รูปถ่ายหลวงปู่ไสย์ เขมิโย วัดม่วงลาย สกลฯ - webpra

รูปถ่ายหลวงปู่ไสย์ เขมิโย วัดม่วงลาย สกลฯ

บทความพระเครื่อง เขียนโดย Kornsitpu

Kornsitpu
ผู้เขียน
บทความ : รูปถ่ายหลวงปู่ไสย์ เขมิโย วัดม่วงลาย สกลฯ
จำนวนชม : 2189
เขียนเมื่อวันที่ : ศ. - 15 ก.ค. 2559 - 23:53.24
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : จ. - 18 มิ.ย. 2561 - 15:38.04
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)


ประวัติหลวงปู่ไสย์  เขมิโย  วัดม่วงลาย จ.สกลนคร


หลวงพ่อไสย์ ท่านเป็นชาวบ้านม่วงลายโดยกำเนิด แต่ไม่ทราบปีเกิดที่แน่ชัด

หลวงพ่อท่านได้ออกบรรพชาเป็นสามเณร พร้อมกันกับ ตาจัน ตาสิม ตาสอน

พออายุครบอุปสมบทจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และได้ออกเดินทางไปยังอำเภอแก่งคอย เพื่อศึกษาพระธรรม

การปฏิบัติกรรมฐานและรำเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ที่นั้น

เมื่อเวลาล่วงเลยไป พระภิกษุที่เคยบวชพร้อมกับท่าน ก็พากันลาสิกขา เพื่อออกมาช่วยงานทางบ้านกันบ้าง

ล้มป่วยเสียชีวิตบ้างก็มี เพราะในสมัยนั้นทางการแพทย์ยังเข้าไปไม่ถึงหมู่บ้านมากนัก

ทำให้วัดบ้านม่วงลาย กลายเป็นวัดที่รกร้างไป เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้านถึงเรื่องผีสางภายในวัด

แม้แต่ชาวบ้านยังไม่กล้าเดินผ่านในยามวิกาล พากันไปนิมนต์พระในพื้นที่ใกล้เคียง

ก็ไม่มีพระรูปใดกล้าพอที่จะมาจำวัดม่วงลายนี้ได้เลย จึงได้ปรึกษาหารือเพื่อแก้ปัญหานี้

เมื่อได้ข้อสรุปก็ส่งตัวแทนออกเดินทางไปนิมนต์หลวงพ่อไสย์ฯที่อำเภอแก่งคอย

กลับมาจำวัดม่วงลายเพื่อสืบทอดพระพุทธศานาและเป็นขวัญกำลังใจของชาวบ้าน

ท่านฯจึงรับนิมนต์ที่จะกลับมายังวัดม่วงลายในครั้งนี้

หลังจากการเดินทางกลับมาของหลวงพ่อไสย์ฯ วันแรกที่ถึงหมู่บ้านม่วงลาย

(ครั้นก่อนเรียกกันว่าบ้านม่วงหลาย เพราะมีต้นมะม่วงเยอะ).....

ท่านยังคงไม่เข้าวัดแต่หากท่านกลับไปปรักกรก และกรรมฐานอยู่ "ดอนปู่ตา "

ซึ่งเป็นดอนหอ (ศาลประจำหมู่บ้าน) โดยอยู่หลังบ้านคุณตา (นายสีเมือง จันทรังษี)

ท่านอยู่กรรมฐานเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากหลวงพ่อไสย์ฯ ท่านเคร่งครัดในกรรมฐาน และฉันข้าวเวลาเดียว

หลังผ่าน 7 วันไปแล้วหลวงพ่อไสยฯ ท่านจึงเริ่มเข้าจำวัด

ชาวบ้านบางคนถึงกลับเอ่ยออกเป็นเสียงเดียวกันว่า

ท่านกำลังแผ่จิตส่งอานิสงส์ ให้กับผีสางที่คอยวนเวียนอยู่ในวัดและดอนปู่ตาก่อน

วันนั้นชาวบ้านทุกคนจึงร่วมกันนิมนต์หลวงพ่อไสย์ฯ ขึ้นกุฏิไม้หลังเล็กไปก่อน

แล้วค่อยช่วยกันทำความสะอาดศาลาและถางตัดไม้ที่ขึ้นรกเต็มวัด

จึงค่อยๆพัฒนาให้หลวงพ่อได้จำพรรษาอยู่ในวัดนี้คอยช่วยเหลือชาวบ้าน

อบรมสั่งสอนพระพุทธศาสนาตลอดจนพิธีกรรมทางศาสนาเลยมาทำให้กำลังใจของคนในหมู่บ้านดีขึ้น

ชาวบ้านคนใหนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ท่านก็ทำการจัดสมุนไพรให้นำกลับไปต้มดื่ม

คนใหนผีเข้าท่านก็ให้ด้ายสายสิญจน์ขาวนำกลับไปผูกคอผูกแขนอาการผีเข้าก็จะหาย ทุ

กวันพระ หลวงพ่อไสย์ ท่านจะให้ชาวบ้านนำดอกไม้คู่เทียนคู่มาถวายพระที่วัด

และนำด้ายสายสิญจน์ขาวกลับบ้านไปผูกให้ลูกให้หลาน เพื่อป้องกันภูตผีและคุณไสย์

ด้วยกิจวัตรเคร่งครัดในกรรมฐานของท่าน และอบรมสั่งสอนให้ชาวบ้านหันมาปฏิบัติกรรมฐานและรักษาศีล

ดังจะเห็นได้จากคำพูดของคนผู้เฒ่าผู้แก่แซวกันว่า "เส้านิหน่าตาคือใส มื้อคืนเขากรรมมาเบาะ"

(แปลได้ว่า "เช้านี้หน้าตาสดใส เมื้อคืนปฏิบัติกรรมฐานใช่ไหม")

หลังจากการปฏิบัติกิจวัตรของท่านเคร่งครัดทำให้ชาวบ้านเคารพและศรัทธาท่านมาก

ทั้งหมู่บ้านใกล้เคียงและอำเภอใกล้เคียง รวมถึงพระที่อยู่ในพื้นที่ก็ขอมาเป็นศิษย์กับหลวงพ่อไสย์ฯ

อาทิ ญาคูปาน (หลวงปู่ปาน) วัดกุดไผท, ญาคูนอ วัดกุดแข, ญาคูนวล วัดตองโขบ, ญาคูสาลี วัดโพนบก, ญาคูอ้วน วัดท่าวัด ฯลฯ

ด้วยความที่หลวงพ่อไสย์ฯ ท่านพรรษาแก่กว่า

และการปฏิบัติกิจอย่างเคร่งครัดที่พระสงฆ์ควรกระทำอยู่เป็นนิจ ฉันเวลาเดียว

ทำให้ท่านมีชื่อเสียงกระฉ่อนในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงและพื้นที่รอบนอก

มีงานบุญประจำปีชาวบ้านและลูกศิษย์จะช่วยกันทำให้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี
ด้วยบุญบารมีของท่านเป็นที่ประจักษ์กันดีแก่ชาวบ้านและลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธา

จะคอยแวะเวียนกันมาเพื่อสนทนาธรรมและปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงพ่อไสย์ฯ

และท่านจะคอยออกไปเยี่ยมเยือนเวลามีกิจนิมนต์

และหนึ่งในลูกศิษย์ที่ท่านไปหาและถ่ายทอดวิชาที่รำเรียนมาให้แก่ศิษย์เป็นประจำ

คือ ญาคูปาน (หลวงปู่ปาน) วัดกุดไผท
และแล้วในช่วง เดือน 11 ปี 2503 เสียงรัวฆ้องไม้ดังก้องไปทั่วหมู่บ้านม่วงลาย

ต้นเสียงมาทางวัดม่วงลาย เป็นเหตุที่ชาวบ้านทุกคนสงสัยรีบพากันเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ภายในวัด

สืบสาวหาสาเหตุปรากฏด้วยสิ่งที่ชาวบ้านและศิษย์ต้องอาลัยอย่างยิ่ง

ที่ต้องสูญเสียครูบาอาจารย์ ที่เลื่อมใสศรัทธา

หลวงพ่อไสย์ ท่านมรณะภาพจากไปอย่างสงบ ทำให้ชาวบ้านม่วงลายพากันเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

ที่ต้องสูญเสียเสาหลักสำคัญ ชาวบ้านและศิษย์จึงช่วยกันตัดไม้ต่อโลงให้หลวงพ่อ

และตั้งสวดอภิธรรมศพหลวงพ่อไสย์ฯ 7 วัน พร้อมกับตั้งบำเพ็ญครบ 100 วัน จึงทำพิธีประชุมเพลิง

ปู่สังข์ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าในระหว่างที่เพลิงเผาศพหลวงพ่อไสย์ฯ

อยู่นั้นมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ตาชอนซึ่งเป็นหลานหลวงพ่อไสย์ฯ ยืนข้างกองเพลิงที่กำลังเผาไหม้ร่างของหลวงพ่อไสย์ฯ

ปรากฏมีก้อนเหล็กเปียกที่หลวงพ่อไสยฯ ท่านฝังไว้ใต้แขน

กระเด็นออกมาจากกองเพลิงตกใส่หลังเท้าตาชอน ทำให้ตกใจวิ่งรอบกองเพลิงอยู่นาน

ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้นต่างพากันบอกว่าหลวงพ่อไสย์ฯ

ท่านมีเจตนาต้องการมอบให้ลูกให้หลานไว้เก็บรักษา

จึงเป็นวาระสุดท้ายที่ทุกคนเห็นเป็นครั้งสุดท้ายอาลัยยิ่ง

ขอบคุณ หนุ่มกะเลิง ไทสกล เจ้าของข้อมูล ไว้ ณ ที่นี้ครับ

วัตถุมงคล

          วัตถุมงคลของหลวงพ่อไสย์ วัดม่วงลาย ที่พอทราบข้อมูล

คือ เป็นรูปถ่ายอัดกระจก ขนาดสูงประมาณ เกือบ ๆ สองนิ้ว ด้านหลังจาร ด้วยดินสอ

ซึ่งจัดเป็นวัตถุมงคล ที่หาชมยาก มาก ๆ

 

รูปถ่ายหลวงปู่ไสย์ เขมิโย วัดม่วงลาย สกลฯ
รูปถ่ายหลวงปู่ไสย์ เขมิโย วัดม่วงลาย สกลฯ
Top