พระอิศวร พระผู้บันดาลให้สำเร็จสมปรารถนา ตอนที่ ๑ - webpra

พระอิศวร พระผู้บันดาลให้สำเร็จสมปรารถนา ตอนที่ ๑

บทความพระเครื่อง เขียนโดย PryD159

PryD159
ผู้เขียน
บทความ : พระอิศวร พระผู้บันดาลให้สำเร็จสมปรารถนา ตอนที่ ๑
จำนวนชม : 1371
เขียนเมื่อวันที่ : พฤ. - 03 ธ.ค. 2558 - 12:33.47
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

พระอิศวร พระผู้บันดาลให้สำเร็จสมปรารถนา

                  เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ มกราคม ได้อ่านหนังสือเรื่อง พระอิศวร พระผู้บันดาลให้สมปรารถนา ของคุณทิพจักร ขออนุโมทนา ในส่วนที่เผยแพร่ให้คนได้รู้จัก แต่เนื้อหายังอ่อนทางวิชาการอยู่มาก เราจึงขอนำเสนอพระอิศวรในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่คุณทิพจักรไม่ได้ลงไว้เพื่อผู้อ่านได้เสริมความรู้

                  ประเทศอินเดียเป็นดินแดนแห่งศาสนาปรัชญาชีวิต เป็นต้นกำเนิดอารยธรรมของภาคพื้นเอเชีย ลัทธิความเชื่อถือในศาสนาเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต ทำให้เกิดระบบการปกครองที่มีระเบียบแบบแผนตั้งแต่เกิด จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ประเพณีเกี่ยวกับการดำรงชีวิต ด้วยศาสนกิจการสร้างปูชนียสถาน รูปเคารพ เพื่อสืบต่อการดำรงศาสนา ซึ่งศาสนาเป็นโครงสร้างสำคัญที่สุดของสังคมรวมทั้งเป็นที่มาหรือปฐมเหตุของการอยู่ร่วมกันโดยสันติของคนในสังคม นักบวชในสมัยโบราณมีการบำเพ็ญภาวนา การบูชาไฟ การนำข้าวของพืชพันธุ์ธัญญาหาร ตลอดจนสัตว์และมนุษย์ ใส่ลงในกองไฟด้วยจุดประสงค์เพื่อเป็นที่พอใจ ของพลังเหนือโลกที่มีอำนาจเหนือความคาดหมาย เพื่อขอพรให้สำเร็จดังปรารถนา ตามคัมภีร์พราหมณ์กล่าวถึงการบูชาไว้ ๓ ประการ คือ

๑.   บูชาด้วยอาหารที่หุงต้มแล้ว การบูชานี้เป็นการบูชาส่วนตัว ไม่เอิกเกริกใหญ่โต นิยมบูชาภายในห้องส่วนตัว ในบ้าน หรือในเทวาลัย 

๒.   การสังเวยบูชาไฟ (บูชากูณฑ์) ด้วยเมล็ดพืช มีข้าว ถั่วงา นมเนย และน้ำโสม (เหล้า) ใบไม้ที่ก่ออาการมึนเมา โดยนำของเหล่านั้นใส่ในไฟพร้อมการสวดบริกรรม

๓.   การสังเวยบูชาไฟ (บูชากูณฑ์) ซึ่งทำในสถานที่โล่งกลางแจ้ง ด้วยการฆ่าสัตว์และมนุษย์แล้วนำเลือดเทลงในกองไฟที่กำลังลุกโพลง

                  วิวัฒนาการของศาสนาพราหมณ์เจริญขึ้นจนเกิดมีการรวมมหาเทพที่เคารพสูงสุดขึ้น ๓ องค์ "ตรีมูรติ" กำหนดอักษร ๓ ตัว อะ, อุ,  มะ รวมเป็นพยางค์อันศักดิ์สิทธิ์ "โอม" ใช้เปล่งเสียงเพื่อกำหนดจิตบูชา  พระศิวะ (อิศวร) พระวิษณุ (นารายณ์) พระพรหม พระเป็นเจ้าผู้อยู่เหนือเทพทั้งหลายในศาสนาพราหมณ์ มีการสร้างรูปเคารพขององค์มหาเทพทั้งสาม และเทพองค์อื่นในรูปลักษณะต่างๆ ตามคติความเชื่อ แล้วปฏิบัติบูชาการบวงสรวงบูชาคือสิ่งสำคัญที่สุดของการนับถือศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู) มีพิธีกรรมบูชาพระเป็นเจ้าหลายรูปแบบซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะ ประเภท ฐานะ ของพระเป็นเจ้านั้นๆ แบ่งออกเป็น ๓ หมวดคือ

๑.   คามเทวตา คือเทพยดาประจำหมู่บ้านหรือประจำเมือง จะทำพิธีบูชาในโบสถ์ เทวาลัยประจำหมู่บ้านหรือเมือง ซึ่งในงานพิธีชาวบ้านจะมาชุมนุมทำพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน 

๒.   กุลเทวตา คือเทพยดาประจำตระกูลหรือบ้าน การบูชาจะจัดสถานที่บูชาตั้งอยู่ในที่สมควรของบ้านเพื่อสมาชิกในครอบครัวมาบูชาเป็นประจำวัน

๓.   อิศทเทวตา คือเทพประจำบุคคลบูชาเป็นการส่วนตัว ไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย โดยจะจัดตั้งรูปเคารพไว้ในห้องส่วนตัว (ห้องนอน) หรือใช้พกติดตัวในระหว่างการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ

                  การบูชาคือหัวใจของศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู) ซึ่งถือว่ารูปเคารพเหมือนคนที่มีชีวิตจริงๆ มีอารมณ์ ความรู้สึก รู้ร้อน รู้หนาว และรับรสสัมผัสได้ทุกอย่างเหมือนมนุษย์ รูปปั้นของพระเป็นเจ้าทุกรูปต้องการสิ่งของปัจจัยสี่เหมือนความต้องการของมนุษย์ชาย หญิง โดยทั่วไป
   
                  ในที่นี่ขอกล่าวถึงเรื่องราวของพระเป็นเจ้าที่สำคัญองค์หนึ่งของพราหมณ์คือพระอิศวร (ศิวะ) เพื่อประโยชน์สำหรับผู้สนใจและปรารถนาทราบประวัติในเชิงวิชาการและข้อมูลทางวัฒนธรรมความเชื่อของคนอินเดียสืบไป

พระอิศวร (พระศิวะ)

                  พระอิศวรหรือศิวะคือเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่และมีผู้คนนับถือบูชามากที่สุดในอินเดียตั้งแต่สมัยโบราณมาจนทุกวันนี้ ผู้ที่เคารพนับถือเทพองค์นี้ต่างก็สร้างเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพระองค์ไว้หลายลักษณะหลายเหตุผล พระอิศวรหรือศิวะคือเทพเจ้าสูงสุดของตรีมูรติในศาสนาพราหมณ์ถือว่าพระองค์คือผู้ทำลายโลก และเป็นผู้สร้างโลกขึ้นใหม่  อิศวร หรือ ศิวะมีลักษณะพิเศษคือเกิดมาก็ร้องไห้ พระเป็นเจ้าผู้ให้กำเนิดเทพบุตรองค์นี้จึงให้ชื่อว่า รุทร (ซึ่งแปลว่าร้องไห้) 

                  ประวัติของเทพเคารพองค์นี้จากมหากาพย์มหาภารตะกล่าวว่าพระศิวะนี้คือโอรสของพระพรหม ถือกำเนิดออกมาจากหน้าผากของพระพรหม แต่ในคัมภีร์ปุราณะและนิยายปรัมปราฮินดูโบราณกล่าวว่าพระศิวะนี้คือโอรสของพระกัศยปกับนางสุรภี

                  พระอิศวรหรือศิวะมีพระนามมากมายแตกต่างกันออกไปทั้งนี้โดยขึ้นอยู่กับเหตุการณ์เฉพาะหรือลักษณะพิเศษของพระเป็นเจ้าเอง วรรณคดีอมราโกษของอินเดียกล่าวไว้ว่าพระเป็นเจ้าองค์นี้มีพระนามรวมทั้งหมด ๔๘ พระนาม พระนามที่สำคัญๆที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวฮินดู มี อิศวร, รุทร, ศาทศิวะ, มหาเทพ, ปรเมศวร, ภูเตศวร ส่วนพระนามที่ตั้งขึ้นตามฤทธิ์ตามเดชของพระองค์คือ ตรีโลจนะ (เทพผู้มี ๓ ตา ตาที่ ๓ สถิตอยู่กลางหน้าผาก), นิลกัณฐ์ (เทพผู้มีศอดำ), จันทรเศขร (เอาพระจันทร์เป็นปิ่น), ปัญจมุขี (เทพผู้มี ๕ พักตร์), อโฆระ(เทพผู้มีความน่าสะพรึงกลัว), กาละ, มฤตยุนชัย (ผู้ปราบความตาย), อุคระวิศวนาถ (เทพผู้เป็นที่พึ่งแห่งโลก), ส่วนพระนามของพระศิวะ ในปัจจุบันชาวฮินดูนิยมเรียกพระองค์ว่า ซังการิ Shankar หรือ Shiva


ยังมีต่อ


สวัสดี
ศิริพงศ์    ครุพันธ์กิจ
๑๙ มกราคม  ๒๕๕๒
พระอิศวร พระผู้บันดาลให้สำเร็จสมปรารถนา ตอนที่ ๑
Top