เหรียญพระพิฆเนศ รุ่น ครุถาปัตย์ ฯ

ครับ  สวัสดีเพื่อน ๆ  ชาวเว็ปพระนะครับ   ห่างหายกันไปนานกับเรื่องราวดี ๆ   ที่อยากมาบอกต่อกัน    

วันนี้ผมขออนุญาตเล่าเรื่องของคำว่า   " แรงอธิษฐาน "  

                   เพื่อน ๆ เคยได้ยินได้ฟังกันไหมครับ    ฟังไม่ผิดครับแรงอธิษฐานจริง ๆ    เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวี่เกิดขึ้นกับตัวผมเองและเพื่อน ๆ ในรุ่น ฯ   ซึ่งเรามีเจตนาตั้งใจจะสร้างพระพิฆเนศกันสักรุ่นหนึ่ง    แต่ด้วยปัจจัยและเวลาหน้าที่การงานของแต่ละคน   ประกอบกับความเชื่อส่วนบุคคลในรุ่นที่มีทัศนะคติมุมมองความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป    ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มันกำลังเป็นบททดสอบใจผมเองทั้งหมด   มาติดตามอ่านกันนะครับ

เดิมผมเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสืออยู่ที่มหาลัยเก่าผม  วันหนึ่งผมได้เป็นเห็นพระพิฆเนศขนาดหน้าตัก 2  นิ้ววางอยู่ในห้องพักอาจารย์    จึงแวะชมดูก็เข้าใจได้ว่าเป็นของโรงงานมีจำหน่ายทั่วไป     อยู่ดี ๆ ก็มีอะไรแว๊ปมาในใจว่า   "เราก็สร้างเองสิ  ทำให้มันดีเลย "    จุดเริ่มอยู่ตรงนี้ครับ   ผมเลยเริ่มโทรหาเพื่อน ๆ ในรุ่น  ปรึกษาพูดคุยกันจนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง  จากคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งเท่านั้น   จนสุดท้ายรวมตัวจากเพื่อนในรุ่นทั้งหมด  83  คน  ได้ที่  30  คนในการเริ่มโครงการนี้    ต้องเรียกว่ามีอุปสรรคมากมายครับ   ความที่ไม่เคยทำ   เลยต้องค่อย ๆ ศึกษาทุกกระบวนการ   แต่ประเด็นอะไรก็ไม่ใหญ่เท่า   เงิน     ซึ่งเงินที่ระดมทุนนั้นต้องเรียกว่าขาดอีกพอสมควรเลย  ผมเลยอ่านประวัติพระพิฆเนศสายฮินดู  ย้อนลึกลงไปบางส่วน    ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า   ถ้าศรัทธาก็ตั้งใจอธิษฐานขอท่านเอาเลย    แล้วทุกอย่างจะสำเร็จ    ก็ค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ครับ   ตั้งแต่ออกแบบ   สรุปแบบ  เริ่มการผลิต   ผมเป็นคนนำพระเครื่องที่สะสมสภาพสึก  หรือ  คนไม่นิยมแต่เราชอบ   มาเป็นชนวนมวลสารจัดสร้างในครั้งนี้ทั้งหมด   ซึ่งต้องบอกว่าผมใช้การอธิษฐานของบารมี   พระพุทธ   พระธรรม   พระสงฆ์  พ่อแม่  ครูบาอาจารย์เอาทั้งหมดนะครับ   การขอขมากรรมก่อนการหลอมชนวนทั้งหมด   ผมก็อธิษฐานขอเอาด้วยตัวผมเอง      จำนวนการจัดสร้างถือว่าน้อยมากครับ  โดยแบ่งรายละเอียดได้ดังนี้

1. เนื้อเงิน+ชนวน   2  เหรียญ

2. เนื้อทองแดง+ชนวน   133  เหรียญ

3. เนื้อตะกั่วกรรมการ  32  เหรียญ  ในส่วนี้ผมนำพระกรุเก่าที่ชำรุดและที่เราศรัทธานำมาหล่อหลอมจัดสร้างขึ้นใหม่

                จุดที่ยากที่สุดในกระบวนการนี้คือการนิมนต์พระเกจิอาจารย์นี่แหล่ะครับ   ซึ่งถือว่าหนักใจในตอนนั้นมาก   เพราะเงินไม่พอจริง ๆ  ก็เลยอธิษฐานตั้งใจบอกพระพิฆเนศเอาว่าลูกมีเจตนาที่บริสุทธิ์   ขอบารมีท่านช่วยดลจิตดลใจให้สิ่งที่ผมคิดหวังไว้สำเร็จโดยไม่มีเงื่อนไขติดขัดอะไรทั้งสิ้น    พอจบคำอธิษฐานผมก็เริ่มนึกเลยครับว่าอยากนิมนต์ใครบ้าง   โดยตั้งใจไว้ที่  5  รูปเท่านั้น   ซึ่งผมก็บุกเดี่ยวขอเมตตาเป็นการส่วนตัวทั้งสิ้น  แปลกครับทุกอย่างราบรื่นไม่ติดขัดอะไรเลย  หลวงพ่อทุกรูปเมตตามาก    1  ใน  5  รูป  คือหลวงพ่ออ่วม   วัดเขาถ้ำกรวย   ราชบุรี  ซึ่งผมพอทราบประวัติท่านว่าท่านเป็นศิษย์สำนักวัดเขาวังสดึงษ์   ราชบุรี   ท่านเก็บตัวเงียบ ๆ ไม่ป่าวประกาศบอกใคร  แต่ผมรู้จากคนท้องที่  เพราะแฟนผมคนแถวนั้นเล่าเรื่องราวท่านให้ฟัง   วันที่ผมขอนนิมนต์ท่านนั้น    ผมก็บ่น ๆ ว่าโครงการมันติดขัดโน่นนี่นั่นไปหมด    ท่านเงียบ ๆ แล้วพูดว่า   สำเร็จ  ไม่ต้องห่วงท่านจะช่วยเหลือ   ผมดีใจมากครับเหมือนยกภูเขาออกจากอกจริง ๆ      ต่อมาหลวงพ่อเพ้ง  วัดหอมเกร็ด    วันที่ผมขอนิมนต์ท่าน   ท่านก็เมตตาแต่ขอว่าห้ามโฆษณาบอกใคร   ผมก็รับปากท่านไว้ครับ   ทุกอย่าง   ช่วงเปิดจอง  ไม่มีคนสนใจเลย   เพราะเรารับปากไว้แล้วว่าจะไม่โฆษณาชื่อท่าน    อ.ให้ความช่วยเหลือเงินมาอีกก้อนหนึ่ง  ก็พอไปต่อได้   พวกผมบางส่วนก็ถมเงินส่วนตัวเพิ่มเข้าไปอีก   ก็ครบจนสำเร็จ   เวลาติดขัดอะไรผมจะบอกอธิษฐานขอพระพิฆเนศเอาครับ   ว่าติดนั่นติดนี่   ทุกอย่างก็ราบรื่นมากจริง ๆ    จนตอนนี้ส่งมอบและเปิดให้คนภายนอกได้บูชาส่วนที่เหลือจนครบหมดเรียบร้อยแล้วนะครับ   ต้องขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยเหลือผมในทุก ๆ ด้าน   ขอกราบนมัสการองค์พระพุทธ   พระธรรม   พระสงฆ์  พ่อแม่  ครูบาอาจารย์ทั้งหมด  ที่ทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี   ขอเผยแพร่เป็นวิทยาทานต่อไปให้เพื่อน ๆ และผู้อ่าน  จงเชื่อมั่นในศรัทธาครับ   ว่าถ้าตั้งใจแล้ว  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านดูเราอยู๋    ขอบารมีแห่งองค์พระพิฆเนศโปรดเมตตาอำนวยอวยพระให้ทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่าน  จงสำเร็จได้ดังใจหวังเหมือนผมนะครับ

ขอบคุณครับ