ยันต์ตะกร้อหลวงพ่อสุด วัดกาหลง กับความนัยที่ซ่อนไว้

ยันต์ตะกร้อหลวงพ่อสุด วัดกาหลง กับความนัยที่ซ่อนไว้

 เส้นสาย ลายยันต์ ที่หมุนบิดเป็นเกลียว ล้อมรอบอักขระรูปร่างแปลกๆ เต็มไปหมด และรอบนอกของลายยันต์ ยังถูกล้อม

ไว้ด้วยอักขระอันยืดยาวอีก4ชุด เมื่อนั่งเพ่งมองแล้วราวกับยันต์จะมีชีวิต และเส้นลายยันต์นั้นก็ประหนึ่งว่า จะหมุนวนเป็นวง

ราวกับใบจักรวิ่งสลับกัน และอักขระก็เคลื่อนไหวไปมา จากช้าไปเร็ว

คำอธิบายข้างต้นนั้นคือจินตนาการของผม(หนึ่ง สมุทรสาคร) ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ผมเกิดและโต ที่สมุทรสาคร ได้เห็นยันต์หลังเหรียญ

หลวงพ่อท่านหนึ่ง ที่มีลักษณะแปลกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ได้ยินเรื่องเรื่องราว ประสบการณ์ของหลวงพ่อท่านนี้  ผ่านเรื่องเล่าของ

คนโตหลายๆรุ่น และหนึ่งในเรื่องเหล่านั้น เรื่องของ "ตี๋ใหญ่" ขุนโจรผู้โด่งดัง ที่แม้แต่ทีวี ยังเอาชีวิตเขาไปทำเป็นละคร

ผมสงสัยมาตลอดว่ายันต์นี้ ที่เรียกว่ายันต์ตะกร้อ อักขระต่างๆได้บ่งบอกความนัย ซ่อนเร้นสิ่งใดไว้ภายใน ทำไมจึงถูกผู้คนกล่าวขาน

มานานเนิ่น จนวันนี้ผมโตขึ้น ได้รู้ความนัยของอักขระที่ซ่อนเร้น เป็นปริศนาธรรม เป็นความขลัง เป็นที่ยึดเหนี่ยวความศรัทธา

ของเหล่าศิษย์ตลอดมา วันนี้เรามาอ่านยันต์ตะกร้อกันครับ โดยจะอ่านจากเหรียญปี2507 (เครดิตภาพคุณเส็ง บางแค) 

โดยผมต้องขออภัยที่ทำกราฟฟิคสวยๆไม่เป็นขอลากเส้นง่ายๆนะครับ เริ่มกันเลยครับ

1.เริ่มจากด้านในวงตะกร้อที่วงสีแดงไว้ อ่านว่า

 อะระหัง พุทโธ นะอุตะรัง ปิตตุ อุ ปิตตัง

***นะอุตตะรัง ปิตตุ อุ ปิตตัง เป็นคาถามหาอุดครับ(เอาไว้ท่องก็ดีครับ) ส่วน อะระหัง กับ พุทโธ คงไม่ต้องแปลนะครับ

2.เริ่มอ่านยันต์ด้านนอก โดยเริ่มจากส่วนนอกของตะกร้อที่ขีดสีน้ำเงินไว้ โดยเริ่มจากกึ่งกลางเหรียญด้านบนอ่านวน

ไปทางขวา อักขระจะวิ่งไปตามรอบนอกเท่านั้นนะครับ โดยเขียนไว้ว่า

อะระหัง พุทธะสังมิ นะมะพะทะ

อะระหัง พุทธะสังมิ กะระมะทะ

อะระหัง พุทธะสังมิ กิริมิทิ

อะระหัง พุทธะสังมิ จะภะกะสะ

***พุทธะสังมิ คือหัวใจพระไตรสรณคมณ์ ครับ(พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ)

นะมะพะทะ คือหัวใจธาตุทั้ง4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้เกิดธาตุหนุน เพิ่มพลังความขลัง

กะระมะทะ กิริมิทิ เป็นหัวใจสี่เกลอใช้ได้มากมายหลายทาง เคยเจอในคาถาอาราธนาพระและตะกรุดบ่อยๆ

จะภะกะสะ เป็นหัวใจธาตุกรณีย์ มาจากภาษิตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า

จะทะทุชชะนะสัคคัง .............. จงละเว้นการคบคนชั่วเสีย

 ภะชะสาธุสะมาคะตัง ............  หมั่นคบสมาคมด้วยบัณฑิต

 กะระปุญญะมโหรัตตัง............  ให้สร้างบุญทั้งกลางวันและกลางคืน

สะระนิจจะมะนิจจะตัง.............   ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ

ตัดย่อมาแต่อักขระแรกก็เป็น จะภะกะสะ  พอเข้าใจความหมายแล้วลึกล้ำจริงๆ

3.อักขระชุดที่3ขีดไว้ด้วยสีเขียว

อ่านได้ว่า.....นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง 

เป็นหัวใจพระเจ้าสิบหกพระองค์ ดีทางคงกระพัน และเมตามหานิยม ครับ

**(คาถานี้ยังปรากฏอยู่ในคำอาราธนาบารมีหลวงปู่รุ่งวัดท่ากระบือ อาจารย์องค์หนึ่งของท่าน ...โดยคำบอกเล่าที่ผม/หนึ่ง สมุทรสาคร ไปสอบทานมาจากคนเก่าๆแถววัดท่ากระบือว่าหลวงพ่อสุดพายเรือมาเรียนวิชากับหลวงพ่อรุ่งจริง)

4.อักขระชุดที่4ขีดด้วยสีเหลือง

อ่านได้ว่า ...อุทธัง อัทโธ  โธอุด ธังอัด

อุทธัง อัทโธ เป็นหัวใจมหาอุด ถอดมาจากคาถาบทกรณียเมตตะสุตตังใน7ตำนาน

จากท่อนที่ว่า ... เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง อุทธัง อะโธ จะ ตะริยัญ จะ...

ท่านเอา อุทธัง อะโธ มาใช้โดยเน้นเสียง ให้เป็น อุทธัง อัทโธ และย้ำกลับเป็น โธอุด ธังอัด

5.สำหรับชุดสุดท้าย คืออักขระล้อมรอบยันต์ทั้ง4วรรค ซึ่งอ่านเหมือนกันทั้ง4วรรค

อ่านว่า...นะอุตตะรังวา ปฏิฆาตายะ

นะอุตตะรังเป็นคาถามหาอุด

***ปฏิฆาตายะ  เป็นคาถาตัดมาจากเจ็ดตำนานบท ตังขณิกะปัจจะเวขะนะ

ถ้าแปลตรงตัวหมายถึง ความยึดมั่นในอุตตรธรรม

ซึ่งอุปเทห์ ของหลวงพ่อฯ คงหมายถึง ให้เหล่าศิษย์มีความยึดมั่น อันจะก่อให้เกิดพลังจิตอันแข็งแกร่ง 

และอยู่ในธรรมะอันชอบธรรมนั้นเอง

สำหรับเหล่าศิษย์ของท่านอาจจะนำเอาคาถาทั้งหมดนี้ นำมารวมเป็นคำอาราธนา เหรียญ พระเครื่องราง ตะกรุด

ของท่านผมว่าก็ดีนะครับ เป็นการอาราธนายันตืตะกร้อตรงๆเลยทีเดียว นอกเหนือจากคำอารธนาที่ทางวัดแจกให้มา

เวลาไปทำบุญที่วัด และเมื่อทุกท่านได้ทราบความหมายแล้ว ก็จะมีใจระลึกได้ลึกซึ้งและมั่นคง ดังคาถาที่ว่า

"ปฏิฆาตายะ"  นั่นเอง 

และเหนืออื่นใดคือการระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งก็หมายรวมเอา

หลวงปู่สุด สิริธโร   ที่อยู่ในใจเรานั้นเอง......

บทความนี้ ผมอ้างอิงจากอักขระคาถาของ คญาจารย์เก่าๆ และได้เสริมรายละเอียด

ที่ค้นคว้าเพิ่มเติมลงไป

หากจะมีความดีความศรัทธาใดๆเกิดขึ้น ผมขอเทอดเกียรติให้กับหลวงปู่สุด สิริธโร ผู้เป็นเจ้าของยันต์ตะกร้อ

หากมีความผิดพลาดใดๆกระผมขอน้อมรับไว้แก้ไขแต่เพียงผู้เดียว...จากใจ หนึ่ง สมุทรสาคร