ประวัติ หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ วัดสง่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี - webpra

ประวัติ หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ วัดสง่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

บทความพระเครื่อง เขียนโดย แมวเพชร

แมวเพชร
ผู้เขียน
บทความ : ประวัติ หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ วัดสง่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
จำนวนชม : 7633
เขียนเมื่อวันที่ : ศ. - 08 ก.ค. 2559 - 19:10.44
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : ศ. - 08 ก.ค. 2559 - 19:13.16
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

ชาติภูมิ

 

พระครูสีลวิสุทธาจารย์ หรือที่พวกลูกศิษย์รู้จักท่านดีในนาม หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม ชาติภูมิเป็นชาวบ้านท่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เกิดเมื่อปีมะโรง ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค.2435

 

บรรพชา อุปสมบท

 

เมื่ออายุ 21 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดเลียบ เมื่อเดือน มิ.ย.2456 มีพระครูปราจีนมุนี (หลวงพ่อทอง) เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี วัดหลวงปรีชากุล เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหร่ำ วัดเลียบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "สีลวิสุทโธ"

อยู่จำพรรษาและเล่าเรียนพระธรรมวินัยเป็นเวลา 10 พรรษา จึงย้ายมาอยู่วัดสง่างาม ซึ่งอยู่ห่างออกมาทางทิศตะวันออกของวัดเลียบ คนละฝั่งแม่น้ำประมาณ 3 กิโลเมตร โดยได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ.2466 จนกระทั่งมรณภาพในปี พ.ศ. 2528 รวมระยะเวลา 62 ปี

"วัดสง่างาม" เป็นวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2456 ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 2 บ้านบางบริบูรณ์ ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 36 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ หลวงพ่อฮวบ, หลวงพ่อกลีบ, หลวงพ่อเพิ่ม, หลวงพ่อลิ, หลวงพ่อไผ่, หลวงพ่อพู่, หลวงพ่อผิว และพระครูสิริพัฒนโสภณ รูปปัจจุบัน

หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม ท่านมีตำแหน่ง หน้าที่ และสมณศักดิ์ เริ่มจากปี พ.ศ.2466 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ปี พ.ศ.2475 เป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล) ต.บางบริบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ปี พ.ศ.2482 เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี มีราชทินนามว่า "พระครูสีลวิสุทธาจารย์" ปี พ.ศ.2506 เลื่อนเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในนามเดิม ปี พ.ศ.2513 เลื่อนเป็นเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก

หลวงพ่อผิว ท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ตั้งแต่เริ่มปกครองวัดก็ได้บูรณปฏิสังขรณ์ และพัฒนาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและพุทธศาสนิกชนอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะด้านการศึกษาท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรกของวัด และปรากฏว่าในสมัยนั้นมีพระหลายรูปที่สอบได้นักธรรมตรี โท และเอก ซึ่งลูกศิษย์ของท่านที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ได้เป็นเปรียญหลายรูป

คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อผิว ที่เล่าขานกันนั่นก็คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น แขนหัก ขาหัก กระดูกหัก จนหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่นายแพทย์สมัยใหม่ยังต้องมาให้ท่านช่วยต่อกระดูกก็มี รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ขาหักท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน

นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังที่มักได้รับอาราธนาไปในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องหลายต่อหลายรุ่น ซึ่งครั้งที่เป็นเกียรติประวัติก็คือ ได้รับฎีกาเข้าไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระแก้วมรกต ภปร.ในพระบรมมหาราชวัง ในงานฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปีพ.ศ.2525

พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างปรากฏความขลังในด้าน พุทธคุณ มีประสบการณ์ดีทั้งด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญบางรุ่นยังพอเช่าหาได้ในราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นเหรียญรุ่นแรก ปี พ.ศ. 2502 คงต้องว่ากันที่ "หลักหมื่น"

ในบั้นปลายชีวิต ท่านเริ่มป่วยด้วยโรคเบาหวาน และโรคแทรกอีกหลายโรค โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปาโล กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นครั้งคราว จนกระทั่งวาระสุดท้ายท่านได้กลับมามรณภาพ ที่วัดสง่างาม เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2528 เวลา 08.45 น. สิริอายุ 93 พรรษา 72 และได้รับพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2529 มีพระปราจีนมุนี เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธาน นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะมีศิษยานุศิษย์และผู้เคารพศรัทธามากัน อย่างมืดฟ้ามัวดิน

ประวัติ หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ วัดสง่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
Top