พระเครื่องหลวงปู่ทิม ที่แน่ะนำให้เล่นหาและที่ทันเสกแน่ๆ

เสกในวัด

๑.เหรียญฉลองสมณะศักดิ์ ปี o๘ ทั้งบล็อกแรกบล๊อกเสริมหายากสร้างน้อยเก๊เย่อะ
๒.เหรียญหยักหรือหรือเหรียญน้ำเต้าหลังเรียบและแหนบยาว ปีo๘ เนื้อ อัลปาก้าเท่านั้น ดูให้ดีดูให้เป็นเก๊เย่อะโครตๆ
๓.ลูกอมผงพรายยุคต้นมีห่วงและไม่มีห่วง ลูกอมไมยราพ ลูกอมเทียนมัททรี เม็ดประคำ แต่หายากหน่อยยกเว้นลูกอมบอร์นฝุ่นเอาวันไหนก็ได้มีเกลื่อนเวปประมูล
๔. ชุดไม้มงคลแก่ะและถ่านแก่ะเครื่องยาแก่ะ และกรามช้างน้ำแก่ะ สมเด็จ รูปเหมือน ปิดตา หนุมาน พิมพ์ต่างๆรวมทั้งนกสาลิกาและปลัดขิกยุคต้น ตอกโค๊ต อุและไม่ตอกโค๊ต เสกแน่ ส่วนใครที่ได้ชุดตอกเลข๓ถ้าเป็นของแท้ก็ถือว่ามีบุญของดีเหมือนกัน
๔.รูปถ่ายขาวดำกระดาษหนังไก่ฯลฯ หลังจารมือจำลายมือจารให้แม่นๆและปั้มยันต์๕ ปี๑๖ หลวงปู่ท่านบอกว่ารูปถ่ายพุทธคุณเทียบเท่าตระกรุดของท่านเซียวนะ และยังมีรูปถ่ายหลวงพ่อวงศ์ด้วยนะ
๕.ผ้ายันต์กระดาษยันต์ต่างๆ แต่ให้ระวังผ้ายันต์พัดโบกและสารพัดกัน เก๊เย่อะดูเนื้อผ้าเป็นสำคัญ
๖. เศียรโต เศียรเล็ก พระศิวลี พรายเดียว พรายคู่ปี๑๕-๑๖ทั้งทาบร์อนและไม่ทาและบางองค์ใส่ผงไมยราพด้วย แต่ต้องดูให้เป็นนะเพราะเก๊มากกว่าแท้บางคนโชว์แบบมั่นใจมากแต่นั้นมันอาจจะเก๊นะ
๗. เหรียญผูกพัทธฯหรือฝังพัทธฯ ปี๑๗ มีเพียงบล็อกเดียวเนื้อเดียวคืออัลปาก้าซุบนิเกิลไม่มีการตอกโค๊ตกรรมการใดๆทั้งสิ้น ดูให้เป็นเซี่ยนหงายหลังมาเย่อะแต่ถ้าได้แท้แขวนเดียวได้เลยรวมถึงเหรียญหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ เสกในพิธีเดียวกัน
๘. เหรียญหยักหรือน้ำเต้าหลังนูนเสกพร้อมเหรียญฝังพัทธฯและแหนบรุ่น๒ ปี๑๗ มีเพียงเนื้อเดียวคืออัลปาก้าซุปนิเกิลเท่านั้น
๙.เศียรโตชุดน้ำท่วมปี๑๗มีเพียง๕องค์เท่านั้นอยู่ที่ใคร ทราบหมดรับรองไม่มีแน่ที่บอกได้ฟลุ๊คมาจากตลาดนัด
๑o. รูปหล่อเล็ก ปี๑๖งานผูกพัทธสีมา ก้นนะชาลิติ และรูปหล่อเล็ก ปี๑๗ งานยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ก้นเรียบ และก้นข้าวหลามตัด
๑๑.ปิดตาน้ำท่วมและเจริญพรน้ำท่วมปี๑๗ ทั้งหลังวนและไม่วน บางองค์หลวงปู่จารให้ด้วย ให้ดูโค๊ตเป็นหลัก ไม่มีบล็อก๑บล็อก๒ มีเพียงบล๊อคทองเหลืองและบล๊อคปูนปาสเตอร์สร้างครั้งเดียว แต่ตอนนี้เล่นแท้เป็นเก๊เล่นเก๊เป็นแท้แล้วแต่ใครจะเชื่อแต่เชื่อแน่ว่าดีจริงหลวงปู่ท่านดำริให้สร้างปลุกเสกให้อย่างดีและคนที่ร่วมสร้างเก็บเฉพาะหลังไม่วน ข้อเสียคือจำนวนการสร้างไม่ชัดเจนหนึ่งบาตรพระ เน้นบาตรพระเท่านั้นไม่ใช่บาตรเณร หากใครได้ของแท้ไปถือว่ามีบุญ
๑๒.ขุนแผนลองพิมพ์แต่ต้องเป็นลองพิมพ์จริงๆไม่ใช่ลองพิมพ์ที่มีผงพรายเป็นโอ่งๆและมีน้ำมันพระเจ้าตากเยิ้มๆออกมาเย่อะขายกันเกลื่อนเวบฯประมูลต่างๆ แบบนั้นเรียกตั้งใจพิมพ์ไม่ใช่ลองพิมพ์
๑๓.ขุนแผน บล็อก๒ ปี๑๖-๑๗ ดูให้เป็นทันและเสกทุกองค์แน่นอน ดูไม่เป็นก็เจอบล๊อคจุกออกบัตรได้ด้วยหล่ะครับท่าน
๑๔.แขนแผนบล็อกแรกปี๑๗-๑๘ที่เล่นหากันนิยมกัน แต่ไม่รู้องค์ไหนเสกไม่เสกเพราะหลังหลวงปู่ฯมรณภาพแล้วยังมีการกดอยู่เลยกรรมการวัดมีโยมสายและ อ.เพียรวิทย์ไปตามเก็บบล๊อกคืนพร้อมขุนแผนอีกสองกระสอบ จะสังเกตุเห็นว่าอ.เพียรวิทย์จะไม่เก็บขุนแผนเลยยกเว้นองค์ที่ตัวเองกดแล้วเอาไปให้หลวงปู่ท่านเสกให้จริงๆ ที่เหลือทั้งแจกทั้งแถมพร้อมลูกอมบอร์นฝุ่น
๑๕. เหรียญเจริญพรล่างเจริญพรบน รวมทั้งเจริญพรไตรมาส เนื้อต่างๆ แต่ไม่รวมเจริญพรหลังเรียบและเจริญพรปั๊มซ้ำเพราะเหรียญออกคนละปีกันเหรียญไตรมาสนั้นออกปี๑๘ ถ้าเอามาปั๊มซ้ำคิดเอาเอง อัพทูยู
๑๖.เหรียญปรกจ้อย ปี๑๗ เน้นหูขีดและปรกจ้อยหลังเรียบโค๊ต “ท”เสกนานจนลืม อย่างอื่นอัพทูยูเช่นปรกจ้อยหลังเรียบปั๊มซ้ำจากเหรียญปรกไตรมาสปี๑๘
๑๗. พรายขาว พรายดำและสีผึ้งต่างๆแต่ที่อ.เพียรวิทย์หวงสุดคือสีผึ้งผีตาต๋อง ทันแน่แต่ดูยากดูที่มาที่ไปดีๆใช้แล้วจะรู้ว่าดีจริง
๑๘. ตระกรุด๙ดอก มีเพียงชุดเดียว ตระกรุด๗ดอก ตระกรุด๖ดอก ตระกรุดสาริกา ตระกรุดเมตตาใหญ่ ตระกรุดสามกษัตริย์ กรุดท้องแก่ ตระกรุดใต้น้ำ ตระกรุดมหานิทรา ตระกรุดโทนโค๊ตเฑาะว์ ตระกรุดโทนไม่มีโค๊ตสร้าง๓๒ดอก ตระกรุดโทนชินบัญชร ฯลฯ รวมถึงตระกรุดโทนโค๊ต ‘’อิ’’ ที่ถือได้ว่าเป็นตระกรุดยุคสุดท้ายในบรรดาตระกรุดของหลวงปู่ ที่ขาดไม่ได้คือเหรียญขวัญถุงโค๊ตเฑาะว์ ทำไว้เพื่อแจกผู้ไปทำบูญที่วัดแลกเหรียญที่ ธกส ระยอง อย่างว่าวัดไม่มีทุน
๑๙.ชุดชินบัญชร พิมพ์ต่างๆ ปี๑๗ รวมทั้งสังกัจจายน์ ถ้าสู้ราคาไหว เน้นโค๊ต นะ ในเม็ดงาเป็นหลักโค๊ตอย่างอื่นอัพทูยู
๒o.เหรียญหยดน้ำและเหรียญนั่งพาน ดีแน่ดีจริงยันต์ทุกตัวบนเหรียญหลวงปู่ท่านกำหนดให้ สร้างโดย อ.เพียรวิทย์ และ อ.มงคล นาคแพน แน่ะนำว่าปั๊มพระแรกๆจะไม่มีรอยจิกแต่เนื่องจากปั๊มพระด้วยแม่พิมพ์ตัวเดียวจึ่งเกิดแม่พิมพ์ชำรุดและมีรอยจิกคนนั่งเฝ้าตอนปั๊มเหรียญคือ อ.เพียรวิทย์
๒๑.ปิดตายันต์๕ ฝังพลอยและยันต์คุณนรฯ ปี๑๗
๒๒.เหรียญห่วงเชื่อม บล็อกต่างๆ แต่ระวังเก๊เทพยิ่งบล๊อคภ.ขีดแล้วเหมือนบล๊อกเดียวกันเลยทีเดียว
๒๓.เหรียญเสมามาปี๑๘ เนื้อต่างๆ เล่นหาระวังเก๊เทพ เหมือนบล๊อกเดียวกันเลยทีเดียว
๒๔. เหรียญปรกไตรมาส อุสั้นอุยาว รวมทั้งรูปหล่อไตรมาส ปี๑๘ เน้นที่มีโค๊ด
๒๕.เหรียญปรก๘รอบ ปี๑๘ บล็อกต่างๆ สร้างเย่อะมาก อ.เพียรวิทย์เก็บไว้นิดหน่อย๔พันเหรียญเองแต่แจกเขาหมดที่เหลือเก็บไว้ให้เขารู้ว่าก็มี 555
๒๖.เหรียญบาตรน้ำมนต์และเหรียญหล่อฉลุ ปี๑๘
๒๗. ปิดตาอุตโม เนื้อต่างๆ ปิดตาข้าวตอกแตก ปิดตาหลังรูปเหมือน เนื้อต่างๆ สำหรับปิดตาอุตโมเนื้อตระกรั่วเสกนานสุดก่อนหลวงปู่ท่านละสังขารหลวงปู่สั่งให้ อ.เพียรวิทย์ พร้อมให้กุญแจให้ไปเอาพระในกุฏิกลับบ้านให้หมด และพูดว่า
“นี่ไม่อยู่แล้ววัดมันจะยุ่ง” แต่ก็ไม่สามารถเอากลับบ้านได้เพราะหนักมากยกคนเดียวไม่ไหวเพราะในนั้นมีทั้งน้ำและปูนขาวด้วย ถ้ายกกลับมาได้สงสัยจะโดนตีเก๊หรือไม่ก็บอกไม่ทันเสกชัวส์ 555
๒๘.หนุมาน เนื้อเงิน เนื้อนวะ เสกที่วัด แต่ได้นำไปจารหัวใจหนุมารใต้ฐาน โดยอ.เพียรวิทย์และเณร ที่โรงพยาบาล ณ.ศรีราชา เพราะขณะนั้นหลวงปู่ท่านอาพาธ ส่วนหนุมานเนื้อตระกั่วหลวงปู่แก้วเสกและ อ.เพียรวิทย์จารให้เช่นกัน
๒๙. เหรียญหลวงพ่อโสธร ปี๑๘ เนื้อเงิน เนื้อนวะ และทองแดง บล๊อกต่างๆ
๓o.ขุนแผนหลวงพ่อนิด วัดทับมารวมทั้งพิมพ์นางพญาด้วยนะแต่หายากส์
๓๑. สมเด็จยันต์๓ยันต์๕ รวมทั้งสมเด็จไร่วารี (พิมพ์เล็ก) หลวงตาบางสร้าง
๓๒.เหรียญวัดยายร้าปี๑๖ ทั้งมีโค๊ตและไม่มีโค๊ต
๒๙. ปรกประชา อ.ประชาสร้าง และสมเด็จพิมพ์รัศมี รวมทั้งปรกมะขามรุ่นแรก รูปเหมือนผงใบลาน เสกนานมาก สมเด็จขี่หนุมานปี๑๔หลวงพ่อสาครสร้างหลวงปู่ปลุกเสก
๓๓. ปิดตาหนองกาน้ำ เพียงบางพิมพ์นะไม่ใช่ทั้งหมดไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันเอง
๓๔.เหรียญหลวงปู่แก้ว ออกวัดน้ำคู้ ปี๑๘
๓๕. ปิดตาออกวัดกุฎโง้ง ปี๑๙ สมเด็จ ปี๑๙ รวมทั้งเหรียญปลัดบุญ ปี๑๙ เสกปี๑๘ แต่วัดตั้งใจออกให้ทำบุญปี๑๙จึ่งระบุปีว่า๑๙
๓๖.เหรียญเม็ดกระดุมหลวงปู่สิม โค๊ตนะในเม็ดงา
๓๗.ปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง เนื้อนวะ
๓๘.นาคปรกหลวงปู่เม้า
๓๙.เหรียมสมเด็จโต วัดผาทั่ง

*** ส่วนรูปหล่อชุดบูชารวมทั้งรูปเหมือนฐานปูปลาสร้างเพียง๑๒องค์ มีบุญก็หาเก็บส่วนมากยากส์จะมีคนออกต่อไม่ต่างจากล๊อคเก๊ตครอบครูและมีดครู สมเด็จฯแลกปูน สมเด็จปั๊มยันต์๕ สุดท้ายปิดตาบัวผุดพระมีน้อย

เสกนอกวัด

๑.เหรียญปิดตาวัดเนินกระปอก ปี๑๖ หลวงปู่ท่านปลุกเสกยันหกโมงเช้าเสกเสร็จได้ลงมาทำความเคารพกันกับหลวงปู่โต๊ะ อ.เพียรวิทย์หลับยันเช้าตื่นมาตอนหลวงปู่โต๊ะและหลวงปู่ทิมทำความเคารพกัน
๒.เหรียญกรมกลวงชุมพร ปี๑๘ เหรียญพระเจ้าตากสิน ปี๑๘ ออก จันทบุรี กริ่งพระเจ้าตากสินฯ ปีo๘ รวมถึงเหรียญพระเจ้าตากออกวัดลุ่ม ปีo๘
๓. ชุดพระเครื่องออกวัดพลา
๔.ชุดพระเครื่องออกที่วัดซากลูกหญ้า หาข้อมลเอาเองมีข้อมูลจากสมุดบันทึกด้วยลายมือหลวงปู่ว่าเคยไปนั่งปรก
๕.ชุดพระเครื่องออกวัดโพธิฯ น้อยมากที่ขายเกลื่อนเวปเล่นหาจงระวัง
๖.กริ่งประทานอภัย กริ่งอังคีรส หลวงพ่อแอ่ว วัดป่าประดู่ ปีo๘
๗.ชุดพระเครื่องออกวัดบ่อวิน น้อยมากที่ขายเกลื่อนเวปเล่นหาจงระวัง
๘.เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดตะพง ปี๑๑
๙.พระเครื่องออกวัดไผ่ล้อม แต่น้อยเล่นหาให้ระวัง

หมายเหตุ

ที่กล่าวไว้ข้างต้นยกเว้นพระเครื่องยุคก่อนปี๑๕ อ.เพียรวิทย์และโยมสายศิษย์ผู้พี่จะมีส่วนร่วมทั้งสิ้นกล่าวคือพระทุกรุ่นทุกพิมพ์จะนำเข้ากุฏิหลวงปู่พร้อมทั้งล้อมด้ายสายสิญย์เพื่อให้หลวงปู่ปลุกเสกรวมถึงชุดชินบัญชรที่หลังจากเอาไปตกแต่งใหม่ที่โรงงานแล้วนำกลับมาปลุกเสกอีกครั้งในกุฏิหลวงปู่ ส่วนที่เสกนอกวัดศิษย์รักนามว่า เพียรวิทย์และก็ศิษย์ผู้พี่ก็จะไปด้วยเกือบทุกๆงาน

งานที่ประทับใจสุดคือปลุกเสกที่วัดเนินกระปรอก ที่หลังจากปลุกเสกกันทั้งคืนเหลือเพียงสองรูปคือหลวงปู่โต๊ะและหลวงปู่ทิม ที่นั่งปรกปลุกเสกจนถึงหกโมงเช้าสว่างคาตา ศิษย์รักตื่นขึ้นมาเห็นหลวงปู่โต๊ะและหลวงปู่ทิมได้ลงจากที่นั่งปรกและได้ทำความเคารพกันและกันดั่งพระผู้รู้วาระจิตซึ่งกันและกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.timpirus.com/forums/index.php?topic=4989.0 

**********************************************************************************************************************************************************************

ไปอ่านเจอในกระทู้เก่า ๆ ครับ
เห็นว่าน่าสนใจ สำหรับท่านที่สนใจ เสาะหาพระของหลวงปู่ทิม
ตามนี้ครับ
--------
 Re: ประกวดบทความหัวข้อ"พระเครื่องหลวงปู่ทิม ในใจของพวกเรา" 
« ตอบ #47 เมื่อ: เมษายน 21, 2010, 03:46:22 pm »   

--------------------------------------------------------------------------------

  ขออนุญาตพี่บัวผุด นำบทความดีๆนี้ มาร่วม ลงในกระทู้นี้ด้วยน๊ะครับ

ขออนุญาตเขียนบทความหัวข้อเรื่อง "พระเครื่องหลวงปู่ทิม ในใจของพวกเรา" นะครับ เขียนมาหลายวันเพิ่งจะเสร็จ

โดย บัวผุด  

หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกวัตถุมงคลไว้หลายรุ่นหลายพิมพ์ พอจะประมวลได้ดังนี้

1. พระชุดชินบัญชรประกอบไปด้วยพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พระสังกัจจายน์ และ พระปิดตา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นชุดยอดขุนพลบ้านค่ายเนื้อโลหะ พระชุดชินบัญชรนี้เป็นพระที่ทำการเทหล่อแบบโบราณ โดยทำพิธีเทหล่อที่ลานวัดละหารไร่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2517 ชุดนี้เป็นชุดเจ้าของวลีที่ว่า "อีกหน่อยจะหายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ" มีมวลสารประกอบด้วย

1.1.1 พระยันต์ 108 นะ 14 ตามตำราบังคับสองชุด
1.1.2 เหล็กยอดเจดีย์และยอดปราสาทเก่า
1.1.3 แผ่นกังสดาลโบราณสมัยเชียงแสน ได้มาพร้อมกันกับข้อ 1.1.2 เมื่อครั้งขึ้นไปหามวลสารทางภาคเหนือ
1.1.4 โลหะเก้าชนิด ตามตำหรับนวโลหะ(นวโลหะตามสูตรของสมเด็จพระพนรัตวัดป่าแก้ว)ชินหนัก หนึ่งบาท จ้าวหนัก สองบาท เหล็กหนัก สามบาท บริสุทธิหนัก สี่บาท ปรอทหนัก ห้าบาท สังกะสีหนัก หกบาท ทองแดงหนัก เจ็ดบาท เงินหนัก แปดบาท ทองคำหนัก เก้าบาท
1.1.5 ชนวนพระกริ่งพระชัยวัฒน์ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม
1.1.6 ตะกรุดเก่าหลายสำนัก
1.1.7 พระยันต์คาถาชินบัญชร ลงพระยันต์ที่วัดเบญจมบพิตร
1.1.8 เหรียญรัชกาลที่ห้า โรงเรียนนายร้อย จปร. ครบรอบ ร้อยปี
1.1.9 เหรียญสมเด็จพระนเรศวรเผด็จศึก
1.1.10 ชนวนและเศษจากการแต่งพระกริ่งต่างๆหนักประมาณ สามกิโลกรัม

1.1 พระกริ่งชินบัญชร ของดีราคาสูงพุทธคุณเด่นทุกทาง สามารถอธิฐานได้ แบ่งเป็นเนื้อต่างๆดังนี้ เนื้อทองคำสิบสามองค์ เนื้อบรมพุทโธเก้าองค์ เนื้อนวะก้นทองคำสิบหกองค์ เนื้อนวะก้นอุดผงพรายกุมารประมาณหนึ่งร้อยสี่องค์ เนื้อนวะก้นเงินสามร้อยเก้าสิบองค์ (ไม่ตอกเลขจำนวน หนึ่งร้อยเก้าสิบห้าองค์ และ ตอกเลขจำนวน หนึ่งร้อยเก้าสิบห้าองค์ ออกให้ทำบุญที่วัดเจ้าเจ็ดอยุธยา)เนื้อนวะก้นทองแดง สองพันห้าร้อยเก้าสิบห้าองค์ (ราคาประมาณการ แสนกลางถึงหลักล้านบาท) 

1.2 พระชัยวัฒน์ชินบัญชร ชื่อดีมีชัย พุทธคุณเด่นทางแคล้วคลาด เจริญรุ่งเรือง ชนะอุปสรรคการงานลุล่วงด้วยดี สามารถอธิฐานได้ แบ่งเป็นเนื้อต่างๆคือ ทองคำสร้าง ห้าสิบเก้าองค์ เนื้อนวะกะหลั่ยทองสร้าง เก้าสิบห้าองค์เนื้อนวะโลหะสร้าง หนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบห้าองค์ เนื้อเงินมีน้อย (ราคาประมาณการ เนื้อนวะแสนต้น เนื้อนวะกะหลั่ยทองแสนกลาง เนื้อทองคำหลักล้านบาท) 

1.3 พระสังกัจจายน์บัญชร พุทธคุณเด่นทางโชคลาภวาสนาบารมี สามารถอธิฐานได้ แบ่งเป็นพระสังกัจจายน์ฐานสูงและ พระสังกัจจายน์ฐานเตี้ย เนื้อนวะโลหะทั้งหมด รวมทั้งสิ้น หนึ่งพันแปดร้อยองค์ (ราคาประมาณการ ฐานเตี้ย แสนต้น ฐานสูง หมื่นปลายถึงแสน) 

1.4 พระปิดตาชินบัญชร พุทธคุณเด่นทาง มหาลาภลาภลอยมาหา สามารถอธิฐานได้ เนื้อนวะโลหะทั้งหมด รวมทั้งสิ้น หนึ่งพันหกร้อยองค์ (ราคาประมาณการ หนึ่งแสน) 

2.พระขุนแผนผงพรายกุมาร ที่มีทั้งพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยอดขุนพลบ้านค่ายเนื้อผง พระขุนแผนผงพรายกุมารมีจำนวนการสร้างหลักพันกว่าองค์ ถือว่ายอดเยี่ยมทางด้าน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และคงกระพันชาตรี เจ้าของฉายา "ยอดขุนพลบ้านค่าย" มีกรรมวิธีการสร้างที่ลึกล้ำพิสดารดั่งนวนิยาย ยากที่จะหาใครมาประกอบพิธีได้อีกแล้ว จึงนับว่าเป็นพระที่น่าสนใจไม่น้อยทั้งสองพิมพ์มีสองบล็อกมาตรฐานคือ บล็อกลองพิมพ์ซึ่งเป็นบล็อกที่กดพิมพ์ในช่วงแรกๆ พิมพ์ยังค่อนข้างตื้น เนื้อพระค่อนข้างหยาบ ต่อมาจึงมีการแกะแม่พิมพ์ให้สวยงามคมชัดมากขึ้นเรียกว่า บล็อกแรก หรือ บล็อกนิยม ส่วนบล็อกสองนั้นเล่นหาในวงที่จำกัดกว่า พิมพ์ใหญ่บางองค์ด้านหลังจะฝังตะกรุดสาริกาส่วนพิมพ์เล็กนั้นไม่ฝัง(ราคาประมาณการ พิมพ์ใหญ่แสนกลางถึงปลาย พิมพ์ใหญ่ตะกรุดคู่แตะล้าน พิมพ์เล็ก แสนต้น ถ้าพิมพ์เล็กเนื้อพิเศษ แสนกลาง) 

3.พระผงพรายกุมารพิมพ์ เศียรโต เศียรเล็ก และพระสิวลี พุทธคุณเด่นทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ทำมาค้าขึ้น มีโชคลาภไหลมาเทมา พระพิมพ์เศียรโต เศียรเล็ก เป็นพิมพ์ยุคแรก ๆ ของลป.ทิมท่าน เป็นการแกะบล็อกจากหินมีดโกน ราวปี พ.ศ.2517 มวลสารหลัก ๆ ของพิมพ์เศียรโตจะเป็นผงพรายกุมารฯ ผสมกับว่านร้อยแปด และผงวิเศษของท่าน แล้วจึงนำไปกดพิมพ์ออกเป็นองค์พระ(ราคาประมาณการ แสนต้นถึงแสนกลางในบางเนื้อเช่นเนื้อยานัตถุ์) 

4.เหรียญรุ่นต่างๆ ได้แก่ 

4.1 เหรียญฉลองสมณะศักดิ์รุ่นแรกจัดสร้างปี พ.ศ.2508 พุทธคุณเด่นทาง ประสบความสำเร็จก้าวหน้ามียศมีศักดิ์ข้าราชการนิยมกันมาก เป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า จำนวนทั้งหมด หนึ่งพันหกสิบองค์ หากเป็นเนื้ออัลปาก้ากะหลั่ยเงินจะเป็นบล๊อกเสริม (ราคาประมาณการ แสนต้นในบล๊อกนิยม หมื่นปลายถึงแสนกว่าในบล๊อกเสริม) 

4.2 เหรียญบาตรน้ำมนต์ จัดสร้างปี พ.ศ.2517 พุทธคุณเด่นทางด้านทำน้ำมนต์รักษาโรคและอธิฐานขอได้ เป็นเหรียญมากประสบการณ์ เช่น เคยมีคนอาราธนาทำน้ำมนต์ดื่มกินในยามเจ็บไข้ได้ป่วยก็ปรากฎว่าอาการดีขึ้น บางคนทำน้ำมนต์ไว้พรมสินค้าทุกเช้า เพื่อขอให้ขายของดี มีกำไร ก็ปรากฎว่าซื้อง่าย ขายคล่อง มีกำไร จำนวนการสร้างประมาณ สามพันห้าร้อยเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลาง) 

4.3 เหรียญเจริญพรบน และ เจริญพรล่าง สร้างเมื่อปี พ.ศ.2517 เพื่อหาทุนทรัพย์ในการสร้างศาลาการเปรียญของวัดละหารไร่ โดยหลวงทิมท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างจำนวนไม่เกิน สองหมื่นเหรียญ และยังกำชับว่าให้ปั๊มเหรียญให้แล้วเสร็จก่อนตะวันตกดินของวันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ.2517 แล้วนำไปให้ท่านปลุกเสกในวันนั้นเลย ปั๊มเหรียญได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น สาเหตุที่ท่านต้องกำชับเช่นนั้นเพราะเป็นเคล็ดที่ท่านต้องการให้ผู้นำเหรียญเจริญพรไปใช้มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันตกต่ำเหมือนตะวันตกที่กำลังจะตกดิน แต่ด้วยระยะเวลาในการสร้างกระชั้นชิดมากจึงปั๊มเหรียญเนื้อทองแดงได้เพียง หนึ่งหมื่นห้าพันแปดร้อยเก้าสิบห้าเหรียญ แบ่งเป็นเหรียญเจริญพรบน หกพันแปดร้อยเก้าสิบห้าเหรียญ เหรียญเจริญพรล่าง เก้าพันเหรียญ เหรียญเนื้อเงิน สามร้อยสี่สิบสามเหรียญ เหรียญเนื้อตะกั่วสี่ร้อยเหรียญ เหรียญเนื้อทองคำสิบหกเหรียญ เหรียญเนื้อนวโลหะหนึ่งพันหนึ่งร้อยหกสิบหกเหรียญ รวมจำนวนเหรียญที่สร้างได้ทั้งหมด หนึ่งหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยยี่สิบเหรียญ(ราคาประมาณการ เนื้อทองคำหลายล้าน เนื้อนวะ แสนกลาง เนื้อตะกั่ว ประมาณหมื่นปลาย เจริญพรบนทองแดง แสนต้น เจริญพรล่างทองแดง หมื่นปลาย) 

4.4 เหรียญเสมาแปดรอบ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 ฉลองอายุหลวงปู่ทิมครบแปดรอบ ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2518 พุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยมใครเห็นใครรักใครเอ็นดู และแคล้วคลาดเป็นหลัก แบ่งเป็นเนื้อต่างๆดังนี้ เนื้อทองคำลงยา จำนวนการสร้าง ห้าสิบหกเหรียญ (ราคาประมาณการ เกินล้าน)เนื้อเงินหน้าทองคำ จำนวนการสร้าง หนึ่งร้อยหกสิบเก้าเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนปลาย)เนื้อเงินลงยาสามสี จำนวนการสร้าง แปดร้อยเก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนต้น)เนื้อเงินลงยาสีเดียว จำนวนการสร้าง หนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นปลาย)เนื้อนวะหน้าเงินลงยา จำนวนการสร้าง สองพันสองร้อยเก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนต้น)ทองแดงลงยา จำนวนการสร้าง ห้าสิบเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นปลาย)เนื้อนวโลหะ จำนวนการสร้าง สี่ร้อยเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นปลาย)และ เนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง สองหมื่นสองพันสองร้อยเก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลางถึงหมื่นปลาย) 

4.5 เหรียญห่วงเชื่อมแปดรอบ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 ฉลองอายุหลวงปู่ทิมครบแปดรอบ ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2518 พุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยมใครเห็นใครรักใครเอ็นดู และแคล้วคลาดเป็นหลัก สังเกตจากชุดแปดรอบท่านจะเสกไว้แนวๆนี้ เนื้อทองคำสร้าง เก้าเหรียญ (ราคาประมาณการ เกินล้าน)เนื้อเงินสร้าง สามร้อยเก้าสิบห้าเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)เนื้อชินบัญชร ห้าสิบเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)และ เนื้อทองแดง สองหมื่นสองพันสองร้อยห้าสิบเจ็ดเหรียญเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลางถึงปลาย) 

4.6 เหรียญหล่อฉลุแปดรอบ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 ฉลองอายุหลวงปู่ทิมครบแปดรอบ ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2518 พุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยมใครเห็นใครรักใครเอ็นดู และแคล้วคลาดเป็นหลัก เนื้อทองคำสร้าง ห้าสิบหกเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลางถึงปลาย)เนื้อเงินสร้าง สามร้อยเก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)เนื้อนวะโลหะ หนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบห้าเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลาง) 

4.7 เหรียญนาคปรกแปดรอบ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 ฉลองอายุหลวงปู่ทิมครบแปดรอบ ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2518 พุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยมใครเห็นใครรักใครเอ็นดู และแคล้วคลาดเป็นหลักเช่นเดียวกัน เนื้อทองคำสร้าง เจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)เนื้อเงินสร้าง สามร้อยเก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนต้น)เนื้อทองแดง สองหมื่นเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นต้น) 

4.8 เหรียญเจริญพรสองรุ่นไตรมาส สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 เหรียญเจริญพรสองรุ่นไตรมาสนี้เป็นเหรียญที่ถูกใจหลวงปู่ทิมเป็นอย่างมาก เพราะด้านหน้าและด้านหลังเหรียญสามารถบรรจุอักขระยันต์ไว้ได้เต็มตามที่ท่านให้ไว้ เหรียญเจริญพรไตรมาสนั้นได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยสดงดงามยิ่งนักด้านหน้าตอกโค๊ด อิ ที่สังฆาฎิ ใต้ฐานตอกโค๊ดตัวเลขไทยตั้งแต่ 1 ถึง 2589 ในเนื้อทองแดง (ราคาประมาณการ แสนต้น)เนื้อทองคำสร้าง หกเหรียญ (ราคาประมาณการ เกินล้าน)เนื้อเงินสร้าง หนึ่งร้อยสิบเอ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)เนื้อนวะสร้าง หนึ่งร้อยเก้าเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)ด้านหลัง ยังได้ใส่ อักขระ เลขยันต์ต่างๆ ไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หัวใจแก้วสามประการ หัวใจพระฉิมพลี นิยมใช้ในทางทำให้เกิดโชคลาภ เมตตามหานิยม ค้าขายง่ายคล่อง และป้องกันภัยกันผีด้วย หัวใจมหาอุด เป็นการอุดอัดปากกระบอกปืน หัวใจราชสีห์ ใช้ในทางตบะเดชะเกิดอำนาจ ทั้งทางประจันศัตรู พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า(หรืออีกชื่อหนึ่งคือ อิติปิโสแปดทิศ) ดีทางเมตตาและป้องกันภัย หัวใจพระไตรปิฎก เป็นคาถาใช้ได้ทุกทาง หัวใจธาตุทั้งสี่ ช่วยหนุนให้ทุกคาถาที่ร่วมรายการเกิดอิทธิปาฎิหารย์ หัวใจพระเจ้าสิบหกพระองค์ ดีทางคงกระพัน เมตตามหานิยม พุทธคุณและประสบการณ์ล้นเหลือ เกินคำบรรยายครับ เพราะหลวงปู่ทิมท่านตั้งใจลงให้อย่างเต็มที่ นับว่าเป็นเหรียญที่น่าใช้บูชาเป็นอย่างยิ่ง 

4.9 เหรียญนาคปรกรุ่นไตรมาส สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 พุทธคุณจะคล้ายกับเหรียญเจริญพรไตรมาสเพราะอักขระเลขยันต์คล้ายกัน เนื้อเงินสร้าง เก้าสิบเจ็ดเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนต้น)เนื้อนวะสร้าง สี่ร้อยเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลาง)และเนื้อทองแดงสร้าง สองหมื่นเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นต้น) 

4.10 เหรียญนั่งพาน สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518(สร้างแจกผู้ชาย)หรือชื่อเต็มคือ เหรียญสมเด็จ ณ โรงพยาบาลศรีราชา ปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากมีพุทธคุณใช้อธิฐานแก้โรคเวรโรคกรรมได้ เนื้อทองคำสร้าง สองเหรียญ (ราคาประมาณการ ไม่มีราคาเพราะไม่มีใครขาย)เนื้อเงินสร้าง ยี่สิบเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนต้น)และเนื้อทองแดงสร้าง ห้าพันเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลาง) 

4.11 เหรียญหยดน้ำ (สร้างแจกผู้หญิง)สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 ปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากมีพุทธคุณใช้อธิฐานแก้โรคเวรโรคกรรมได้ เนื้อทองคำสร้าง สองเหรียญ (ราคาประมาณการ ไม่มีราคาเพราะไม่มีใครขาย)เนื้อเงินสร้าง ยี่สิบเหรียญ (ราคาประมาณการ แสนต้น)และเนื้อทองแดงสร้าง ห้าพันเหรียญ (ราคาประมาณการ หมื่นกลาง) 

4.12 พระปิดตามหาอุตตโมสร้างขึ้นเพื่อหาทุนสร้างหอฉันอุตตโม สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 พุทธคุณเด่นทางด้านมหาอุดหยุดลูกปืนเพราะมีการทดลองยิงกันก่อน เนื้อทองคำสร้าง สิบเก้าองค์ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)เนื้อเงินสร้าง สองร้อยเก้าสิบห้าองค์ (ราคาประมาณการ แสนต้น)เนื้อนวโลหะสร้าง สองพันห้าร้อยสิบแปดองค์ (ราคาประมาณการ หมื่นกลาง)เนื้อชินตะกั่วสร้าง หนึ่งหมื่นองค์(ราคาประมาณการ หมื่นต้น) 

4.13 พระปรกใบมะขามเนื้อต่างๆหรือที่เรียกกันว่าปรกองค์จ้อย สร้างเมื่อปี พ.ศ.2517 มีเนื้อทองคำ (ราคาประมาณการ แสนกลาง)เนื้อเงิน (ราคาประมาณการ แสนต้น)เนื้อนวโลหะ (ราคาประมาณการ แสนต้น)และเนื้อทองแดง(ราคาประมาณการ หมื่นกลาง) 

5. รูปเหมือนลอยองค์ ได้แก่ รูปเหมือนรุ่นไตรมาส จัดสร้างปี พ.ศ.2518 เนื้อนวะโลหะ สร้างจำนวน หนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบห้าองค์(ราคาประมาณการ หมื่นปลายถึงแสน) 

6. พระเนื้อผง ได้แก่ 

6.1 พระสมเด็จไร่วารี ลป.ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง เป็นพระสมเด็จรุ่นแรกของหลวงปู่ทิม อิสริโก สร้างในปี พ.ศ.2517 โดย หลวงตาบาง แห่งวัดหนองกาน้ำ จ.ชลบุรี เป็นผู้สร้างมาถวายให้ หลวงปู่ทิม ท่านปลุกเสก จำนวน สามพันองค์ ด้วยกัน โดยมีส่วนผสมของผงพรายกุมาร และ ผงพุทธคุณ ผงวิเศษต่างๆ ที่หลวงปู่ทิม ท่านได้มอบให้หลวงตาบางนำไปสร้างพระพิมพ์ดังกล่าว และ นอกจากนั้น หลวงตาบางท่านยังนำผงพุทธคุณต่างๆ ที่ท่านเก็บสะสมไว้มาผสมในเนื้อพระรุ่นดังกล่าวด้วย จึงทำให้พระพิมพ์สมเด็จวัดไร่วารีนี้ เป็นพระที่มีส่วนผสมจากเนื้อผงวิเศษต่างๆมากมาย และ เป็นพระเนื้อผงอีกรุ่นหนึ่งของหลวงปู่ทิมที่มีความนิยมสะสมกันมาเป็นเวลาช้านานแล้วครับ (ราคาประมาณการ หลักพันปลายถึงหมื่นต้น) 

6.2 ปิดตาฝังพลอย หลังยันต์ห้า ฝังพลอยเสก จำนวนการจัดสร้างทั้งหมด เก้าพันองค์ ในปี พ.ศ.2517 พร้อมๆกับปิดตาหลังยันต์น้ำเต้าโดยทางคณะผู้สร้างนำโดย คุณชินพร สุขสถิตย์ และ คุณประชา ตรีพาสัย ได้ไปว่าจ้าง ท่านอาจารย์ทองเจือ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ผสมเนื้อพระ และ กดพิมพ์พระให้ โดยมีส่วนผสมของผงพลายกุมาร, ผงอิทธิเจ, ผงปัททะมัง และ ผงตรีนิสิงเห ของท่านหลวงปู่ทิม เป็นส่วนผสมหลักๆ ที่ทางคณะผู้สร้างได้รับมอบมาจากหลวงปู่ทิม ท่าน และ ได้มอบให้ ท่านอาจารย์ทองเจือ กดพิมพ์พระให้ โดยมีเนื้อพระ หลายสีด้วยกัน ทั้ง สีขาว (พบง่าย) ดำ (พบยากสุด)เทา (พบยาก)และ น้ำตาล (พบยาก)มีทั้งแบบ ด้านหลังฝังพลอยเสก โรยตะไบพระกริ่งชินบัญชร และ ไม่มี ก็มี ครับ สำหรับผงที่หลวงปู่ทิมอิสริโกได้ทำการเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ นั้น ได้หลุดร่วงทะลุลอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นพระอุโบสถวัดละหารไร่ ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินความจริงแต่อย่าง แต่กล่าวเปิดเผยเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ศรัทธาหลวงปู่ทิมอิสริโก จะได้เกิดความปิติ และซาบซึ้ง ในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิมอิสริโก หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา พระผงขุนแผนพรายกุมาร นับว่าท่านมีของวิเศษขั้นสูงอยู่กับ จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา หลวงปู่ท่านกล่าวว่าพระของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปไม่ช้าก็เร็ว  

6.3 พระผงพิมพ์ประจำวันรุ่นบรรจุกรุ ความเป็นมาของพระบรรจุกรุนั้น เริ่มขึ้นเมื่อจะมีการผูกพัทธสีมาอุโบสถวัดละหารไร่โดยทางวัดได้จัดเตรียมสร้างพระเครื่องสำหรับงานผูกพัทธสีมาขึ้นมาจำนวนประมาณ แปดหมื่นสี่พันองค์ เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ เมื่อถึงคราวจัดงานผูกพัทธสีมาในปี พ.ศ.2517 ทางวัดก็ได้นำพระดังกล่าวมาให้ประชาชนเช่าบูชาเพื่อบรรจุไว้ในซุ้มเสมารอบอุโบสถและภายในอุโบสถ โดยผู้ทำบุญซื้อทองคำเปลวปิดทองลูกนิมิต หนึ่งชุด สิบแผ่น จะได้รับพระเนื้อผงจำนวนหนึ่งประมาณ สิบสององค์ เพื่อให้นำไปบรรจุไว้ในซุ้มเสมารอบอุโบสถซุ้มละ หนึ่ง องค์กับใส่หลุมลูกนิมิต และใต้บริเวณฐานพระประธานอีกแห่งละ หนึ่งองค์ รวมบรรจุไว้คนละ สิบองค์ ส่วนพระที่เหลืออีก สององค์นั้นให้ผู้ปิดทองเก็บไว้ติดตัวหรือเป็นที่ระลึก หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2524 น้ำได้ท่วมถึงฐานซุ้มเสมา และทางวัดกำลังจะจัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ทิม ในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2526 เพื่อจะได้มีวัตถุมงคลแจกเป็นของที่ระลึกในงาน ทางวัดจึงดำเนินการเปิดกรุพระดังกล่าว ด้วยสภาพการบรรจุที่วางพระไว้บนดินในหลุมใต้ซุ้มเสมาโดยไม่มีการก่ออิฐล้อมรอบไว้ พระจึงเกิดการชำรุดเสียหายเป็นบางส่วน ได้พระแล้วทางวัดก็แจกในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ทิม ส่วนที่เหลือก็เปิดให้เช่าบูชาเพื่อหาปัจจัยมาพัฒนาวัด พระชุดนี้ประกอบด้วย พระประจำวัน เจ็ดองค์ คือพระประจำวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ (กลางวัน)วันพฤหัสบดี วันศุกร์และวันเสาร์ (แต่ไม่มีพระประจำวันพุธกลางคืน)พระขุนแผน(มีกุมารทองใต้ฐาน)พระสมเด็จ(แบบทั่วไป)พระสมเด็จทรงแพะ พระนางพญาและพระรอด
พุทธคุณครบครันตามตำรับผงพรายกุมารครับ(ราคาประมาณการ หลักพันต้น) 

7. ล๊อกเก็ตและรูปถ่ายต่างๆ(ราคาประมาณการ หลักพันกลางถึงหมื่นต้น) 

8. เครื่องรางของขลัง ได้แก่ มีดหมอ ปลัดขิก ตะกรุด ผ้ายันต์ และอื่นๆ (ราคาประมาณการ หลักพันปลายถึงหมื่นต้น ไม่นับรวมมีดหมอ) 



เกร็ดประวัติบางส่วนของ หลวงปู่ทิม อิสริโก 

นามเดิม     : นายทิม งามศรี
เกิด          : วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2422 ตรงกับเดือน เจ็ด ปีเถาะ ที่ บ้านหัวทุ่งตาบุตร หมู่ที่ สอง ต.ละหาร (ปัจจุบันเป็น หมู่ หนึ่ง ต.หนองบัว) อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
ชื่อบิดา      : นายแจ้ง งามศรี
ชื่อมารดา   : นางอินทร์ งามศรี
อุปสมบท   : วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2449 ตรงกับขึ้น เจ็ด ค่ำ เดือน หก ปีมะแม ณ วัดละหารไร่ 
มรณภาพ   : วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2518
รวมสิริอายุ : เก้าสิบหกปี หกสิบเก้าพรรษา

เมื่ออายุสิบเจ็ดปี นายแจ้งผู้เป็นบิดา นำตัวไปฝากไว้กับหลวงพ่อสิงห์ (วัดละหารใหญ่) เล่าเรียนหนังสือทั้งไทยและอักษรขอม ประมาณหนึ่งปี หลังจากนั้นขอลาหลวงพ่อสิงห์กลับไปช่วยโยมบิดา มารดา ทำงานบ้าน จนถึงอายุสิบเก้าปี ท่านจึงถูกคัดเลือกเข้าเป็นลูกหมู่ หรือทหารประจำการในสมัยนั้นอยู่ที่กรุงเทพถึงสี่ปีเศษ จึงได้รับการปลดประจำการและกลับมาอยู่บ้านตามเดิมและท่านได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา 

หลวงปู่ทิมได้อุปสมบทที่วัดทับมา โดยพระครูขาว เจ้าคณะแขวงเมืองระยอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อสิงห์เป็นกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการเกตุเป็นอนุสาวนาจารย์ โดยทำพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2449 ตรงกับปีมะแม เดือน หก วันเสาร์ ขึ้น เจ็ด ค่ำ ได้รับฉายานามสงฆ์ว่า "อิสริโก" หลังจากบวชแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนทางปฏิบัติสมถะกัมมัฏฐานจากหลวงพ่อสิงห์ อาจารย์ของท่าน และศึกษาวิชาต่างๆ จากตำราคู่วัดละหารใหญ่ (เข้าใจว่าเป็นตำหรับเดิมของหลวงปู่สังข์เฒ่า)จนมีความรู้แตกฉานได้ออกจาริกปฏิบัติธุดงค์กับหลวงพ่อยอด นักปฏิบัติที่เป็นอาจารย์ ออกธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเจริญสมณะธรรม ออกหาความวิเวกสันโดษ เป็นเวลาสามปี ครั้นเมื่อใกล้เข้าพรรษากลับมาถึงจังหวัดชลบุรีได้จำพรรษาที่วัดนามะตูมถึงสองพรรษา ได้เที่ยวร่ำเรียนศึกษาวิชาเพิ่มเติม กับพระเกจิอาจารย์หลายรูป ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสที่เก่งกล้าอีกลายคน จากนั้นได้กลับมาจำพรรษาที่วัดละหารใหญ่ และได้รับนิมนต์จากชาวบ้านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ตั้งแต่ พ.ศ.2450 ท่านได้ก่อสร้างเสนาสนะบูรณซ่อมแซมกุฏิ และถาวรวัตถุอีกหลายอย่าง  

หลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติเป็นพระที่ยึดมั่นในพระธรรมและพระวินัยขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระมักน้อย สันโดษ ไม่ยินดียินร้ายในรูปรส กลิ่น เสียง ฉันอาหารเจเป็นประจำ ฉันภัตราหารมื้อเดียวเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า และฉันน้ำชาประมาณบ่ายสี่โมงเย็น จะไม่มีการฉันเพลเลย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวทุกชนิดท่านจะไม่ยอมฉัน แม้แต่น้ำปลา อาหารที่ท่านฉันส่วนใหญ่จะเป็นผัก ถั่ว หรือน้ำพริกกับเกลือป่น ปฏิบัติอย่างนี้เป็นเวลาถึงห้าสิบปี ร่างกายผิวพรรณของท่านก็ปกติอยู่ตามเดิม พละกำลังของท่านยังดีและสมบูรณ์อยู่เช่นเดิม ร่างกายอ้วนท้วนพอสมควร ทั้งนี้คงเป็นเพระบุญบารมีของท่านที่สั่งสมมา จึงทำให้ท่านเป็นพระที่เคร่งครัด และบริสุทธิ์ในพระธรรมวินัย ดำรงชีวิตอยู่ได้ถึงเก้าสิบหกปี อายุพรรษาเจ็ดสิบสองพรรษา และได้มรณภาพด้วยโรคชรา  

หลังจากหลวงปู่ทิม อิสริโก ได้สร้างอุโบสถเสร็จด้วยบารมีของท่านแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2517 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดอายุครบเก้าสิบห้าปี หลวงปู่ทิมได้วางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ "ภาวนาภิรัติ" และสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2518 จากนั้นได้สร้างปละปรับปรุงหอฉัน "อุตตโม" หลวงพ่อทิมมีตำแหน่งครั้งสุดท้ายเป็นพระครูภาวนาภิรัติ ชาวบ้านโดยทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า "หลวงปู่ทิม" ซึ่งท่านได้มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อเวลายี่สิบสามนาฬิกา ของวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2518 ณ หน้าหอสวดมนต์ วัดละหารไร่ หลังจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา เป็นเวลายี่สิบสามวัน คณะศิษย์จึงได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดละหารไร่ และ เก็บศพไว้บนศาลาภาวนาภิรัติ โดยขอพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2526 ณ เมรุวัดละหารไร่แม้จะล่วงเลยมาถึงแปดปีหลังจากที่หลวงปู่ทิมมรณภาพ สังขารของท่านก็ไม่เน่าเปื่อยแต่อย่างใดผิวเนื้อยังนุ่มนวลไม่แห้งแข็งเหมือนกับกำลังนอนหลับ  

คาถาของหลวงปู่ทิม    

"อิติสุขโต อะระหังพุทโธ นะโมพุททายะ มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"

หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมียอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น  

ขอบคุณครับ 

บัวผุด 
 
 
----