หลวงพ่อสุด วัดกาหลง:ด้วยความรักจากความทรงจำของศิษย์ - webpra

หลวงพ่อสุด วัดกาหลง:ด้วยความรักจากความทรงจำของศิษย์

บทความพระเครื่อง เขียนโดย punch18

punch18
ผู้เขียน
บทความ : หลวงพ่อสุด วัดกาหลง:ด้วยความรักจากความทรงจำของศิษย์
จำนวนชม : 31782
เขียนเมื่อวันที่ : พฤ. - 10 ต.ค. 2556 - 22:03.30
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : พฤ. - 10 ต.ค. 2556 - 22:07.15
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

บทความนี้ผม หนึ่ง สมุทรสาคร ได้รวบรวมมาจากการพูดคุยกันของเหล่าผู้ที่รัก นับถือ ศรัทธา ต่อหลวงพ่อสุด วัดกาหลง ซึ่งผมได้ขออนุญาตินำมาเผยแพร่ บางท่านก็ขออนุญาติกันทางเนต บางท่านผมก็ได้ดั้นด้นไปพบ จนรู้จักลึกซึ้งกันในเวลาต่อมา และได้พิจารณาแล้วว่าผู้เล่าเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ ทันยุคหลวงพ่อ ได้เข้าไปใกล้ชิดหลวงพ่อจริงๆ จึงได้นำมารวบรวมไว้ เพื่อเป็นการเทอดเกียรติหลวงพ่อสุด วัดกาหลง ผู้เป็นที่รักและศรัทธาของเหล่าศิษย์ ตลอดไป

 

เรื่องของหลวงพ่อจากความทรงจำ ความรัก ของศิษย์

 

1.เสื่อมหรือไม่เสื่อม

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจาก2ที่มา แต่พ้องกัน

1.1.....เรื่องวัตถุมงคลนำติดตัว แล้วลอดราวผ้าหรือไปในสถานที่อโคจร ผมเคยถามหลวงปู่ว่าเสื่อมไหม หลวงปู่ท่านบอกว่าแล้วแต่อาจารย์ ผมถามว่า แล้วของหลวงปู่ล่ะครับ หลวงปู่ท่านยิ้มๆ ผมก็พูดด้วยความเชื่อมั่นว่า"ไม่เสื่อมใช่ไหมครับ" หลวงปู่ก็บอกว่า"ไม่เสื่อม"   

ที่มาพี่เปิดโลก

1.2...เรื่องลอดราวผ้านี่ก็เป็นที่สงสัยกันมากนะครับ แต่ผมว่าของหลวงปู่ไม่เสื่อมครับมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมยังจำได้อยู่ เคยมีตำรวจรายหนึ่งยศสูงพอควร เขาก็มาเล่าเรื่องว่าคนข้างบ้านไปสักยันต์มาแล้วมาลองให้ดูเขาบอกเหนียวมาก แต่วันหนึ่งเขาไปเผลอลอดราวผ้าโดยไม่รู้ตัว แล้วเขามาลองให้ดูอีกปรากฎว่าไม่เหลือครับต้องไปหาหมอเลยทีเดียว แล้วตำรวจคนนั้นก็ถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ครับของหลวงปู่จะเสื่อมไหมครับ หลวงปู่ท่านนิ่งอยู่ไม่ตอบ เขาก็ถามอีก หลวงปู่ครับจะเสื่อมไหมครับหลวงปู่ หลวงปู่ท่านยิ้มๆ แล้วตอบว่า เออ ไม่เสื่อมหรอกตราบใดที่เองยังศรัทธาในตัวข้า ทั้นใดนั้น เขาก็ก้มกราบหลวงปู่ทันที แล้วว่างๆเขาก็มากราบหลวงปู่อยู่เป็นประจำ ๆ ส่วนตัวผมแล้วเชื่อครับ ถ้าของหลวงปู่เสื่อมจริงผมคงไม่รอดตายจนถึงทุกวันนี้แน่นอนครับ ......

ที่มาพี่ไพศาล

 

2.เหรียญวัดกระซ้าขาว

 

เหรียญหลวงพ่อปู่ วัดกระซ้าขาว ปี2519

 

.....เหรียญนี้จัดพุทธาภิเษก นิมนต์พระเกจิมาหลายองค์ เท่าที่จำได้ มีหลวงปู่สุด วัดกาหลง,หลวงปู่แก้ว วัดช่องลม,หลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้องฯลฯ

 

.....หลวงปู่สุด ตอนกลับมาถึงวัด เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่าเหรียญนี้พิธีดีมาก ปลุกเสกกันได้เต็มที่ ให้ไปหาเช่ากันเอาไว้(เรื่องนี้ผมก็ได้ยินจากลูกศิษย์หลายคนพูดให้ฟังมานานแล้ว) หลวงปู่บอกเห็นเป็นแสงสว่างมากจากกองวัตถุมงคล(ผมฟังลูกศิษย์เล่ามาครับ) บางคนที่เคยไปอยู่ในพิธี มาเล่าว่าพระเกจิที่มาปลุกเสกอยู่องค์หนึ่งบอกว่า เสกกันเต็มที่จนเสกไม่เข้าแล้ว

 

ที่มาคุณเปิดโลก

 

3.สยบเด็กงอแง

 

ลูกศิษย์หลวงปู่ ลูกสาวแกอายุไม่กี่ขวบเอง ร้องไห้ไม่หยุด ทำอย่างไรก็ไม่หยุดร้อง เลยมาหาหลวงปู่ หลวงปู่ทำตระกรุดไม้ไผ่ดอกเล็กๆพันด้ายสายสิญจน์ บอกให้เอาไปผูกข้อมือเด็ก แล้วจะเลิกร้องไห้เอง พอเอาไปผูกข้อมือเด็ก เงียบ เลิกร้องไห้เลย ตัวพ่อบอกตั้งแต่นั้น เลี้ยงง่ายอีกต่างหาก

 

ที่มาคุณเปิดโลก

 

4.พระเครื่องยุคแรกๆของหลวงปู่

 

.....ตอนหลวงปู่มรณะภาพแล้ว อาจารย์พยนต์ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน ท่านก็เปิดวัตถุมงคลที่มีอยู่ทั้งหมด และก็พบพระสมเด็จยุคปี2480กว่าอยู่ในโอ่งด้วย ในปี2526

 

.....ประมาณปี10กว่า ญาติผมได้พระสมเด็จยุคปี2480กว่า มาองค์หนึ่งจากมือหลวงปู่ ขนาดเล็กกว่าสมเด็จรุ่น1มาก เนื้อสวย มวลสารท่านรวบรวมมานาน จากอาจารย์ท่านบ้าง(หลวงปู่รุ่ง,หลวงปู่เหล็ง,หลวงพ่อคง) ทำเองบ้าง บางคนบอกท่านได้ผงวัดระฆังมาด้วย ด้านหลังเป็นรอยนิ้วมือหลวงปู่กดๆทั่วไปหมด ญาตผมบอกว่าตอนนั้นเห็นมีแต่สมเด็จแตกหักแทบทั้งนั้นเลย องค์ที่ได้มาหลวงปู่เลือกให้

 

.....พระสมเด็จแตกหัก ต่อมาก็เอามาผสมกับมวลสารใหม่สร้างเป็นสมเด็จรุ่น1 หลังรูปเหมือน

 

3.คลึงสายสิญจน์แกะไม่ออก

 

ผมขอเล่าเรื่องหลวงพ่อบ้างครับ พ่อของผมไปกราบท่านตอนช่วงปลายอายุ หลวงพ่อนอนป่วยอยู่ พ่อผมก็เข้าไปกราบ หลวงพ่อก็ไม่ได้พูดอะไรมาก หยิบสายสิญจน์ เอามาคลึงๆด้วยมือข้างเดียวให้เป็นก้อนกลม อยู่สักแป๊บ แล้วก็ส่งให้พ่อผม พ่อผมรับมาแล้วก็ใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วก็ลากลับ พอกลับมาบ้านเอาสายสิญจน์มาดู พ่อบอกว่าสายสิญจน์นั้น กลมแน่นมากแกะไม่ออก หาปลายเชือกก็ไม่เจอพ่อบอกว่าก็น่าแปลกเพราะท่านคลึงๆอยู่ไม่นานไม่น่าจะแข็งได้ อันนี้รับรองเป็นเรื่องจริงพ่อผมก็ยังอยู่ แต่สายสิญจน์นั้นหายไปซะแล้ว

 

ที่มาคุณดอกรัก

 

4.ครั้งสุดท้ายที่ได้พบหลวงปู่

 

.....ในปี2526 วันที่ 14 สิงหาคม พวกเราได้สูญเสียหลวงปู่ไป ท่านมรณภาพอย่างสงบ ด้วยอายุ 81 ปี ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2445 ปีขาล ตอนนั้นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ลงข่าวการมรณภาพของท่าน ด้วยอายุ82ปี คนทั่วไปก็เอาไปแทงหวย คนมาถามผมว่า หลวงปู่อายุเท่าไหร่ ผมก็บอกว่า81ปี เพราะผมเพิ่งไปงานทำบุญครบอายุ81ปีมา แต่ตอนนั้นผมรู้สึกเคืองเล็กๆ อย่างไม่มีเหตุผล ว่าทำไมคนต้องเอาอายุหลวงปู่ไปแทงหวย แต่หวยงวดนั้นออก 81 จริงๆ

 

.....ย้อนกลับไป ก่อนหลวงปู่มรณภาพ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณเดือนมิถุนายน หลังงานทำบุญอายุ81 ผมไปกราบท่าน ท่านถามผมว่า"เอ็งจะเอาอะไร" ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไร ผมก็บอกท่านว่า"ไม่รู้จะเอาอะไรครับ อยากมากราบหลวงปู่เฉยๆ" หลวงปู่ก็พูดว่า"เอ็งรอเดี๋ยว" หลวงปู่ก็เข้าไปในห้องสักพักไม่นานก็ออกมา แล้วส่งพระให้ผม เป็นผ้ายันต์ตระกร้อห่อพระไว้9องค์ เป็นพระเนื้อผง สมเด็จ นางพญา พิมพ์วัดพลับ รวม8องค์ และเหรียญรูปท่าน 1 เหรียญ นี่เป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ให้พระผมมากแบบนี้ และเป็นครั้งสุดท้าย ที่ผมได้พบท่านและพูดคุย ไม่มีหลวงปู่อีกแล้ว กราบหลวงปู่ครับ หากผมมีการล่วงเกินหลวงปู่ ด้วยกาย วาจา ใจ ศิษย์กราบขอขมาหลวงปู่ไว้ณ.ที่นี่ด้วย ขอให้หลวงปู่อยู่ในภพภูมิที่สูงๆขึ้นไป

 

5.แล้วแต่วิจารณญาณ

 

สมัยผมเรียนอยู่มัธยมต้น เคยมีประสบการณ์เล็กๆอีกเรื่องหนึ่ง

 

.....ทางศูนย์พระเครื่อง ชุมทางพระเครื่อง สะพานควาย ได้นิมนต์หลวงปู่ฉันเพล และช่วงท้ายหลวงปู่ก็ใช้เทียนทำน้ำมนต์ ประพรมคนที่มากัน ผมกับเพื่อนก็ขอเทียนทำน้ำมนต์มาได้เล่มหนึ่งตัดแบ่งครึ่งกัน และก็ให้หลวงปู่เขียนยันต์เพิ่มให้

 

.....ผมก็เอาไปเลี่ยมแขวนคอ รวมกับเหรียญหลวงปู่ สมัยนั้นมีตู้ป๊อก(ตู้เกมส์)ผมก็ไม่เคยเล่น พอลงไปเล่น ผมก็อธิฐานขอให้ป๊อก(เพื่อที่จะได้เล่นฟรีเพิ่ม) ตู้ก็ป๊อกอยู่ตลอด ธรรมดามันไม่ง่ายนักนะครับที่จะป๊อก เล่นจนผมให้เพื่อนเล่นต่อ มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าเป็นเพราะผมอธิฐานขอ

 

6..กุฏิของหลวงพ่อ

 

.....ผมเคยเข้าไปกุฏิหลวงปู่อยู่ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเข้าห้องหลวงปู่ จะผ่านห้องที่เก็บวัตถุมงคล เท่าที่เห็นมีไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งพระ เครื่องราง ผ้ายันต์ หลวงปู่จะปลุกเสกอยู่ตลอด

 

.....พูดถึงเรื่องกุฏิ ตอนนั้นเหล่าลูกศิษย์และกรรมการวัด ก็สร้างกุฏิใหม่ให้หลวงปู่ ท่านก็ไม่ยอมไปอยู่ ท่านจะอยู่กุฏิไม้หลังเก่านี้ ห้องท่านก็เล็กๆ บันไดขึ้นกุฏิท่าน ที่จับก็โยกไปโยกมาแล้ว ท่านมายอมไปอยู่กุฏิใหม่ ก็ตอนหลังแล้ว ที่ท่านไม่สบายมาก ลูกศิษย์ขอร้องให้ท่านมาอยู่ ตอนนั้นอาจารย์พยนต์มาคอยดูแลปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด

 

7.การลงกระหม่อม

 

....พูดถึงการลงกระหม่อมของหลวงปู่ เห็นมีลงอยู่2แบบ แบบใช้เหล็กจารกับใช้ขมิ้นชิ้น แบบขมิ้นชิ้นเค้าเล่ากันว่าลงแล้ว ถ้ามีลูกจะติดถึงลูกคนโต เคยมีลูกศิษย์ยุคกลางเล่าให้ฟังว่า เค้าไปขอหลวงปู่ลงขมิ้น หลวงปู่บอกว่า"ลงให้ได้ แต่มันติดผม ทำไงวะ" ลูกศิษย์ตอบทันทีเลย"โกนเลยครับ หลวงพ่อ"

 

.....มาถึงยุคผม อยากลงขมิ้นเหมือนกัน แต่นึกไปนึกมาถ้าไปโกนหัว ทางบ้านผมกับตอนไปเรียนหนังสือจะเป็นสภาพไหน(ยังเรียนอยู่มัธยมต้น) ก็เลยเปลี่ยนเป็นลงเหล็กจารมาตลอด เจอเหล็กหลวงปู่ทุกสภาพเลย ด้ามเก่าเหล็กทู่ๆหน่อย ด้ามใหม่เหล็กแหลมเปี๊ยว ด้ามใหม่แบบนี้แหละ ลงถึงใจเลย(ถึงสะดุ้ง) แต่ถ้าแบบสบายๆต้องหลวงปู่แก้ว วัดช่องลม สมุทรสาคร เพราะท่านใช้ปากกาเมจิกลงให้

 

.....ขออนุญาตกล่าวถึงหลวงปู่แก้ว สักเล็กน้อย วิชาลงกระหม่อมของท่าน เป็นของสายหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า ตอนนั้นท่านเล่าให้ฟัง การลงกระหม่อมของท่าน มีเคล็ดต้องขอก่อน ถึงจะลงให้ได้ ผมได้ฟังเสร็จปุ๊บ บอกหลวงปู่ทันทีเลยครับ "หลวงปู่ครับ ขอลงกระหม่อมครับ"

 

8.การสัก

 

บางส่วนของคำสัมภาษณ์ คุณสมาน ขาวงามผ่อง ลูกศิษย์ที่นับถือหลวงพ่อสุด จากหนังสือเซียนพระ 2546

 

-ถ. ยันต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อคืออะไร

 

-ต.ยันต์ตะกร้อ

 

-ถ.สิ้นหลวงพ่อแล้วมีใครรับช่วงสักต่อแทนท่าน

 

-ต.ก็มี อ.พยนต์

 

-ถ.สักเสือเหรอครับ

 

-ต.เสือหลวงพ่อเคยสัก แต่สักเพียง2คนเท่านั้น นอกนั้นสักยันต์ตะกร้อ

 

-ถ.2คนนั้นมีใครครับ

 

-ต.ก็มีพี่ลิ่มบุญด้วง อีกคนจำไม่ได้ว่าคือใคร คนที่สักเสือเเล้วมักร้อน หลวงพ่อต้องเรียกกลับมา

 

สักเสือให้ตาบอดข้างหนึ่ง จะได้อยู่เย็นเป็นสุข ยันต์ตะกร้อนี่เหนียว แต่ต้องปฎิบัติตามคำสอนท่าน

 

โดยเฉพาะเรื่องชู้สาวท่านห้ามเด็ดขาด ถ้าเป็นชู้กับคนอื่น ที่สักไปจะใช้อะไรไม่ได้เลย

 

อีกอย่างจะด่าพ่อแม่ก็ไม่ได้

 

-ถ.ตี๋ใหญ่สักหรือเปล่าครับ

 

-ต.ไม่ได้สักใช้ตะกรุดกับผ้ายันต์ของหลวงพ่อ

 

-ถ.ผ้ายันต์ตะกร้อ?

 

-ต.ครับ ที่หลวงพ่อให้ไปคือยันต์ตะกร้อ ตะกรุดก็ยันต์ตะกร้อเหมือนกัน ถ้ามารับกะมือท่าน

 

ท่านจะเสกให้เลย

 

9.อาจารย์ของหลวงพ่อ

 

เรื่องที่หลวงพ่อสุดเป็นศิษย์ของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือนั้น ผมได้ไปสอบถามจาก ตาชื่น หลานหลวงพ่อรุ่ง ซึ่งปัจจุบันก็ช่วยงานอยู่ที่วัดท่ากระบือ ตายืนยันว่ามาเรียนจริงๆครับ ลุงเล่าว่าหลวงพ่อสุดมาเรียนวิชาจริงมีการยกพานไหว้ครูและเดินทางมาทางเรือแต่ผมถามว่าปีไหน ลุงชื่นบอกว่าไม่ทราบ ที่รู้นี้เพราะคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เขาเล่ากันมา

 

10.สวดคัดแล้วก็ยังเฉย

 

เป็นเรื่องของคุณพ่อของลูกศิษย์ท่านหนึ่งครับ

 

คุณพ่อผมเป็นลูกเรือประมงและมีเรื่องกับลูกเรือด้วยกัน โดยที่อีกฝ่ายเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชื่อดังทางเพชรบุรี  ในคอพ่อมีเหรียญหลวงพ่อปู่ วัดกระซ้าขาวกับยันต์ที่หลวงปู่สักให้แต่ยังไม่เสร็จผลคือเสมอเพราะเหนียวทั้งคู่แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อทางเพชรบุรีตกน้ำเพราะโดนพ่อผมใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงตกน้ำเลยครับแล้วเขาขอยอมบอกพ่อผมว่าไม่เคยเจอใครเหนียวขนาดนี้เลยขนาดสวดคัดแล้วก็ไม่ได้ผล...

 

ที่มาคุณไพศาล

 

11.เหนือ M.16

 

เป็นเรื่องของคนจังหวัดฉะเชิงเทรา เรื่องนี้พ่อผมเล่าให้ฟังอีกที ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งขอเข้ามาหาหลวงปู่พระในวัดบอกว่าหลวงปู่ท่านจำวัดแล้วเพราะดึกแล้ว ได้ยินเสียงหลวงปู่ตะโกนออกมาว่าเอ้าเข้ามาๆเตรียมที่ทางไว้แล้ว ทั้งพระทั้งคนงงกันใหญ่ แต่ในคน กลุ่มนั้นที่มาหาหลวงปู่มีคนเจ็บมาด้วย พอเอาคนเจ็บนอนลง ตอนนั้นพ่อผมบวชเณรอยู่กับหลวงปู่จึงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง พ่อบอกโอ้โห บอกว่า บวมทั้งตัว ช้ำไปหมด ถามไปถามมา โดนยิงมาสองวันแล้ว พึ่งไปเจอเขานอนเจ็บขยับตัวไม่ได้ คิดอะไรไม่ออกเลยพามาหาหลวงปู่เพราะในคอ คนเจ็บ แขวนเหรียญ ปี 14 เหรียญเดียว หลวงปู่ท่านถามว่าโดนยิงด้วยปืนอะไร คนเจ็บพูดได้นิดหน่อย บอกว่า เอ็ม 16 เขากะเอาให้ตาย หลวงปู่บอกไม่เป็นไรลูก

 

พ่อบอกหลวงปู่ท่านเอาแป้งเสกทาตัว แล้วเป่า นอนไม่ถึง 5 นาทีได้มั้งลุกเดิน ปร๋อเลย ทั้งญาติ ทั้ง คนเจ็บ งงตึ่บ ตอนพ่อเล่าให้ฟังก็หัวเราะไปด้วย....

 

ที่มา:คุณไพศาล

 

12.เกร็ดการสัก

 

 

ไต๋เรือคนดังเล่าให้ฟังว่า จะสักยันต์ตระกร้อนี่ต้องอดทน เพราะหลวงปู่จะไม่ค่อยสักให้ใครทีเดียวหมด ต้องหมั่นไปสักต่อ ตัวไต๋เองเล่าว่า บางทีไปถึงหลวงปู่สักอักขระให้แค่2ตัว ไม่สักแล้ว จำได้ว่าอาจารย์วัติเคยบอกว่า ไต๋เรือยังสักไม่เต็มเลย แต่ได้ลูกตระกร้อและยันต์ในตระกร้อแล้ว แค่นี้ก็ตลุยไปทั่วไทยมีชื่อเสียงมากแล้ว บางคนก็สักได้แค่ยอดตระกร้อ บางคนได้ลูกตระกร้อล้วนๆไม่มียันต์และยอด กว่าจะได้ครบบางคนเป็นปีๆก็มี

 

....ในยุคผมตอนนั้นประมาณปี2523 หลวงปู่แทบจะไม่ได้สักเองแล้ว มอบให้อาจารย์พยนต์ที่วัดนาขวางเป็นผู้สัก แล้วมาลงปลุกเสกยกครูกับหลวงปู่ แต่ผมได้ยินว่าก่อนช่วงนั้นก็มี2คนได้สักกับมือหลวงปู่เอง เป็นเณรองค์นึงอีกคนไม่รู้ใคร ผมก็เลยขอสักกับหลวงปู่บ้าง พอดีตอนนั้นท่านไม่ค่อยสบายท่านบอกว่า ถ้าท่านสบายดีแล้ว "หลวงปู่จะไม่ขัดเองเลย" ก็เลยไม่ได้รบกวนท่าน ตอนนั้นผมรู้สึกเสียดาย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีแล้ว ที่ไม่ได้รบกวนท่าน เพราะได้ยินคนที่เค้าไปกราบหลวงปู่ก่อนมรณภาพบอกว่า ช่วงนั้นเห็นหลวงปู่นอนเหมือนไม่มีแรงเลย ผมเพิ่งรู้และได้ยินเป็นครั้งแรกครับ ผมมีท่านอยู่เหนือหัวแล้ว ผมจะเอาอะไรอีก กราบหลวงปู่ครับ

 

13.เก๊แต่แท้

เมื่อก่อนผมมีเพื่อนคนนึงทำงานให้บ้านใหญ่(คนแถวนี้จะรู้จักกันดี)ทุกวันเพื่อนผมจะไปนั่งที่คิวมอไซวินที่ปากทางเข้าการเคหะด้านใน อยู่มาวันนึงผมรู้สึกเบื่อๆ เลยไปนั่งเล่นกับเพื่อน นั่งแทบทุกวันจนรู้จักกับมอไซวินทุกคน ผมก็เอาพระที่ได้มาไปส่องที่คิว ลุงมอไซวินแก่ๆคนนึง เดินมาหาผมหยิบเหรียญหลวงปู่ 17 ให้ดู ผมไม่ได้ส่องบอกแกว่าเก๊ แกก็บอกแท้เถียงกันพักนึงแกก็หัวเราะแกบอกว่า รู้อยู่นานแล้วว่าเก๊ แต่ที่บอกแท้คือ หลวงปู่ปลุกเสกมาให้ ลุงแกเลยเล่าให้ฟังลุงแกเคยเป็นคนขับรถรับ-ส่งหลวงปู่ วันนึงมีญาติโยมนิมนต์ไปทำบุญบ้าน ขณะที่ลุงแกขับรถอยู่(หลวงปู่นั่งข้างๆ) ลุงแกก็คุยกับหลวงปู่ว่า "หลวงพ่อผมได้พระของหลวงพ่อมา หลานมันเอามาให้แต่เก๊" หลวงปู่ ก็บอกกับมาว่าไหนเอามาดูสิ หลวงปู่ดูพระแล้วก็อมยิ้ม และบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวทำให้ หลวงปู่ก็เอาขา 2 ข้างขึ้นมานั่งขัดสมาธิ แล้วกำพระของลุงพร้อมกับบริกรรมไปด้วย แล้วก็ส่งให้ลุงมา "อ่ะ เก็บไว้ให้ดีนะ ใครจะพูดยังไงก็ช่างเขา" ลุงแกเลยเก็บมาถึงทุกวันนี้ ผมฟังแล้วอึ้งถึงกับต้องยกมือไหว้เลย

ที่มา:คุณเพชรแพนด้า

14.เกร็ดการสัก2

เป็นเรื่องเล่าจากอาของคุณเปิดโลก เล่าให้ฟังว่า

สมัยก่อนนั้นหลวงปู่ยังไม่ค่อยดัง มีแต่คนพื้นที่สักกันและมีประสบการณ์ เค้าก็เลยไปขอสักบ้าง น่าแปลกที่หลวงปู่สักให้ด้านหนึ่งก่อน ทั้งๆที่ปกติก็เริ่มสักกลางหลังเลย พอสักไปด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งว่างก็เลยสักอีกด้านหนึ่งเลย เค้าเล่าว่าหลวงปู่ใช้เข็มไม่ยาวมาก น่าจะประมาณฟุตเศษๆ บางคนสักก็มีคนจับขึงหนังให้ตึง บางคนก็ไม่มีใช้นั่งก้มหน้าให้แผ่นหลังตึง สักกันในห้องท่านบ้าง หรือที่สะดวกแล้วแต่

.....ศิษย์รุ่นอาเล่าว่าเค้าต้องใช้เวลาสักเป็นเดือนถึงจะเสร็จ เคยได้ยินว่าหลวงปู่มือหนัก เค้าบอกว่า"ไม่รู้สิ ก็ธรรมดาๆ" แต่บางคนบอกหนักมากถึงกลับมาเป็นไข้ เวลาหลวงปู่สักก็จะเสกกำกับคาถาไปด้วย เค้าเล่าว่าหลวงปู่พูดว่า"ถ้าข้าลืมท่องคาถาไปตัวนึง เอ็งก็เจ็บตัวเปล่าล่ะ" หลวงปู่เป็นอย่างนี้จริงๆ ตอนผมไปกราบท่านสมัยนั้น ผมเคยพูดกับหลวงปู่ว่า อยากจะมาบวชกับหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยิ้มๆแล้วบอกว่า"เอ็งต้องสวดบทขอบวชให้ได้ก่อนนา ถ้าสวดไม่ได้หลวงปู่ไม่บวชให้เอ็งนา"แล้วท่านก็หัวเราะ

....หลังจากสักเสร็จ บางคนก็จะมาเข้าพิธี"ยกครู" แต่ศิษย์รุ่นอาคนนี้ไม่สะดวกไป ผมเลยไม่รู้ว่าพิธีเป็นยังไง เรื่องนี้ต้องขอรบกวนคุณไพศาลด้วยนะครับ หรืออาทิตย์หน้าผมจะไปถามคนที่เคยไปในพิธีอีกครั้ง เท่าที่รู้มาจะทำพิธีในโบสถ์ แล้วนำอาวุธหลากหลายมาทำพิธี"ตัดไม้ข่มนาม" คนที่ไปสักหลวงปู่จะสอนว่า อย่าด่าพ่อด่าแม่ อย่าเป็นชู้กับลูกเมียคนอื่น

.....ในยุคปลายของหลวงปู่ ก็จะให้อาจารย์พยนต์ที่วัดนาขวางหรือมีพระอีกองค์ที่วัดกาหลงเองเป็นผู้สัก แล้วมาให้หลวงปู่เสกคาถากำกับอีกทีก็มี

15.วัตถุมงคลที่ตกค้าง

วัตถุมงคลของหลวงปู่ตกค้างเนี่ย ผมเคยเห็นว่ามีมากจริงๆครับ แต่ผมไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟังบ่อยนัก มีอยู่วันหนึ่งผมเข้าไปหาหลวงปู่ในกุฏิเลย(กุฏิหลังเก่า) และก่อนเข้ากุฏิจะต้องผ่านห้องใหญ่เอาไว้เก็บวัตถุมงคล ผมเห็นวัตถุมงคลเต็มไปหมดเลย ทั้งพระบูชา เหรียญรุ่นต่างๆทั้งเก่าและใหม่(มีชุดนพเก้าด้วยซึ่งผมเข้าใจว่าหมดไปแล้ว) ภาพถ่ายขนาดบูชา แต่ผมแค่มองผ่านๆ เป็นธรรมดาล่ะครับที่ต้องมีคนสงสัย เวลาพระอาจารย์มรณภาพไปแล้ว และยังมีวัตถุมงคลที่ทันท่านปลุกเสกให้เช่าบูชาอยู่ อาจารย์พยนต์ผมก็ไปกราบท่านหลังหลวงปู่มรณภาพแล้ว ก่อนหน้านั้นผมเข้ากราบหลวงปู่ และอาจารย์วัติซึ่งเป็นพระเลขาของท่าน หน้าห้องก็จะมีหลวงตาเจือคอยเปิดตู้ให้เช่าพระ เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ

.....เล่าไปเล่ามา นึกถึงภาพเก่าๆเลยกลายเป็นเรื่องยาวเลย สมัยนั้นเด็กสิบกว่าขวบล่ะครับ มานึกดูผมต้องศรัทธาจริงๆ ไม่งั้นไม่กล้าไปคนเดียวแน่ๆ สมัยนั้นทางเข้าวัดกาหลง ยังไม่ค่อยมีบ้านคนนัก มีแต่ต้นไม้คล้ายป่าเล็กๆ เย็นแล้วก็ไม่มีรถ2แถวออกมา ต้องเดินออกมาคนเดียว ช่างกล้าจริงๆ..

ที่มา:พี่เปิดโลก

16.เรื่องเก่าๆ

นึกถึงสมัยที่ไปกราบหลวงปู่ เคยพบกับบุคคลมากมายหลายระดับที่มากราบหลวงปู่ ตั้งแต่ลูกศิษย์ที่สติรู้สึกประหลาดๆ(คล้ายๆบ้า) แต่สักยันต์ตระกร้อด้วยนะครับ แกไม่แต่งตัวเดินถอดเสื้อ ใส่อะไรก็ไม่รู้เต็มตัวไปหมด แต่ถึงเวลาวันเกิดหลวงปู่แกรู้เรื่อง แกมาที่งานเป็นประจำ เคยเจอดาราที่จำได้มีคุณสะอาด เปี่ยมพงษ์ศานต์(ดารารุ่นเก่า) และก็คนชั้นในฯ ดูดีมีราศรีมากผิวพรรณดูสะอาดขนาดมีอายุแล้ว บุคคลิกการวางตัวก็สุภาพน่าเลื่อมใส ฯลฯ มีทุกประเภทแหละครับ คนที่ไปกราบหลวงปู่ ท่านต้อนรับทุกชั้นวรรณะ

.....การได้ไปกราบหลวงปู่ครั้งแรก ไต๋เรือคนดังเป็นคนพาไป ต่อมาก็บินเดี๋ยว สมัยนั้นเรียนมัธยมต้นอยู่แถวลาดพร้าว พักอยู่กรุงเทพฯ เสาร์-อาทิตย์ก็กลับบ้านที่ท่าฉลอม ก่อนเข้าบ้านก็ต้องนั่งรถเลยไปวัดกาหลงก่อน วันอาทิตย์จะกลับกรุงเทพฯก็ต้องไปวัดกาหลงก่อนแล้วค่อยกลับกรุงเทพฯ มุ่งมั่นครับ

ที่มา:พี่เปิดโลก

 

17.จุดเริ่มต้นที่ศรัทธา

 

.....เมื่อในราวปี2521ผมยังเรียนอยู่มัธยมต้น มีความรักเคารพหลวงปู่สุดอย่างที่สุด สมัยนั้นหลวงปู่สุดดังมาก

 

ผมได้ยินได้ฟังคนพูดถึงอภินิหารประสบการณ์ของหลวงปู่สุดอยู่ตลอดมา ที่แรงๆก็ต้องยกให้เหรียญเสือเผ่นปี2517ในยุคนั้น(อาจเป็นเพราะรุ่นนี้สร้างมากกว่ารุ่นอื่น คนแขวนมากกว่าโอกาสเจอประสบการณ์เลยมากตาม) ผมก็กราบไหว้รูปของท่านและแขวนเหรียญรุ่นแรกปี2506อยู่เสมอมา

 

......จนมาวันหนึ่ง มีลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่เป็นไต๋เรือ มาหาอาของผมที่บ้าน ผมได้คุยและเค้าก็เล่าเรื่องราวต่างๆที่ผมเคยเล่าไว้หน้าแรกๆ เรื่องที่ไปมีเรื่องกับนักเลงเพชรบุรี เรื่องที่ไปขอลงน้ำมันกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ผมก็โชว์เหรียญรุ่นแรกที่ผมแขวนคออยู่ เค้าบอกว่าเค้าก็รอดตายเพราะรุ่นนี้แหละมาหลายครั้งแล้ว เค้าเล่าเรื่องที่ไปขอหลวงปู่สักยันต์ตระกร้อ หลวงปู่สักอักขระให้ครั้งละตัวสองตัว บางครั้งไม่สักให้ก็มี แต่ยันต์ตระกร้อที่ไม่เต็มสมบูรณ์นี่แหละแต่พร้อมความศรัทธาที่มีอยู่ ทำให้เค้าแคล้วคลาดคงกระพันจนมีชื่อเสียงมากในยุคนั้น

 

.....และที่สุดก็มาถึงเรื่องสำคัญของผม เค้าเห็นผมศรัทธาหลวงปู่มาก เค้าก็เลยออกปากชวนไปกราบหลวงปู่ด้วยกัน เป็นงานคล้ายวันเกิดท่านวันที่7พฤษภาคม ผมดีใจมากผมเตรียมตัวเตรียมใจอย่างที่สุด ผมจะได้ไปกราบหลวงปู่วัดกาหลง พระที่ผมได้ยินแต่ชื่อเสียงท่าน อภินิหารท่าน ท่านจะมีรูปร่างอย่างไร ท่านจะดุเมตตาแค่ไหน ผมแทบจะอดใจรอไม่ได้

 

.....วันที่7พฤษภาคมในปีนั้น วันนี้ผมจะได้พบกับหลวงปู่พระผู้ซึ่งอยู่บนหัวและในใจของผมแล้ว ผมรอเตรียมตัวตั้งแต่เที่ยงตามนัด รอจนบ่าย จนบ่าย2โมง จนความคิดของผมสับสนไปหมด ผมตะโกนร้องเรียก"หลวงปู่"ดังๆ จากนั้นอีกประมาณ10นาที มีเด็กมาตามผม บอกว่าไต๋เรือให้มาตาม รออยู่ที่บ้านคนรู้จักใกล้กับบ้านผม ผมโลดแล่นไปทันที พอเจอไต๋เรือ เค้าก็บอกว่า ขอโทษด้วยความจริงเค้าไม่ว่างเลยวันนี้ และก็ตั้งใจจะไปทำธุระอื่นอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมพอขี่รถไปได้ถึงวงเวียน ต้องเลี้ยวรถกลับมา(เป็นช่วงเวลาที่ผมตะโกนเรียกหลวงปู่พอดี)

 

.....ผมไปถึงที่วัดกาหลงพร้อมกับไต๋เรือคนดัง สมเป็นคนดังจริงๆ รู้จักและทักกับเหล่าลูกศิษย์มากมาย มีคนมากมายจริงๆวันนั้น เต็มวัดไปหมด เอ!..แล้วหลวงปู่อยู่ไหนเนี่ย ใจผมก็ตื่นเต้นมาก ไต๋เรือพาผมขึ้นกุฏิหลวงปู่ เป็นกุฏิไม้เก่าๆ ผมพบหลวงปู่แล้ว! แต่มองไม่ถนัดนัก คนรุมเข้าพบหลวงปู่มากมาย ไต๋เรือจึงพาไปกราบอาจารย์หวัดก่อน(เป็นเพื่อนกัน)

 

.....แล้วจึงออกมา พอดีหลวงปู่พักรับแขกออกไปเจิมรถ ช่วงนั้นไต๋เรือจึงพาผมเข้าไปกราบหลวงปู่ ผมได้พบหลวงปู่แล้วแบบใกล้ๆเลย แม้วันนั้นผมยังไม่ได้คุยอะไรกับหลวงปู่ แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นครั้งยิ่งใหญ่ของผม ต่อมาผมได้ไปกราบหลวงปู่ได้รับเมตตาจากหลวงปู่มากมาย หลวงปู่ใจดีเมตตามาก ยิ้มเชิงหัวเราะอยู่ตลอด เข้ากราบท่านแล้วสบายใจ  กราบหลวงปู่ครับ

 

18.ชอบแจก

 

.....วันที่7พ.ค.เมื่อ30กว่าปีก่อน เคยเป็นวันที่ผมมีวาสนาเป็นมงคลอย่างสูงของชีวิตครั้งหนึ่งทีเดียว ผมได้กราบพบหลวงปู่สุด วัดกาหลง อันเป็นที่รักเคารพอยู่บนหัวและในจิตใจ ท่านไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย ท่านเป็นพระที่มีเมตตา ใจดี ใครขออะไรท่านก็ให้ ใครๆก็รู้ว่าท่านชอบแจกพระ แจกจนกรรมการวัดต้องมาขอให้ท่านแจกน้อยลง   แจกอย่างเดียว เดี๋ยวไม่มีคนมาเช่าในตู้บูชา

 

.....ยิ่งในสมัยยุคแรกๆ คนแขวนเหรียญท่านไปเจอประสบการณ์ มาขอสักกัน ท่านก็ไม่ขัดศรัทธา แต่จะทนกันได้หรือเปล่าก็แล้วแต่กรณี บางคนก็ว่าท่านมือหนัก บางคนท่านก็สักอักขระให้ทีละตัวสองตัว คงมีเหตุผลของท่าน เพราะบางคนท่านเห็น ท่านเรียกเข้ามาสักให้ครบสมบูรณ์เลย บางคนได้2ลูกก็มี ท่านไม่ได้เรียกร้องอะไร ไม่ได้ดูว่ารวยหรือจน เพราะผมเคยเห็นมีลูกศิษย์ท่านคนหนึ่ง ดูเหมือนสติจะไม่ค่อยปกติ ไม่ใส่เสื้อ แขวนพระ-เครื่องรางเต็มตัวไปหมด ยังสักยันต์ตระกร้อด้วย วันงานคล้ายวันเกิดหลวงปู่ ก็มาทุกปี

นึก ถึงภาพเก่าๆเลยกลายเป็นเรื่องยาวเลย สมัยนั้นเด็กสิบกว่าขวบล่ะครับ มานึกดูผมต้องศรัทธาจริงๆ ไม่งั้นไม่กล้าไปคนเดียวแน่ๆ สมัยนั้นทางเข้าวัดกาหลง ยังไม่ค่อยมีบ้านคนนัก มีแต่ต้นไม้คล้ายป่าเล็กๆ เย็นแล้วก็ไม่มีรถ2แถวออกมา ต้องเดินออกมาคนเดียว ช่างกล้าจริงๆ..

 ที่มา:พี่เปิดโลก

 

 





หลวงพ่อสุด วัดกาหลง:ด้วยความรักจากความทรงจำของศิษย์
Top