พระเชียงแสน หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
บทความพระเครื่อง เขียนโดย punch18
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผม(หนึ่ง สมุทรสาคร)ได้ไปสอบถามผู้ที่ทันหลวงพ่อรุ่ง ทันมากบ้างน้อยบ้าง เป็นเรื่องเล่าที่ผู้อาวุโสเล่าให้ผู้เยาว์อย่างผมฟัง ผมได้รวบรวมและคัดกรอง และนำมาบันทึกไว้หวังว่าจะเป็นอนุสรณ์ และเผยแผ่เรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หากข้อความบันทึกเรื่องใด ผิดพลาดไปกระผมขออภัยและได้โปรดแนะนำด้วยครับ ในสมัยที่หลวงพ่อรุ่ง ยังดำรงขันธ์อยู่นั้น หลวงพ่อฯ มีพระบูชาเก่าๆ อยู่หลายองค์ แต่ที่เป็นพระคู่บารมี ที่ท่านตั้งบูชาไว้นั้น หลักๆจะมี พระ หลวงพ่อเชียงแสน หลวงพ่อสุโขทัย หลวงพ่ออู่ทอง ซึ่งเป็นพระเก่าตามยุคนั้นๆ ท่านที่เคยไปวัดท่ากระบือ จะเห็นวิหาร หลวงพ่อเชียงแสน หลวงพ่อสุโขทัย ซึ่งอยู่ด้านซ้ายของโบสถ์ (อีกฝั่งจะเป็นวิหารหลวงพ่อประธานพร) ซึ่งเป็นการจำลอง ระลึกถึง พระคู่บารมีของหลวงพ่อ (ในวิหารเป็นองค์จำลอง มีขนาดใหญ่กว่าองค์จริง) สำหรับทางวัดท่ากระบือก็ได้สร้างองค์จำลอง ของพระบูชาสามสมัยนี้ ให้บูชามาหลายครั้งแล้ว ท่านสามารถเข้าไปชมได้ที่วัดครับ จะจำลองมาเหมือนองค์จริงเลยทีเดียว เป็นพระคู่บารมีของหลวงพ่อ สำหรับที่มาของ หลวงพ่อเชียงแสนนั้น เมื่อครั้งที่หลวงพ่อฯ ยังแข็งแรงและออกธุดงค์อยู่ทุกปีนั้น หลวงพ่อได้เดินธุดงค์ไปทางภาคเหนือ ครั้นเมื่อถึงเวลาเย็น ท่านก็ได้หยุดพักปักกลดลง ณ.ชายป่าแห่งหนึ่ง ใกล้กับไร่ของชาวบ้านในแถบนั้น ฝ่ายชาวบ้านพอเห็นว่ามีพระธุดงค์ผ่านมาปักกลดลงใกล้หมู่บ้านจึงได้มุ่งหน้าไปกราบไหว้ ปฎิสันฐาน ชาวบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของไร่ ได้กราบเรียนหลวงพ่อฯ ว่า "หลวงพ่อครับ ช่วยดูที ในไร่ผม มีเสียงเด็กร้องบ่อยๆ แต่ไปหาก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่ายังไง หลวงพ่อช่วยดูที มันมีอะไร" ตกกลางคืนหลวงพ่อฯ ท่านเข้าสมาธิ พิจารณาดู ยามเช้าชาวบ้านนำภัตตาหารมาถวาย รวมถึงชายที่สอบถามไว้เมื่อเย็นวานก็มา และได้สอบถามหลวงพ่ออีกครั้ง หลวงพ่อท่านจึงบอกว่า "กูนั่งแล้ว ไอ้ที่มึงว่าเสียงเด็กร้อง มันไม่ใช่เด็ก แต่เป็นพระพุทธรูป" หลังจากนั้นท่านจึงบอกที่ๆมีพระฝังอยู่ และให้เอาไม้ปักทำตำหนิไว้ ต่อเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ให้ขุดดู แล้วหลวงพ่อก็ถอนกลด ธุดงค์ต่อไปยังที่ต่างๆ และกลับวัดท่ากระบือไป เมื่อหลวงพ่อรุ่ง จากไปแล้ว และชาวไร่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อย ชาวบ้านท่านนั้นจึงได้ขุดดินตามตำแหน่งที่หลวงพ่อบอก และ ได้พบพระบูชาเชียงแสน จึงเก็บพระไว้ในบ้าน ครั้นปีต่อมาหลวงพ่อรุ่ง ท่านได้ธุดงค์ไปยังถิ่นนั้นอีก เมื่อหลวงพ่อหยุดพักปักกลด ชาวบ้านในแถบนั้นก็มาอีก รวมทั้งชาวไร่ท่านนั้น ก็ได้มาหาและบอกกับ หลวงพ่อฯว่า ที่ให้ไปขุดนั้นได้พระมา1องค์ และได้นำมาให้หลวงพ่อฯดูด้วย คุยไปสักพัก จึงได้กล่าวถวาย พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ให้กับหลวงพ่อฯ ซึ่งเป็นพระเชียงแสน หน้าตักราวๆ 12นิ้ว(ประมาณ) หลวงพ่อจึงได้เอาผ้าห่อพระ สะพายกลับมาที่วัด เมื่อกลับมาแล้ว หลวงพ่อฯ ได้เล่าเรื่องนี้ให้ กำนันพัต (น้าของคุณลุงสมานผู้เล่าเรื่อง) ฟัง ซึ่งที่โต๊ะหมู่บูชาของหลวงพ่อนั้นจะมีพระบูชาหลายองค์ แต่ที่สำคัญๆ จะมี หลวงพ่อเชียงแสน หลวงพ่อสุโขทัย หลวงพ่ออู่ทอง สำหรับหลวงพ่อสุโขทัย และหลวงพ่ออู่ทอง ไม่ทราบว่าท่านได้มาอย่างไร แต่หลวงพ่อเชียงแสน ได้มาดังที่เล่าไว้แล และหลวงพ่อก็ได้ตั้งบูชาไว้ในกุฏิท่านเรื่อยมา จนเมื่อในงาน พิธีพุทธาภิเศกที่กรุงเทพ (ราวปี2481ซึ่งหลวงพ่อยังเป็นพระอธิการรุ่ง ยังไม่ได้พระครู) เจ้าคุณทางกรุงเทพ ได้ส่งพระมานิมนต์หลวงพ่อ ไปร่วมงานนี้ สมัยนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวก การคมนาคมใช้ทางน้ำเป็นหลัก เมื่อพระมานิมนต์หลวงพ่อแล้ว จะกลับในวันนั้นก็ไม่ทัน จึงพักค้างที่วัดท่ากระบือ และนอนในกุฏิหลวงพ่อฯ ท่านได้เห็นพระบูชาสามสมัย ที่โต๊ะหมู่ จึงได้กล่าวกับหลวงพ่อว่า "พระ2-3องค์นี้ ให้อาตมาสักองค์หนึ่งเถิด แล้วจะเอายศจากกรุงเทพมาให้ภายหลัง" หลวงพ่อฯ ก็ตอบสวนมาทันควันเหมือนกันว่า "ยศกินไม่ได้ กูไม่เอาหรอก กูเอาพระกูไว้บูชาดีกว่า" พระทั้งสามสมัยนี้ก็อยู่มาหลังท่านมรณภาพหลายปี เคยถูกนำไปซ่อนบนขื่อกุฏิ(กลัวหาย) และถูกนำไปไว้อีกหลายที่ จนเมื่อจะทำการบูรณะกุฏิ เก่าของหลวงพ่อรุ่ง จึงนำไปฝากไว้กับ วัดอ้อมน้อย อยู่อีก2ปี ปัจจุบัน ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในที่แห่งหนึ่ง โดยทางวัด เป็นอย่างดี ขออขอบพระคุณคุณลุงสมาน ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลกับผมหนึ่ง สมุทรสาครครับ
***หากท่านใดต้องการแนะนำ หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆกับผม ติดต่อได้ทางเบอร์โทรหน้าร้าน หรือเฟส หนึ่งสมุทร สาคร จะขอบพระคุณยิ่งครับ
|