หลักการดูงานเลี่ยม เต่าและนกสาริกา หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จังหวัดนครนายก

เผื่อจะหายสงสัย ???

          เนื่องจากทุกวันนี้ได้มีบรรดาลูกศิษย์และผู้ศรัทธาในวัตถุมงคล ของหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ซึ่งก็มีการจัดสร้างวัตถุมงคลหลากหลายรูปแบบ ผม..ในฐานะช่างเลี่ยมกรอบพลาสติก ได้รับงานจากหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย (งานเลี่ยมเต่า,นกสาริกา และจระเข้) โดยการติดต่อจากน้าชาย (น้าเซ้ง) เป็นผู้พาไปรับงานซึ่งท่านได้ให้นำมาเลี่ยมกรอบพลาสติกส่งให้ทางวัด โดยมีข้อตกลงว่าให้เก็บค่าเลี่ยมเมื่อเสร็จงานกฐินแล้ว ซึ่งก็ได้ตกลงรับงานมาทำที่บ้านโดยทำส่งไปเรื่อย ๆ พอถึงวันกฐินก็จะไปรอรับค่าเลี่ยมจากหลวงพ่อทุก ๆ ปี จนกระทั้งหลวงพ่อสนิทได้มรณภาพลง ซึ่งผมได้ไปขอค่าเลี่ยมที่ตกค้าง ซึ่งทางคณะกรรมการ(คุณน้าสมาน ถ้าจำชื่อไม่ผิด) ได้บอกผมว่าไม่มีใครนำเงินมาจ่ายให้หรอก ของที่ตกค้างอยู่กับช่าง ช่างจะเอาไปทำอะไรก็เอาไป (เป็นอันว่าจบกัน) ซึ่งจำนวนของที่ตกค้างอยู่มีจำนวนไม่น้อย ผมได้แจกไปบ้าง จำหน่ายไปบ้าง ต่อมาได้มีการเสาะหาจระเข้รุ่น ทบ. ก็มีหลายคนมาขอแบ่ง (สำหรับเต่าและนกสาริกาก็มีมาขอแบ่งไปบ้างเช่นกัน) อาทิเช่น เซียนฮวดบ้านสร้างแห่งแผงพระพันทิพย์งามวงวาน(ปัจจุบัน) เซียนเปี๊ยก(ภรรยาชื่อมะลิ)เซียนนครนายก เซียนสมบัตินครนายก เซียนศักดิ์ดาปราจีนบุรี เซียนเชิญปราจีนบุรี และเซียนแจ้ปราจีนบุรี รวมถึงแผงพระในท่าพระจันทร์ (บางแผง) เป็นต้น มาถึงช่วงนี้มีการเสาะหาเต่าและนกสาริกา ซึ่งผมก็พอมีตกค้างอยู่บ้างเพราะช่วงก่อนยังไม่มีราคา ซึ่งก็มีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาขอแบ่ง กระแสกลับออกมาว่าของตกค้างกับช่างไม่ได้ปลุกเสก ซึ่งหลวงพ่อเคยบอกไว้ว่าเสกแล้วจึงให้มาเลี่ยมไม่มีการปลุกเสกซ้ำ (เลี่ยมแล้วจำหน่ายเลย) พอปัญหาตรงนี้เบาลงไปก็บอกว่า เต่าต้องมีสีแดงบ้าง สีเทาบ้าง ของตกค้างก็ว่าเป็นเก๊ซะเลย ผมจะบอกให้ เต่าของหลวงพ่อสนิท มีหลายสีครับ เช่น ขาวใสเหมือนหยกก็มี สีขาวขุ่น สีส้ม สีเขียว สีแดงด่าง ๆ ก็มี ฉะนั้น เท่าที่เคยสังเกต เต่าเล็กที่นำมาเลี่ยม จะลงอักขระบนด้านหลัง 4 ตัว ด้านใต้ท้องลง 1 ตัว (มี 2แบบ) ซึ่งเคยสอบถามหลวงพ่อว่าทำไมใต้ท้องถึงลงไม่เหมือนกัน ท่านได้บอกว่า ลงคำว่า พุ คือตัวผู้ ลงคำว่า มิ คือตัวเมีย

        ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อสนิทมีมูลค่าสูงขึ้น ทำให้หลาย ๆคนทั้งในเขตจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงที่พอจะรู้ว่า ผมเป็นช่างเลี่ยม ได้แวะเวียนมาถามถึงลักษณะงานเลี่ยมเต่า นกสาริกา และจระเข้อยู่เสมอ ผมได้บอกไปว่าสำหรับงานเลี่ยมจระเข้ มีช่างหลายฝีมือ (จระเข้รุ่นตอกโค้ด ทบ.) เพราะหลวงพ่อสนิทท่านไม่ได้เน้นเรื่องงานเลี่ยมซักเท่าไหร่ ทางวดจึงได้ติดต่อช่างเลี่ยมหลายคนให้นำไปทำ สำหรับงานเลี่ยมเต่าและนกสาริกา ผมเป็นผู้เลี่ยมเพียงเจ้าเดียว

         ลักษณะงานเลี่ยมครั้งแรก เต่าและนกสาริกา ได้ทำไปส่งท่านประมาณอย่างละ 200 อัน ซึ่งท่านได้ตำหนิ ว่าไม่สวยงามเพราะมีขอบปีกเหมือนงานเลี่ยมพระเหรียญทั่วไป ให้เปลี่ยนแบบเป็นทรงครอบแก้ว โดยกำชับว่า ต้องไม่มีขอบปีก ใช้มือลูบสัมผัสต้องเนียนเรียบไม่ให้มีสับขอบเหมือนการเลี่ยมพระเหรียญ และกำหนดให้ทำรูปแบบการเลี่ยม เพื่อให้เหมาะกับผู้หญิงโดยทำลักษณะเป็นรูปหัวใจและได้เน้นเป็นพิเศษว่าต้องไม่มีขอบปีกเช่นกัน

        ลักษณะการเลี่ยมเต่าและนกสาริกาในครั้งแรก

เต่า.             เลี่ยมครั้งแรกเป็นทรงรูปไข่มีไส้กลางเป็นพลาสติกใสหนาประมาณ 2-3 ม ม. อุดด้านบน (รูบรรจุน้ำมัน) ด้วยก้านไม้ขีดไฟ (ประมาณ 200 อัน)

นกสาริกา      เลี่ยมครั้งแรกเป็นลักษณะซุ้มโค้งฐานตรง ไส้กลางเป็นพลาสติกสีอุดด้านบนด้วยก้านไม้ขีดไฟเช่นเดียวกับเต่า (ประมาณ 200 อัน)

          จากนั้นได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบการเลี่ยมให้เป็นไปตามเจตนารมของหลวงพ่อและคิดวิธีการบรรจุใส่น้ำมันขึ้นใหม่เนื่องจากการใช้ก้านไม้ขีดไฟมีการรั่วซึม

         วิธีการดูงานเลี่ยมเต่าและนกสาริกา

เต่า.              เลี่ยมทรงครอบแก้วไม่มีขอบสันปีก (เรียบเนียน ฐานปิดด้วยพลาสติกใสและสี) ประเภทฐานพลาสติกสีจะเป็นพลาสติก 3 ชั้น สีที่ใช้มี ส้ม แดง เหลือง เขียว ขาว ฟ้า น้ำเงิน และแผ่นใส (สลับสีกันไป) ขนาดของพลาสติกฐานมีขนาด 0.5-1 ม ม. เท่านั้น ประเภทฐานพลาสติกใส ใช้พลาสติกใสขนาด 2-2.5 ม ม. (ปิดแผ่นเดียวเท่านั้น) ส่วนทรงรูปหัวใจด้านหน้าโปร่งใส ด้านหลังปิดด้วยแผ่นสี 3 ชั้นหลังเรียบขอบเรียบไม่มีสันปีก

นกสาริกา       เลี่ยมลักษณะทรงครอบแก้วไม่มีขอบสันปีกเช่นเดียวกับเต่า ปิดฐานด้วย พลาสติกสี 3 ชั้น (ไม่มีการปิดด้วยแผ่นใสอย่างเดียว)

         ลักษณะการบรรจุน้ำมัน

               การบรรจุน้ำมัน หลังจากที่เปลี่ยนจากการใช้ก้านไม้ขีดไฟ เพราะมีการรั่วซึม ได้ทำขึ้นหลายวิธี ดังนี้

         1. โดยการใช้แท่งพลาสติกใส อัดแน่นแทนก้านไม่ขีดไฟ

         2. โดยใช้การบรรจุแบบไม่มีการเจาะใด ๆ

         3. โดยการบรรจุทางใต้ฐาน

               ลักษณะงานเลี่ยมที่ทางวัดจำหน่ายมีรูปแบบตามที่กำหนดเท่านั้น ไม่มีรูปทรงอื่น และการบรรจุน้ำมันต้องบรรจุเต็มหรือให้มีฟองอากาศเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

        ท้ายนี้..... หวังว่าทุกท่านคงพอจะเข้าใจถึงลักษณะงานเลี่ยมเต่าและนกสาริกาของหลวงพ่อสนิท วัดลำบังลอย จังหวัดนครนายก กันนะครับ

อ้อ!!! ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง

        บังเอิญลูกสาวได้ดู MV เพลงของวง ฟาเรนไฮน์ และได้บอกว่า ใน MV มีเต่าที่ผมเลี่ยมด้วย ถ้าอยากดูงานเลี่ยมเต่าให้ไปดู MV เพลง ผิดไหม วง ฟาเรนไฮน์ ใน www.youtupe.com ก็ได้ เพราะรถที่ใช้ก็ห้อยด้วยเต่าเลี่ยมน้ำมันของหลวงพ่อ คล้องไว้ที่กระจกส่องหลัง ก็ไม่รู้ว่าเป็นรถใคร แต่คงเป็นรถของลูกศิษย์หลวงพ่อสนิทเช่นกัน โชคดีทุกท่านครับ

ขนาดความกว้าง-ความสูงของงานเลี่ยมนกสาริกา

 1.  สูงประมาณ 3-3.5 ซ ม.(วัดจากฐานถึงปลายหูแขวน)

 2.  กว้างประมาณ 2 ซ ม. (วัดจากช่วงกลางของโปร่งครอบ)

 3.  เนื่องจากเป็นงาน Hand make ทั้งหมด ความสูงอาจมีสูงต่ำต่างกันไป แต่จะสูงไม่เกิน 3.5 ซ ม.

 4.  อาจจะเล็กกว่าเพราะการขัดแต่งได้ แต่ไม่มีใหญ่กว่านี้

ขนาดความกว้าง-ความสูงของงานเลี่ยมเต่า

 1.  สูงประมาณ 2-3 ซ ม. วัดจากฐานถึงปลายหูแขวน

 2.  กว้างประมาณ 2 ซ ม. วัดความกว้างแผ่นปิดฐาน

                                                                                                                                             ช่างเลี่ยม

                                                                                                                                         086-792-5406

 ทุกวันนี้ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อสนิทมีราคาสูงขึ้นโดยเฉพาะนกสาลิกาก็มีบรรดาเซียน(ผู้รู้)เกิดขึ้นเยอะไปหมดเห็นพวกเพื่อน ๆ และคนที่รู้จักบอกว่านกต้องไม่มีมวลสารบางคนก็ว่ามี 4 แบบ 4 พิมพ์ ตามที่ผู้รู้กำหนดหลายคนถามผมซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่รู้เหมือนกันเพราะตอนที่ยกมาทั้งหมดนั้นมันก็เหมือน ๆ กันหมด จะแตกต่างก็เพียงขนาดเล็กใหญ่กว่ากันแต่ก็เพียงเล็กน้อยไม่มากนักสาเหตุที่เล็กใหญ่ต่างกัน ปากสั้นปากยาว ปากงุ้มและปากทู่ก็มีเกิดจากการขัดแต่งเพื่อเก็บรอยตะเข็บแล้วแต่คนแต่งเพราะแม่พิมพ์เป็นแบบประกบสำหรับผมก่อนจะนำมาเลี่ยมก็ต้องใช้แปรงและกระดาษทรายขัดเพื่อทำความสะอาดเพราะหลวงพ่อท่านได้กำหนดให้ขัดและทำความสะอาดก่อนที่จะเลี่ยมเพื่อน้ำมันจะได้ไม่ขุ่นจากผงแป้งโรยพิมพ์นกสาริกาจะเลี่ยมส่งตามจำนวนที่หลวงพ่อสั่งในแต่ละครั้ง

ในยุคสมัยหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ยังมีชีวิตอยู่ การเดินทางไปวัดยังไม่ค่อยสะดวกนัก เส้นทางคับแคบ เป็นลักษณะทางเกวียน รถวิ่งสวนทางกันยังไม่ได้ ต้องคอยหลบแอบเข้าทางแยกหรือบ้านคน (ถ้ามี) ไม่ก็คันใดคันหนึ่งต้องยอมถอยหลังเพื่อหาช่องทางแอบให้รถอีกทางหนึ่งผ่านไป ผมเคยนำงานเลี่ยมไปส่งช่วงหน้าฝนรถสามล้อถึงกับติดหล่ม (ผมใช้รถสามล้อตุ๊กครับ) ดินเลนติดขึ้นมาอัดแน่นในช่วงล้อหน้ากับหม้อน้ำทำให้หม้อน้ำรั่ว จากการทีผมรับทำงานเลี่ยมให้กับหลวงพ่อมานานนับ 10ปี จนกระทั่งหลวงพ่อได้อาพาส(ป่วย) ก่อนวันรับกระถินในปี พ.ศ. 2541 และได้มรณภาพลงในช่วงต้นปี พ.ศ. 2542 นั้น ทำให้ผมไม่สามารถเก็บค่าเลี่ยมได้

                เชื่อไหมครับผมไม่เคยเห็นว่ามีเซียนพระเข้าไปที่วัดเลยในช่วงเวลาที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ วัตถุมงคลก็ยังไม่มีราคาค่างวดอะไร (ยกเว้นจระเข้รุ่นแรก) จนมาระยะหนึ่งเริ่มมีการเสาะหาจระเข้รุ่นทบ.โดยเซียนฮวดบ้านสร้างแผงพระที่บางลำพูงามวงศ์วาน(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน)มารับซื้อจระเข้รุ่นทบ.ที่แผงพระซอยมารีในปราจีนบุรีบรรดาเซียนพระในปราจีนต่างพากันมาขอแบ่งจระเข้รุ่นทบ.จากผมไปส่งให้เซียนฮวดบ้านสร้างมีทั้งขอหิ้วไปก่อนทั้งที่ให้เงินสด ส่วนเต่าและนกสาลิกายังไม่มีใครรับเช่าก็เลยแจกฟรีไปบ้างในช่วงเวลานั้นจากนั้นเซียนฮวดบ้านสร้างได้เข้ามาซื้อจระเข้รุ่นทบ.ที่บ้านผมเองซึ่งเฮียฮวด(ขออนุญาตเรียกเฮียฮวดนะครับ)นั้นรู้จักกับน้าเซ้งน้าชายผมเป็นอย่างดีโดยเฮียฮวดจะขอซื้อทั้งหมดซึ่งผมได้แบ่งให้ไปประมาณสัก 300 ตัว เวลาผ่านไปก็มีเซียนพระในปราจีนและนครนายกมาขอแบ่งเต่าทั้งชนิดเลี่ยมน้ำมันแล้วและไม่ได้เลี่ยมที่จำได้ว่าเช่าไปมากหน่อยเห็นจะมีเซียนเชิญ, เซียนศักดิ์ดาปราจีน, และเซียนสมบัตินครนายก มาถึงช่วงประมาณปลายปีพ.ศ.2551 ถึง พ.ศ.2552 เซียนเชิญเซียนศักดิ์ดาและเซียนสมบัติก็ได้มาขอแบ่งนกสาริกาอีกซึ่งในขณะนั้นราคาไม่กี่ร้อยบาท

                ช่วงนี้ยิ่งแปลกขึ้นไปอีกเพราะบางคนบางท่านได้บอกว่ามีผู้รู้กำหนดว่าเต่าและนกสาริกาชนิดที่มีเลี่ยมใส่น้ำมันนั้นไม่มีออกจากวัดเป็นของเก๊ทั้งหมดผมก็เป็นคนเลี่ยมและทำตามเจตนาของหลวงพ่อด้วยซ้ำคือหลวงพ่อเป็นผู้กำหนดรูปแบบงานเลี่ยม ปัจจุบันทำไมถึงกลายเป็นเก๊ไปหมดแถมยังว่าไม่มีออกจากวัดอีกต่างหากอย่างนี้ทางวัดและคณะกรรมการจะทำอย่างไรเพราะลูกศิษย์ของหลวงพ่อที่เคยได้ไปในสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้นได้กลายเป็นของเก๊ไปซะแล้ว ของตกค้างกับช่าง(ผม)ก็ว่าไม่ผ่านการปลุกเสกไม่เข้าใจเหมือนกันแล้วชุดที่ซื้อขายกันเป็นงานเลี่ยมแบบอุดด้วยก้านไม้ขีดไฟตกลงแท้ไหมเพราะผมก็เป็นคนเลี่ยมขออนุญาตอ้างถึงดาบตำรวจเชาวลิต อ่างแก้ว ซึ่งพอผมได้เล่าเรื่องงานเลี่ยมเต่าและนกสาริกาใส่น้ำมันให้ฟังว่ามีคนบอกว่าไม่มีออกจากวัดเป็นของเก๊ทั้งหมดนายดาบตำรวจท่านนี้เลยให้เบอร์โทรของท่านมาลงเพื่อที่ใครสงสัยว่าวัตถุมงคลที่ทางวัดจำหน่ายมีงานเลี่ยมน้ำมันหรือไม่ให้โทรติดต่อได้ที่

เบอร์โทรศัพท์ : 081-4064931

ดาบตำรวจเชาวลิต อ่างแก้ว

            เมื่อคุณถาม ผมก็ตอบ

มีคนเคยถามว่านกสาริกาของหลวงพ่อสนิทวัดลำบัวลอยเป็นเนื้ออะไรผมก็ได้บอกไว้ว่าจากที่เคยได้ถามหลวงพ่อถึงเนื้อหาของนกสาริกาซึงท่านก็ได้เคยบอกไว้ว่าเป็นเนื้อผงผสมผงขมิ้นเสกและจากที่ผมสังเกตนกสาริกานั้นมีสีสันวรรณะแตกต่างกันไปบางตัวแก่ขมิ้นจะออกน้ำตาปนแดงหรือแดงส้มบ้างก็ออกขาวเหลืองถ้ายังไม่ผ่านการใช้แต่หากท่านมีนกสาริกาอยู่ลองสังเกตดูนะครับจะเห็นว่าภายในเนื้อหาจะมีจุดเล็กๆสีแดงส้มอยู่ทั่วไปไม่มากก็น้อย เนื้อออกสีเหลืองทั้งตัวซะทีเดียวไม่เคยเห็นเหมือนกันผมคิดว่าเนื้อหาน่าจะคล้าย ๆพระสมเด็จเนื้อขมิ้นของท่านเจ้าคุณนรฯวัดเทพศิรินทร์ นะครับ

                ตรงนี้ผมใคร่อยากขอความรู้ที่มีความชำนาญเรื่องเนื้อหาของพระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อผงผสมผงขมิ้นว่าสีสันวรรณะเป็นสีอย่างไรขอควากระจ่างด้วยนะครับ

ช่างชัช(ผู้เลี่ยม)

ติดต่อ เบอร์ฌทรศัพท์  :  086-7925406