หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน รุ่น "ปรมาจารย์ 5 แผ่นดิน"

ลงเพื่อเป็นอนุสติและเผยแพร่เกียรติคุณ น้อมถวายความดีบูชาครู
เรียบเรียงโดย ยอดชาย แสงศิริ

"หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ รุ่น ปรมาจารย์ 5 แผ่นดิน สร้างในวาระครบ 7 ปี แห่งการละสังขาร"

          ในวาระดิถีที่หลงปู่หมุนท่านได้ละสังขารครบ 7 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2546 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนด อมตะวาจาประกาศิตที่ท่านสั่งเป็นพินัยกรรมไว้ "ครบ 7 ปี แล้วค่อยสร้างแล้วจะลงมาเสกให้" ทางคณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์วัดบ้านจานได้จัดพิธีพุทธาภิเษกภายในมหาเจดีย์ต่อหน้าสังขารหลวงปู่หมุน โดยมี หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู พระอริยเถราจารย์ที่เล็บมือเล็บเท้าที่ตัดไว้เมื่อ 3 ปีก่อน กลายเป็นพระธาตุใส่เป็นแก้ว , หลวงปู่พา อธิโร ศิษย์เอกหลงปู่มุม วัดปราสาทเยอ และสืบสานพระเวทย์ วิทยาคมสาย สำเร็จลุนต่อจากหลวงปู่หมุน และหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เจ้าคณะอำเภอทรารมย์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2553 และครั้งที่ 2 ประกอบพิธีเสาร์ 5 พุทธาภิเษก ณ วัดสุทัศนเทพวราราม วันที่ 20 มีนาคม 2553 โดย หลวงพ่ออั้น วัดธรรมโฆษก และหลวงพ่อสิริ วัดตาล นนทบุรี อีกสองพระเกจิอาจารย์ที่ทรงภูมิจิตสูงยิ่งในปัจจุบัน

"พิธีพุทธาภิเษกภายในมหาเจดีย์ต่อหน้าสังขารหลวงปู่หมุน"
          วันที่ 11 มีนาคม 2546 ประมาณ 8.30 น. ที่วัดบ้านจานได้จัดให้มีพิธีการเปลี่ยนจีวรสังขารอมตะหลวงปู่หมุนที่อยู่ในโลงแก้ว ชั้นสองของมหาเจดีย์ คณะศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวถึงสังขารของหลวงปู่หมุนว่า ไม่เน่าไม่เปื่อย และปัจจุบันแข็งกลายเป็นหินไปแล้ว ส่วนฟันของท่านกลายเป็นสีทองแดง ตอนช่วงบ่าย มีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น ปรมาจารย์ 5 แผ่นดิน ของหลวงปู่หมุน วัตถุประสงค์เพื่อหาเงินบูรณะวัดบ้านจาน และเป็นค่าใช้จ่ายในพระพุทธศาสนา โดยมีการปลุกเสกกันภายในมหาเจดีย์ หน้าสังขารอมตะของหลวงปู่ ในพิธีพุทธาภิเษกจะมีพระเกจิหลายรูปมาร่วมด้วยเช่น หลวงปู่คำบุ หลวงปู่พา พระอาจารย์จ่อย เป็นต้น

          ในรูปทางขวาคือ หลวงปู่คำบุ ส่วนทางซ้ายสุดคือหลวงปู่พา แห่งวัดบัวระรมณ์ ซึ่งหลวงปู่พา อธิวโร องค์นี้ หลวงปู่หมุน ได้มาเข้าฝันลูกศิษย์ของท่านนานแล้ว ให้ไปหาหลวงปู่พาให้พบ และให้สร้างวัตถุมงคลให้เพื่อนำปัจจัยมาช่วยทำนุบำรุงวัดต่อไป ซึ่งทางลูกศิษย์ได้หามานานประมาณ 3 ปี จึงพบท่าน ในพิธีหลวงปู่พา ได้กล่าวว่า หลวงปู่หมุนมาเสกให้และโบกมือให้ท่านด้วย การปลุกเสกเป็นไปตามแบบของหลวงปู่หมุนคือ ท่านจะมีการชักยันต์ในอากาศ มองเผิน ๆ จะคล้ายหลวงปู่หมุนท่านโบกมืออยู่ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเชื่อมั่นว่าวัตถุมงคลชุดนี้แรงแน่ ๆ ครับ

ผมจึงตั้งใจนำภาพและข้อมูลดี ๆ มาจัดทำเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงเท่าที่ทราบมาบางส่วนนี้ให้ทราบกัน หากหาของรุ่นเก่าแสนยากเย็น ทั้งกำลังใจ กำลังเงินยังไม่เพียงพอ รุ่นนี้ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ พิธีดี เจตนาดี และมวลสารดี เพราะเป็นมวลสารเก่าของหลวงปู่ รวมถึงแผ่นจารที่หลวงปู่เตรียมไว้เพื่อการนี้เฉพาะ แถมหลวงปู่ท่านสั่งเป็นพินัยกรรมไว้ และมานิมิตรให้สร้างเอง ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ

          ข้อมูลที่ลงนี้ทางผมไม่ต้องการให้ท่านเชื่ออย่างงมงาย โดยขาดการพิจารณาอย่างมีสติ แถมการนำมาลงนี้ ก็สุ่มเสี่ยงกับค่าบูชาที่จะปรับขึ้นกันไปอย่างคาดไม่ถึงอีก แต่เรื่องของบารมีหลังการละสังขาร และความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลที่ครูบาอาจารย์ลงมาเสกให้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนักครับ หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร วัดวังหว้า พระบูรพาจารย์ภาคตะวันออกร่วมสมัยเดียวกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ยังกล่าวไว้ว่า "ถ้าตายแล้วมาทำ ยังแรงกว่าตอนมีชีวิตอยู่" ซึ่งท่านเคยกล่าวประโยคนี้ไว้เมื่อครั้งคุณวันชัย ตรีวัชระเดชา ศิษย์อาวุโสของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นำงาช้างน้ำมาถวายให้ปลุกเสกสำทับเพิ่ม หลังจากเคยนำไปประกอบพิธีต่อสังขารหลวงพ่อพรหม เพื่ออัญเชิญดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อมาให้พรและปลุกเสกให้ตามที่หลวงพ่อพรหมสั่งให้หามาตามความฝัน เกี่ยวกับบารมีการปลุกเสกวัตถุมงคลหลังการละสังขารนี้ไม่ใช่มีแต่เพียงเท่านี้นะครับวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลายต่อหลายรุ่นก็มีประสบการณ์มาโดยตลอด และตรวจสอบพบบารมีของคุณพระในตำนานมาปลุกเสกให้เช่นเดียวกัน การอ้างอิงครูบาอาจารย์เป็นเรื่องสำคัญครับ นอกจากเกี่ยวพันกับบุญและบาปแล้ว ถ้าไม่จริง ผู้บูชาไปอาจเป็นอันตรายได้จากความยึดมั่นถือมั่นกับเรื่องหลอกเด็กนั้นๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงท่านก็กำลังพบของดี ของวิเศษภายนอก ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยศรัทธาและสติปัญญาที่ท่านมีต่อครูบาอาจารย์ครับ

(ขอขอบคุณ ภาพและข้อมูลเพิ่มเติมจากคณะศิษยานุศิษย์ คุณไต้ฝุ่นจากเว็ป luangpukahlong.com และนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ ปีที่ 39 ฉบับที่ 1115 ปักษ์หลัง เดือนเมษายน ฯลฯ)