สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป

สวัสดีครับพี่น้องนักนิยมสะสมแลกเปลี่ยน วัตถุห์มงคลทุกท่าน

 ประโยคที่จั่วหัวเรื่องไว้หลายท่านคงทราบแล้ว หลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง บางท่านอย่างผมนี้เคยได้ยินมาตั้งแต่เป็นเด็กๆ แต่ไม่เข้าใจความหมาย ว่ามันคืออะไร แปลความหมายออกมาหมายถึงอะไร จนกระทั่งผมได้ฟัง "ธรรมะ จากแผ่น CD" ที่ได้รับแจกมา จากวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีตอนหนึ่งที่ชาวต่างชาตฺิ แถบๆยุโรป ชื่อ คุณ วิทโก (เขียนชื่อตกหล่นขออภัย )ได้มาถามปัญหานี้กับหลวงพ่อ จรัญ ฐิตธมฺโม ซึ่งข้อแม้ว่าถ้าตอบปัญหานี้ได้ก็จะบวช ที่วัดนี้แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็จะไม่บวชที่นี่ ก็จะตระเวณไปถาม ปัญหานี้ต่อไปที่วัดอื่น ซึ่งแกก็ถามมาหลายวัด หลายจังหวัดแต่ไม่มีผู้ไดให้ความกระจ่างได้ 

ซึ่งคุณ วิทโก นี้ได้รับทุนมาเรียนภาษาไทย ที่ มหาวิทยาลัย จุฬาฯ และแกก็เก่งภาษาไทย ทั้งพูดและเขียน จนสามารถเป็นอาจารย์สอนได้ ณ.มหาวิทยาลัย ทางยุโรป เกี่ยวกับภาษาไทย

โดยมีพระสงฆ์จากวัดหนึ่งใน จังหวัดสิงห์บุรีเป็นผู้พามา (พระรูปนี้เป็นระดับพระผู้ใหญ่ของจังหวัดแต่ไม่กล้าตอบเลยพามาหาหลวงพ่อจรัญให้ช่วย) คงจะเป็นบุญที่เคยอุปถัมพ์กันมา ปรากฎว่าหลวงพ่อจรัญ ตอบปัญหานี้ได้ คุณวิทโก ก็เลยได้บวชที่วัด อัมพวันและกลายเป็นลูกศิษย์คนสำคัญ ที่ช่วยเผยเแผ่เรื่องจิตวิญญาณ ผ่านทาง วิทยานิพนธ์แปลเป็น ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศษ เรื่องการะลึกชาติ,บุญ บาป ฯลฯ

 หลวงพ่อไขปริศนานี้ว่า สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่แคร่ สองคนพาไป หมายถึง มนุษย์มีธาตุทั้งสี่ คือดิน น้ำ ลม ไฟ มาเป็นองค์ประกอบของร่างกาย สามคนแห่ คือ อารมณย์ โลภ โกรธ หลง ที่คอยแห่กันไปในแต่ละเวลาของวันหนึ่งๆ หนึ่งคนนั่งแคร่ คือ จิตวิญญาน ที่อยู่ใน มนุษย์แต่ละคนนั่นเอง สองคนพาไป คือ บุญกับบาป เท่านั้นที่จะพามนุษย์ไป คนที่เราคิดว่าเขาจะช่วยเราได้ไม่มี

                                                                       ครับผมยอมรับว่าก็เพิ่งรู้ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๗ นี่เอง

                                                                                    ขอบคุณที่กรุณาเสียเวลาอ่าน

                                                                                          สย.มาบตาพุด