ข้อคิดดีๆ กับพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ. ชัยภูมิ - webpra

ข้อคิดดีๆ กับพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ. ชัยภูมิ

บทความพระเครื่อง เขียนโดย ธรณ์

ธรณ์
ผู้เขียน
บทความ : ข้อคิดดีๆ กับพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ. ชัยภูมิ
จำนวนชม : 1019
เขียนเมื่อวันที่ : พ. - 26 ธ.ค. 2555 - 14:00.44
แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ : พฤ. - 27 ธ.ค. 2555 - 13:39.26
(คลิ๊กที่ชื่อผู้เขียนผู้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียน)

ข้อคิดดีๆ กับพระไพศาล วิสาโล

เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ. ชัยภูมิ

 ปีเก่า

         ปีเก่าคือประสบการณ์ อันล้ำค่าที่เราไม่ควรปล่อยให้สูญไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ว่าประสบการณ์นั้นจะดีหรือเลว บวกหรือลบ สำเร็จหรือล้มเหลว ประสบการณ์เป็นสิ่งล้ำค่าถ้าเรารู้จักใช้ แม้จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดี ก็เอามาใช้เพื่อ ที่เราจะสรุปบทเรียน และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นอีก

           การทบทวนด้วยใจที่เป็นกลาง หมายความว่าสามารถมองไปถึงความล้มเหลวความผิดพลาดได้ โดยไม่รู้สึกแย่กับตัวเอง ไม่รู้สึกผิดกับตนเอง เพราะถ้าหากเราเอาประสบการณ์ที่ผิดพลาดในอดีตเป็นบทเรียน จะทำให้เราลบล้างความผิดพลาดในอดีตได้ อยากให้เรากล้ามอง กล้าทบทวน เพื่อที่จะไม่ประมาทในชีวิต และอีกด้านเมื่อเราทบทวนด้านที่ประสบความสำเร็จ ก็อย่าหลงตัวลืมตนเพราะไม่มีอะไรแน่นอน มีคนบอกว่า ความสำเร็จคือความล้มเหลวที่ยังไม่ปรากฏ อย่าเหลิงในความสำเร็จ เพราะนั่น อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวก็ได้ อย่าประมาท

สิ่งที่ควรถาม

           ตอนนี้คนมักจะถามกันว่าเมื่อไหร่บ้านเมืองจะสงบ ทำยังไงเศรษฐกิจจะดีขึ้น ส่วนใหญ่ไปถามนอกตัว เราจะต้องถามว่าทำไมเราต้องเอาความสุขของเราไปแขวนกับเหตุการณ์บ้านเมืองภายนอก ทำไมต้องเอาความสุขของเราไปฝากไว้กับเศรษฐกิจโลกด้วย อาตมาคิดว่านี่สำคัญ เราปล่อยให้สิ่งภายนอกมาบงการชีวิตของเรามากไปหรือเปล่า ความสุขของเราทำไม ไม่ใช่เราที่เป็นคนคุม นี่คือสิ่งที่ปีใหม่ทุกคนควรจะถาม

 สุข-ทุกข์อยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญ      

              เราควรรู้จักตัวเองให้มากขึ้น และตระหนักว่าสุขหรือทุกข์อยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่ภายนอก ขณะที่เราไปเพ่งมองที่ภายนอกแล้วเราไปเพ่งมองภายนอกแล้วเราก็ไปโทษภายนอก ว่าเป็นเหตุให้เราทุกข์ แต่เราไม่เคยมามองที่ตัวเราเองว่าเป็นเพราะใจของเราหรือเปล่า เป็นเพราะตัวเราเองหรือเปล่าที่เป็นต้นตอแห่งความทุกข์ ซึ่งเป็นการมองข้ามความรับผิดชอบของตัวเรา เราต้องดูที่ตัวเราเองก่อนว่าเราแกตัวเราเองหรือยัง เพราะทุกวันนี้ คนเราไปแก้ข้างนอกเยอะ จนกระทั่งไม่แก้ตัวเอง เราโกรธ เราเกลียดคนที่คิดต่างจากเรา แม้กระทั่งคนที่อยู่ในบ้านเดียวกับเรา เพราะเขาคิดไม่เหมือนเราทั้งๆที่มีแค่เรื่องเดียวที่คิดไม่เหมือนเรา เรื่องอื่นนี่คิดเหมือนกันหมดเลย แล้วเราก็มาโกรธกัน อะไรทำให้เราโกรธเกลียดกันอย่างนี้ เป็นเพราะคนอื่น หรือเป็นเพราะเราไปมองที่ความแตกต่างมากกว่าที่จะมองที่ความเหมือนกัน

 ตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน

              การเจริญสติควรจะดำเนินในชีวิตประจำวันด้วย กินข้าว อาบน้ำ ทำครัว ซักผ้า นี่คือโอกาส ในการเจริญสติได้ทั้งนั้น คือทำอะไร ก็อยู่กับสิ่งนั้น อย่าปล่อยให้ใจฟุ้งซ่าน ทำเป็นอย่างๆ ไม่ใช่กำลังกินก็คิดไปเรื่องงานเรื่องการ คนเราสมัยนี้ชอบจะคิดข้ามชอตอยู่เป็นประจำ ไม่ยอมอยู่กับสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา อย่างนี้คือไม่มีสติ การอยู่กับปัจจุบันไม่ได้ขัดแย้งกับการวางแผนชีวิต ขณะที่คุณวางแผนถ้าใจคุณคิดอยู่กับการวางแผน ตอนนั้นก็เท่ากับการคิดวางแผนเป็นปัจจุบันขณะ เมื่อคุณกำลังวางแผนการทำงานในวันพรุ่งนี้ ก็ให้คุณมีสติอยู่กับสิ่งนั้น อย่าวอกแวก อย่าคิดวน จะทำให้มีอารมณ์วิตกกังวลเข้ามา ที่พระพุทธเจ้าบอกให้อยู่กับปัจจุบันขณะ คือไม่ฟูมฟายไปกับอดีต แลไม่วิตกกังวลไปกับอนาคต เพราะมันยังมาไม่ถึงจะวิตกกังวลไปทำไม เพราะมันก็ไม่ช่วยให้อนาคตเป็นไปอย่างที่คุณต้องการง่ายๆ เวลาเจอไฟแดงแล้วรถติด ทำไมคนส่วนใหญ่ทุกข์ เพราะกลัวว่า จะไปสาย แล้วใจที่อยากจะให้ไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวไวๆ ถามว่าเป็นทุกข์หรือเปล่า ถามว่าได้ประโยชน์อะไรมั๊ย การที่คุณกังวลมาก แล้วจะทำให้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวหรือเปล่า จะทำให้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้นหรือเปล่า   ในเวลาเช่นนั้นไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าคุณจะสนใจกับเสียงเพลงหรือข่าว ที่คุณเปิดทางวิทยุ หรือว่าดูลมหายใจเข้า-ออก แทนที่จะวิตกกังวล ว่าเมื่อไหร่จะไฟเขียวสักที นี่คือการอยู่กับปัจจุบัน ไม่มัวกังวลกับอนาตต ที่ยังมาไม่ถึง

 


Top