อเนื่องยังบอกว่า “โยมพ่อใบคนนี้เก่งมาก ๆ รอบรู้ในสรรพวิชาต่าง ๆ ของหลวงพ่อคงอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว” ไม่ว่าจะเป็นพระหรือพวกที่อยากเรียนวิชาเคยมาหาเพื่อให้พ่อใบ คำอึก สอนแต่ท่านกับไม่สอนใครเลย ท่านบอกว่า “ถ้าเราให้ไปเดี๋ยวเขานำไปใช้ในทางที่ผิด เรามันจะตกนรกซะ” แต่กลับแปลกพ่อใบ คำอึก กับให้คนมาตามหลวงพ่อใจให้มาหา และได้สอนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้กับหลวงพ่อ เช่น การกวนสีผึ้ง เพื่อเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม การจับปลายเถาวัลย์ การล้างอาถรรพ์ การแก้คุณไสย การทำน้ำมนต์เดือด และบอกหลวงพ่อว่า “สิ่งที่ฉันให้หลวงพ่อไป หลวงพ่อเอาไว้ช่วยคนนะฉันจะได้ขึ้นสวรรค์กับเขาซักที”

     หลังจากที่หลวงพ่อได้เรียนกับพ่อใบ คำอึก จนสำเร็จ หลวงพ่อเนื่องได้ให้หลวงพ่อไปหาหลวงพ่อหนูวัดภุมรินทร์กุฏีทอง และหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง ท่านทั้งสอง องค์นี้ก็เป็นศิษย์หลวงพ่อคงเช่นกัน หลวงพ่อหนูท่านได้สอนสุดยอดวิชาของท่านให้กับหลวงพ่อใจคือวิชา ดำน้ำลงตะกรุด ซึ่งวิชานี้ปีหนึ่งจะทำได้แค่ครั้งเดียว คือวันเพ็ญเดือน สิบสองเท่านั้น ตะกรุดที่ดำน้ำทำในแต่ละปีจะทำได้ปีละไม่กี่ดอกใครที่มีไว้ครอบครองถ้าอธิษฐานใช้แล้วจะสัมฤทธิ์ผลได้ดั่งใจหวัง พอหลวงพ่อใจท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อหนูจนสำเร็จท่านได้เข้าไปกราบหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง เพื่อศึกษายันต์ครูจากหลวงพ่อปึก ซึ่งหลวงพ่อปึกองค์นี้สามารถตบยันต์ทะลุกระดาษทุกแผ่นได้เลยเหมือนหลวงพ่อปึกท่านจะรู้ท่านบอกกับหลวงพ่อใจว่า “ฉันจะสอนให้ ๓ วัน ถ้าเอาไปได้ก็เอาไป” หลวงพ่อใจท่านอยู่ศึกษายันต์ครูกับหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวงเพียง ๓ วันจริงๆท่านก็เรียนจนสำเร็จดังความตั้งใจ หลังจากนั้น หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ก็ให้คนมาตามหลวงพ่อใจเข้าไปพบ หลวงพ่อหยอดท่านได้สอนหลวงพ่อใจเรียนวิธีหุงสีผึ้ง ทำตะกรุดลูกอม ทำน้ำมนต์ตลิ่งพัง ตามตำราหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และยังได้สอนวิธีการทำพระปิดตาตามตำราของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี หลังจากที่หลวงพ่อใจท่านได้เรียนสรรพวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อหยอดเสร็จ หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำได้ส่งหลวงพ่อใจไปศึกษาการทำตะกรุดกับหลวงพ่อน้อย วัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี พอหลวงพ่อใจท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อน้อยจนเสร็จ ได้ไม่นานหลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำท่านก็เมตตาให้หลวงพ่อมาคอยรับใช้ และยังถ่ายทอดสรรพวิชาที่หลวงพ่อเก๋มีให้หลวงพ่อจนหมด หลวงพ่อใจท่านอยู่กับหลวงพ่อเก๋ได้ไม่นานหลวงพ่อง้อ วัดดาวดึงส์ ท่านขอตัวหลวงพ่อจากหลวงพ่อเก๋ให้มาช่วยงานอยู่กับท่าน หลวงพ่อง้อองค์นี้ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อคงรูปสุดท้าย



     และการที่มาอยู่กับหลวงพ่อง้อในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะทบทวนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่ได้ร่ำเรียนมา รวมถึงการฝึกจิต การปลุกเสกของ ให้เข็มขลังยิ่งขึ้น รวมถึงวิชาบางวิชาที่ยังไม่ได้เรียนหลวงพ่อง้อท่านก็ช่วยสอนให้จนหลวงพ่อใจมีความชำนาญในสรรพวิชาต่าง ๆ อย่างเชี่ยวชาญ หลังจากนั้น หลวงพ่อท่านก็เดินทางกลับเข้าสู่วัดจุฬามณี เพื่ออยู่คอยดูแล และรับใช้หลวงพ่อเนื่อง จนหลวงพ่อเนื่องมรณภาพลง หลวงพ่อใจท่านก็กลับสู่วัดพระยาญาติ (ปากง่าม) และในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ หลวงพ่อทองท่านได้มรณภาพลง ท่านก็ได้รับการสนับสนุนจาก ชาวบ้านวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) และคณะสงฆ์ยกย่องท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ ด้วยวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อใจท่านเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน ต่างก็พากันมาช่วยเป็นกำลังในการบูรณปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามจนเจริญรุ่งเรือง เป็นลำดับ นอกจากจะพัฒนาวัดแล้วท่านยังได้ช่วยสงเคราะห์ญาติโยม ไม่ว่าจะเป็นอะไรมาหลวงพ่อใจท่านก็จะช่วย ที่ว่าหนักก็คลาย ที่ว่าเบาก็หาย วัยรุ่น ตำรวจ ทหาร พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ ต่างพากันมาหาหลวงพ่อบางคนมาขอตะกรุด เพื่อปกป้องคุ้มครองตัว ค้าขายให้มีกำไร บางคนก็มาขอใบมะนาว เพื่อรักษาโรคมะเร็ง และโรคที่รักษาไม่ได้ บางคนก็มาให้พ่นรักษาโรคสะเก็ดเงิน สะเก็ดทอง เริม งูสวัด ไฟรามทุ่ง ฯลฯ บางคนก็มาขอโชคลาภ เพราะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อเป็นพระที่มีความเมตตาสูง เป็นผู้ให้จริง ๆ ใครขออะไรถ้าเป็นของหลวงพ่อก็จะให้โดยที่ไม่นึกเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว จตุปัจจัยต่างๆที่หลวงพ่อได้มาท่านจะแจกเด็ก ๆ ในวัดซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นลูกคนยากคนจน เป็นเด็กกำพร้า ไม่ใช่แต่พวกเด็กๆ แม้แต่คนยาก คนจน ที่ไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้ามาขอหลวงพ่อ ๆ ก็ให้

     หลวงพ่อใจบอกว่าเขาเดือดร้อนมา เราช่วยได้ เราก็ช่วย หลวงพ่อใจท่านเป็นพระ พระจริงๆ หลวงพ่อใจท่านพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกได้ยากทุกคนไม่เลือกชั้นวรรณะไม่ว่าจะรวยหรือจน ท่านพร้อมที่จะช่วยลูกศิษย์ของท่านตลอดเวลา ท่านเป็นพระรูปเดียวของอัมพวา ของแม่กลอง ของจังหวัดสมุทรสงครามที่มีแต่ให้ ให้ กับให้ มีลูกศิษย์ของท่านกล่าวไว้ว่า “พระองค์นี้คือพ่อ พ่อผู้มีแต่ให้ พ่อผู้มีแต่ช่วย พ่อผู้ไม่ยึดติด พ่อผู้ไม่ยอมให้ลูกตกอับ พ่อผู้ช่วยให้ลูกถึงฝั่ง พ่อผู้สอนให้ลูกเป็นคนดี” คำกล่าวข้างต้นเหมาะมากสำหรับ หลวงพ่อใจ แห่งวัดพระยาญาติ (ปากง่าม) พระซึ่งเปรียบเสมือนเทพเจ้า แห่งลุ่มน้ำแม่กลองยุคปัจจุบันโดยแท้จริง พระผู้ควรเทิดทูนไว้เหนือหัวตลอดเวลา คุณงามความดีของท่านฝังอยู่ในหัวของพวกเราเหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อทุกคนอย่างไม่ลืมเลือน

Top